ทำความรู้จัก [ yellow tail ] ไวน์สัญชาติออสเตรเลีย กับการทำแบรนด์ผ่านไลฟ์สไตล์ที่สนุก เข้าถึงได้ทุกรุ่น สู่การเป็นแบรนด์ที่รักของผู้คนมากที่สุดถึง 6 ปีซ้อน

หากพูดถึง ‘การดื่มไวน์’ เชื่อว่าคนทั่วไปคงยากจะนึกภาพตัวเองกับโมเมนต์ดังกล่าว

เพราะขึ้นชื่อว่า ‘ไวน์’ ภาพที่นึกถึงคือความหรูหรา มาพร้อมกับวิธีการดื่มที่ซับซ้อน รวมถึงรูปลักษณ์ของไวน์เองที่เข้าถึงยาก จากฉลากที่ค่อนข้างมีศัพท์แสงเฉพาะตัว ทำให้ต้องเป็นคอไวน์มาแล้วระดับหนึ่งถึงจะเข้าใจเรื่องการเลือกไวน์

แต่ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อมีไวน์โลกใหม่เกิดขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้โดยไม่ต้องสั่งสมประสบการณ์มากมาย แถมยังบ่งบอกถึงสายพันธุ์องุ่นที่ชัดเจน ฉลากอ่านง่าย นั่นคือไวน์สัญชาติออสเตรเลียแบรนด์หนึ่งได้กลายเป็นที่ครองใจของผู้บริโภคหลายรุ่น ตั้งแต่ช่วงอายุ 20-40 ปี โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนทำงานในบริษัทชั้นนำทั่วโลก

นั่นคือ [ yellow tail ] ไวน์ที่มีโลโก้จิงโจ้บ่งบอกถึงถิ่นที่มา พวกเขาเลือกทำธุรกิจในแนวทางที่ต่างออกไปจากการแข่งขันของตลาดใหญ่ ด้วยความโดดเด่นและแตกต่างนี้เองจึงทำให้ [ yellow tail ] เป็นแบรนด์ไวน์ที่ทรงพลัง และเป็นที่รักมากที่สุดในโลกเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันถึง 6 ปี ตั้งแต่ปี 2018 – 2023 จาก Associate Wine Intelligence

BrandThink จึงขอหยิบยกเรื่องราวการทำธุรกิจของ [ yellow tail ] มาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน

ทุกอย่างเริ่มต้นหลังจากที่ตระกูลคาเซลลา (Casella) ผู้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการผลิตเหล้าองุ่นและไวน์ ได้อพยพจากเมืองซิซิลี ประเทศอิตาลี ไปยังเมืองเยนดา รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย และในปี 2001 พวกเขาได้ตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ไวน์ชื่อว่า [ yellow tail ]
โดยสร้างโรงกลั่นไวน์อันล้ำสมัยของตัวเองขึ้นมา และรวบรวมมรดกอันล้ำค่าของการผลิตไวน์แบบดั้งเดิมจากอิตาลี ผสานเข้ากับความเรียบง่ายตามแบบฉบับของวัฒนธรรมชาวออสเตรเลีย  

ผ่านแนวคิดในการวางตำแหน่งทางการตลาดของแบรนด์ให้แตกต่างไปจากแบรนด์ในตลาดใหญ่ หรือพูดง่ายๆ ก็คือตัดสินใจไม่แข่งขันกับไวน์ฝรั่งเศสหรืออิตาลีที่เต็มไปด้วยความซับซ้อนของการผลิต รวมถึงความเก่าแก่ของไร่องุ่น

แต่นิยามแบรนด์ตัวเองว่าเป็นไวน์คุณภาพที่ ‘สนุก’ และ ‘เข้าถึงได้’ จากนั้นจึงกำหนดเป้าหมายไปยังผู้บริโภคไวน์ประเภทใหม่ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ [ yellow tail ] สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดใหม่โดยเฉพาะในอเมริกาได้อย่างมาก
ด้วยการพัฒนาแบรนด์และการตลาดให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ต้องมีพิธีรีตองเยอะ ไม่จำเป็นต้องเป็นบนโต๊ะอาหารหรือในงานเฉลิมฉลอง แต่ที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ จึงสามารถขยายฐานผู้บริโภคได้กว้างมากขึ้น

[แนวคิดที่แตกต่าง โดดเด่น มีเอกลักษณ์ สู่แบรนด์อันเป็นที่รัก]

อย่างที่ได้เล่าไป ด้วยความไม่ต้องการแข่งขันกับตลาดใหญ่ จึงทำให้ [ yellow tail ] มีหลักยึดที่มั่นคงของตัวเอง และต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของการเติบโตที่ยิ่งใหญ่ ได้แก่

– ได้รับรางวัล Wine Awards มากกว่า 550+ รางวัลทั่วโลก ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2001
– ปี 2020 ในแต่ละวันทั่วโลกมีการเสิร์ฟไวน์ [ yellow tail ] มากถึง 2.4 ล้านแก้วต่อวัน
– มียอดขายเป็นอันดับ 3 ทั่วโลก (จากปริมาณน้ำไวน์ทั้งหมด)
– มียอดการส่งออกไวน์ 15.7 เปอร์เซ็นต์ จากไวน์ทั้งหมดของออสเตรเลีย
– ยังคงเป็นไวน์ออสเตรเลียอันดับ 1 ที่ขายดีที่สุดในอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดไวน์ใหญ่ที่สุดในโลก

ส่วนหนึ่งเพราะแบรนด์ใส่ใจกับรายละเอียดอย่างมาก ทั้งฉลากที่ไม่มีศัพท์แสงยากๆ เน้นเฉพาะศัพท์ที่จำเป็นให้ผู้บริโภคเข้าใจ เพื่อลดความประหม่าในการซื้อดื่ม นำไปสู่แนวคิดในการออกแบบขวดที่เรียบง่ายแต่ยังคงความเท่ พร้อมแต่งแต้มด้วยสีสัน นอกจากนี้คือการสร้างพันธมิตรกับผู้จัดจำหน่ายไวน์ในท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา

จากหัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ที่ ‘เข้าถึงง่าย’ มีเอกลักษณ์และหลากหลาย รวมถึงรูปลักษณ์ที่เป็นมิตรนี้เอง ทำให้คว้าหัวใจของคนรุ่นใหม่ที่เริ่มหันมาสนใจดื่มไวน์ เพราะมันทั้งสนุกและช่วยทำให้ไลฟ์สไตล์ของตัวเองน่าดึงดูดขึ้นอีกด้วย