YouTube ออกกฎใหม่ 3 ข้อ โดยทุกคลิปใน YouTube จะมีโฆษณามาคั่น! หรือ Subscription Model คือทางออกของโลกออนไลน์?

เป็นเรื่องที่สร้างเสียงฮือฮาให้กับกลุ่มคนที่ใช้ YouTube กับข้อกำหนดใหม่ที่ทาง YouTube ออกมาประกาศ ซึ่งมี 3 ข้อด้วยกันคือ ข้อจำกัดเกี่ยวกับการจดจำใบหน้า การชำระค่าสิทธิและภาษีหัก ณ ที่จ่าย และสิทธิ์ในการสร้างรายได้ของ YouTube ซึ่งข้อสุดท้ายนี่แหละ ถือเป็นข้อที่ทำให้หลายคนแตกตื่น

ก่อนอื่นเรามาไล่ทีละข้อดีกว่า ว่ารายละเอียดมันคืออะไร

1. ข้อจำกัดเกี่ยวกับการจดจำใบหน้า อธิบายง่ายๆ คือ ต่อไปนี้หากใครจะทำคอนเทนต์หรือคลิปลง YouTube ต้องระวังในเรื่องการเห็นใบหน้าบุคคลอื่น โดยที่บุคคลนั้นไม่อนุญาต ถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็ควรเบลอใบหน้าบุคคลนั้นแทน ซึ่งข้อนี้ YouTube เองก็ยังไม่ได้ชี้แจ้งรายละเอียดมากนัก ต้องติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมอีกครั้ง
2. การชำระค่าสิทธิและภาษีหัก ณ ที่จ่าย แน่นอนว่าการทำคอนเทนต์ลง YouTube ถือเป็นหนึ่งในการสร้างรายได้ และเราต้องเสียภาษี ซึ่งข้อนี้ YouTube ออกมาแจ้งให้เราทำการกรอกแบบฟอร์มการเสียภาษี เมื่อเราได้รายได้จาก YouTube เราจะโดนหักภาษีเพียง 5% แต่ใครไม่กรอกอาจโดนภาษีจาก Google ถึง 24% สำหรับบุคคลธรรมดา และ 30% สำหรับนิติบุคคล

   ซึ่งการชำระเงินดังกล่าวจะถือเป็นค่าลิขสิทธิ์โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2021 ทั้งนี้ Google จะหักภาษี ณ ที่จ่ายจากการชำระเงินดังกล่าวตามที่กฎหมายกำหนด

3. สิทธิ์ในการสร้างรายได้ของ YouTube ข้อนี้แหละคือไฮไลต์ในการประกาศข้อกำหนดใหม่ของ YouTube ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเริ่มรู้สึกว่าทำไมช่วงนี้มีโฆษณาใน YouTube เยอะจัง นั่นแหละคือตัวทดสอบสำหรับข้อนี้ ก่อนหน้านี้โฆษณาใน YouTube จะขึ้นในคอนเทนต์ หรือคลิปที่เปิดสร้างรายได้แล้วเท่านั้น แต่ตอนนี้ YouTube ออกมาประกาศว่า เขาจะปล่อยโฆษณาในคลิปทุกช่อง ทุกประเภท ไม่ว่าช่อง YouTube นั้นจะเปิดสร้างรายได้ผ่านแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ผ่านก็จะมีโฆษณาขึ้น แถม Creator เองก็ไม่มีรายได้เกิดขึ้นด้วย

   ข้อนี้ทำให้ใครหลายคนออกมาตั้งข้อสงสัยกันว่า การที่ YouTube ทำแบบนี้ ถือเป็นการทำให้คนหันมาใช้บริการ YouTube Premium กันมากขึ้นหรือเปล่านะ? ซึ่งทั้งหมดนี้ มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2564 นี้แล้ว!

การทำแบบนี้ถือเป็นการเข้าสู่ Subscription Model อย่างเต็มตัวของ YouTube เลยก็ว่าได้ หลายคนอาจจะสงสัยว่า Subscription Model คืออะไร อธิบายง่ายๆ คือรูปแบบการทำธุรกิจแบบคิดค่าบริการจากการเป็นสมาชิก มีทั้งแบบรายเดือน และรายปี เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงบริการต่างๆ ได้

ตัวอย่างธุรกิจที่ใช้เช่น Adobe, Netflix, Microsoft, New York Times เป็นต้น

โดยรูปแบบรายได้ของ Subscription นั้นจะช่วยให้ธุรกิจใช้ประโยชน์จากมูลค่าของความสัมพันธ์ของแบรนด์หรือธุรกิจกับลูกค้าได้

ในอนาคตทิศทางการจัดการ หรือข้อกำหนดของ YouTube จะเปลี่ยนไปอย่างไร การทำแบบนี้จะเป็นการทำให้คนหันมาใช้ YouTube Premium กันมากขึ้นหรือไม่? เพื่อนๆ มาแสดงความเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของ YouTube ได้เลย

อ้างอิง:

• YouTube. Updated Terms of Service FAQs. https://bit.ly/3i6bJwM
  Popticles. รู้จัก Subscription Model รูปแบบธุรกิจที่มาแรง. https://bit.ly/3c5412c