ชวนส่องค่านิยม WISE จากนิด้า หลัก ‘ความรู้คู่คุณธรรม’ ที่มาพร้อมกับความยั่งยืนและเห็นอกเห็นใจ ค่านิยมที่ผู้นำยุคใหม่ควรมี
ในโลกนี้ต้องการ ‘คนเก่ง’ หรือ ‘คนดี’ กันแน่? เป็นคำถามที่คงอยู่มาในแทบทุกยุคทุกสมัย การได้คนเก่งแน่นอนว่าเป็นประโยชน์ในเรื่องของการพัฒนา แต่การได้คนดี ก็เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม หรือว่าจริงๆ แล้วเราจะไม่ต้องเลือก เพราะในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ความรู้คู่คุณธรรม’ อยู่
‘ความรู้คู่คุณธรรม’ หรือ การมีความรู้ที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อชีวิตและสังคม พร้อมกับการประพฤติปฏิบัติที่ดีและมีจริยธรรม จึงเป็นสิ่งที่บัณฑิตและทุกคนพึงมี ไม่อย่างนั้นความรู้ที่มีก็คงไม่มีประโยชน์ต่อส่วนรวม ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิด
เหมือนที่นิด้า (NIDA) หรือ National Institute of Development Administration ‘สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์’ สถาบันการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ในกำกับของรัฐ ที่เปิดสอนเฉพาะหลักสูตรปริญญาโท และปริญญาเอก มาเป็นเวลากว่า 58 ปี ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่า “เป็นสถาบันสรรค์สร้างปัญญาของสังคม และสร้างผู้นำ เพื่อไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ในระดับสากล”
โดย ‘นิด้า’ ยังสอดแทรกเรื่องของความยั่งยืนและความเห็นอกเห็นใจ อันเป็นค่านิยมสำคัญในปัจจุบันไว้ด้วย ในค่านิยมหลัก อย่าง ‘WISE’ อันประกอบได้ด้วย Wisdom, Integrity, Sustainable Impacts และ Empathy
วันนี้เราจะได้รู้ว่าค่านิยมทั้ง 4 ประการนี้ จะนำทางโลกนี้ไปได้อย่างไรบ้าง ผ่านบทสัมภาษณ์ของตัวแทน ดุษฎีบัณฑิต ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก จากนิด้า ทั้ง 6 คน ที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ครั้งที่ 45 ในวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 ได้แก่ ดร.วิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์, ดร.กาญจนา เหล่าโชคชัยกุล, ดร.รุจินันท์ เอื้อพิทักษ์สกุล, ดร.ประภพ อนันตกูล, ดร.ชินวัฒน์ อัศวชัยโสภณ และ พันตำรวจโท ดร.ณรงค์ฤทธิ์ บุญมี
Quote “ถ้าจะสร้างปัญญาให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน จะต้องมีความซื่อตรง ความซื่อสัตย์ ความถูกต้อง และการเข้าใจคน”
มาเริ่มกันที่ ดร.วิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ดุษฎีบัณฑิต จากคณะบริหารการพัฒนาสิ่งแวดล้อม นิด้า ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองปลัดกรุงเทพมหานคร ที่เรียนด้านสิ่งแวดล้อมและได้นำความรู้คู่คุณธรรมไปดูแลโลกใบนี้ต่ออย่างยั่งยืน ผ่านค่านิยม 4 ประการ อย่าง ‘WISE’
“ผมเห็นด้วยว่าค่านิยมชุดใหม่มันสอดคล้องกับหลักปรัชญาของสถาบัน ที่เป็นเรื่องการสร้างปัญญาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ถ้าจะสร้างปัญญาให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน จะต้องมีความซื่อตรง ความซื่อสัตย์ ความถูกต้อง และการเข้าใจคน”
ดร.วิรัตน์ได้นำค่านิยมทั้ง 4 ข้ออย่าง WISE มาปรับใช้อย่างไรบ้าง?
“ในด้านความรู้สำนักสิ่งแวดล้อมดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมของกรุงเทพมหานคร รวมไปถึง PM2.5 การจัดการขยะต่างๆ การที่เราไปเรียนที่นิด้า ทำให้ได้องค์ความรู้มากขึ้น การจัดการขยะที่เอามาดำเนินการ ขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ที่เราจะจัดการขยะ ทำให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน และเกิดประโยชน์มาก โดยที่ไม่ต้องมาทำซ้ำอยู่เรื่อยๆ”
“ส่วนความซื่อตรง จริงๆ แล้วควรจะเป็นสิ่งที่มีในทุกคน ในทุกองค์กรอยู่แล้ว การที่เราจะทำอะไรก็แล้วแต่ แม้ว่าเราจะมีความรู้ความสามารถ แต่ถ้าเราไม่ซื่อตรง ปฏิบัติไม่ถูกต้อง มีการเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือทำเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง มันก็จะทำให้เราไม่สามารถที่จะเกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนได้ แล้วก็จะเกิดปัญหาในการทำงานมากขึ้นด้วยซ้ำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญในสังคมไทย เรื่องของความซื่อสัตย์ ความซื่อตรง และการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ผมว่าเป็นสิ่งจำเป็นของทุกองค์กร”
“ส่วนเรื่องความยั่งยืน เรามีส่วนร่วมกับภาคีเครือข่ายในการผลักดัน การลงมือปฏิบัติเพื่อให้บรรลุเป้าหมายและสร้างคุณค่าร่วมอย่างยั่งยืนในสังคม ซึ่งตรงนี้ผมได้เอามาดำเนินการเยอะมากในการร่วมกับภาคีเครือข่ายเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดการขยะเวลาจัดกิจกรรมต่างๆ ทำให้เรารู้สึกว่าเกิดการเปลี่ยนแปลง
“สำหรับความเข้าอกเข้าใจ อันนี้สำคัญเลย ทุกคนต้องเข้าใจบริบทของแต่ละคนที่มาคุยกัน ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์ เพื่อนในที่เรียน แต่ละบุคคลมันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ต้องเข้าใจกันว่าแต่ละคนเป็นยังไง ในที่ทำงาน เราต้องเข้าใจว่าเราอยากให้งานสำเร็จ แต่ทุกคนมีภาระมีหน้าที่ ต้องเอาทางสายกลางที่ทุกคนมีส่วนร่วม และสามารถทำได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญเรามาช่วยกันคิด”
“นอกจากความรู้คู่คุณธรรมแล้ว ความเห็นอกเห็นใจก็สำคัญและช่วยให้เกิดความยั่งยืนได้ไม่แพ้กัน”
“ผมว่าคนในสังคม มีบางคนไม่สามารถที่จะเข้าถึงบางอย่างได้ เขาก็ไม่ได้อยากเกิดมาเป็นอย่างนี้ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจ สังคม ความเท่าเทียม มันก็ไม่เท่าเทียมกันอยู่แล้ว ยิ่งไปเอาเปรียบเขามันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ถ้าเราไม่ให้คุณค่ากับคนอื่นที่เขาด้อยกว่า สังคมก็จะไม่ยั่งยืน”
Quote “ค่านิยมชุดใหม่ที่ให้ความสําคัญกับ Empathy สําคัญมากสําหรับสังคมที่มีความหลากหลายในปัจจุบัน จําเป็นอย่างมากสําหรับการเป็นชุดความเชื่อที่ควรอยู่ในตัวคนที่จะกลายไปเป็นผู้นํา ถ้าเราเป็นผู้นําที่มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าอกเข้าใจผู้อื่น สังคมจะไม่มีปัญหา และจะไม่มีความรู้สึกเอารัดเอาเปรียบต่อกันเลย”
ถัดมาที่ ดร.กาญจนา เหล่าโชคชัยกุล ดุษฎีบัณฑิต จากคณะพัฒนาสังคมและยุทธศาสตร์การบริหาร นิด้า ผู้อำนวยการหลักสูตรปริญญาตรี หลักสูตรการจัดการมรดกวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ (BMCI) วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่เชื่อว่า ‘WISE’ คือค่านิยมที่ควรอยู่ในตัวผู้นำทุกคน
“มหาวิทยาลัยย่อมให้ปัญญาอยู่แล้ว แต่ว่ามหาวิทยาลัยยังต้องบ่มเพาะผู้คนที่จะคอยเป็นผู้นําทางสติปัญญาที่ไม่ใช่แค่มีปัญญา คือทุกคนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเพราะต้องการความรู้ แต่ตัวค่านิยมชุดใหม่ของนิด้าที่ให้ความสําคัญกับ Empathy สําคัญมากสําหรับสังคมที่มีความหลากหลายในปัจจุบัน จําเป็นอย่างมากสําหรับการเป็นชุดความเชื่อที่ควรอยู่ในตัวคนที่จะกลายไปเป็นผู้นํา เพราะถ้าเราเป็นผู้นําที่มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าอกเข้าใจผู้อื่น สังคมจะไม่มีปัญหา จะไม่มีความรู้สึกเอารัดเอาเปรียบต่อกันเลย ซึ่งส่วนนี้มันรวมกันอยู่ในส่วนของความซื่อสัตย์ ความซื่อตรงด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อกันและกัน ส่วนเรื่องของความยั่งยืน นิด้าทํามานานแล้ว ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องสิ่งแวดล้อม ความยั่งยืน หมายรวมถึงวิถีชีวิต ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ที่จะต้องไปด้วยกัน อยู่ด้วยกัน ไม่ใช่ปลูกต้นไม้โดยละเลยชีวิตมนุษย์ ไม่ใช่ให้ความสําคัญกับมนุษย์ อํานวยความสะดวกจนลืมสิ่งแวดล้อม ตรงส่วนนี้มันเป็นส่วนผสมที่ค่อนข้างจะให้ความสําคัญ แล้วก็ถูกนํามาเป็นค่านิยมหลัก”
ถ้าพูดถึง ‘WISE’ ดร.กาญจนา มีความคิดเห็นอย่างไรกับค่านิยมชุดนี้บ้าง?
“ปัญญา เป็นเงื่อนไขสําคัญที่ทุกคนจะได้รับหรือมี จากการศึกษาในการศึกษาระดับสูง นี่คือเงื่อนไขพื้นฐานที่บัณฑิตนิด้าทุกคนจะต้องถูกบ่มเพาะให้มีความรู้ และความเชี่ยวชาญในศาสตร์ที่ตัวเองตัดสินใจมาเรียน”
“ความซื่อตรงสําหรับเรา คือการรับผิดชอบต่อความคิดเห็น การรับผิดชอบต่อหน้าที่ ความซื่อตรง จริยธรรม จรรยาบรรณที่คนที่เรียนมาในระดับสูง หรือบัณฑิตศึกษา พึงมี และพึงตระหนักว่าคุณกําลังจะกลายไปเป็นผู้นําในสังคม สิ่งนี้ควรจะสถิตอยู่ในใจของคนที่จบการศึกษาในระดับนี้ อยู่ในมโนสํานึกเสมอมา สําหรับการเติบโตออกไปเป็นผู้บริหารหรือผู้นําองค์กรในปัจจุบัน”
“ในเรื่องของความยั่งยืน เราเรียนพัฒนาสังคม เราเรียนเรื่องนโยบาย เรามีการวิพากษ์วิจารณ์ต่อเรื่องการนําประเด็นเรื่องความยั่งยืนมาสู่การเป็นนโยบาย อย่างเป็นรูปธรรม ความยั่งยืนใครๆ ก็พูดได้ในสังคมตอนนี้ แต่เราจะทําอย่างไร ผลักดันอย่างไร ให้ความยั่งยืนเป็นรูปธรรมที่จริงจัง และนําไปสู่การปฏิบัติได้จริง การให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ไม่ให้มันเกิดความสูญเสียอย่างเปล่าประโยชน์ ไม่เบียดเบียนผู้คนในอนาคต จะไปสู่คำว่า Empathy หรือตัว E ซึ่งเป็นอีกค่านิยมหนึ่งใน WISE”
Quote “จากพื้นฐานค่านิยม WISE ที่ปลูกฝังทั้งบุคลากรและนักศึกษาของนิด้า ไม่ว่าบัณฑิตของนิด้าจะจบการศึกษาไปอยู่ในองค์กรใดก็ตาม ดีเอ็นเอของนิด้าก็จะยังคงอยู่ และสิ่งเหล่านี้ที่จะเป็นส่วนช่วยในการทำให้เกิดการพัฒนาตัวเอง และทำให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
สำหรับ ดร.รุจินันท์ เอื้อพิทักษ์สกุล ดุษฎีบัณฑิต จากคณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ นิด้า อาจารย์ประจำหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาการจัดการการสื่อสาร มหาวิทยาลัยพะเยา กับการใช้ค่านิยม ‘WISE’ ทำให้เกิดปัญญา การพัฒนา และเรียนรู้ตลอดชีวิต
“จากพื้นฐานค่านิยม ‘WISE’ ที่ปลูกฝังทั้งบุคลากรและนักศึกษาของนิด้า ที่ต้องเอาปัญญา องค์ความรู้ต่างๆ ไปใช้เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยที่จะต้องมีในเรื่องของความซื่อสัตย์ ความเข้าอกเข้าใจคนอื่น สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนิด้า ความเป็นอัตลักษณ์ ความเป็นเอกลักษณ์ เป็นดีเอ็นเอของนิด้า ไม่ว่าบัณฑิตของนิด้าจะจบการศึกษาไปอยู่ในองค์กรใดก็ตาม ดีเอ็นเอของนิด้าก็จะยังคงอยู่ และสิ่งเหล่านี้ที่จะเป็นส่วนช่วยในการทำให้เกิดการพัฒนาตัวเอง และทำให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต”
สำหรับค่านิยม WISE แต่ละตัว ดร.รุจินันท์ มองว่าอย่างไรบ้าง?
“W หรือ Wisdom เป็นเรื่องขององค์ความรู้ และการสร้างองค์ความรู้เพื่อที่จะไปพัฒนาสังคมต่อไป เป็นการเรียนรู้ที่ตลอดชีวิต”
“ส่วนความซื่อตรง I หรือ Integrity เป็นเรื่องของการมีจริยธรรมและจรรยาบรรณในวิชาชีพ ความซื่อสัตย์ ซื่อตรง ได้ถูกปลูกฝังในหลักสูตรการเรียนการสอน ที่เน้นให้ผู้เรียนเป็นคนที่มีจริยธรรม มีจรรยาบรรณในการเรียนการสอน”
“ส่วนผลกระทบที่ยั่งยืน S หรือ Sustainable Impacts เป็นเรื่องของการปลูกฝังทัศนคติและจิตสำนึก ให้มีความรักสิ่งแวดล้อม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนค่ะ”
“ส่วนความเข้าอกเข้าใจคนอื่น E หรือ Empathy มองว่าเป็นในเรื่องของความเข้าใจความคิดความรู้สึกและความต้องการของคนอื่น และเป็นการเคารพความเห็นที่แตกต่าง”
“ค่านิยมที่ถูกปลูกฝังอยู่ในตัวบัณฑิตแต่ละคนจะถูกกระจายไปอยู่ในองค์กรต่างๆ ทุกภาคส่วนของสังคม ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้จะเป็นรากฐานที่มั่นคงที่จะให้บัณฑิตแต่ละคนนำไปใช้ในการพัฒนาสังคม ให้เติบโตอย่างแข็งแรงและขับเคลื่อนสังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้น”
Quote “บัณฑิตเป็นผู้ใฝ่หาความรู้ นอกจากเอาความรู้เข้าตัวเองแล้ว เราต้องเป็นผู้ให้ด้วย คือให้กับคนอื่น ให้กับสังคม ให้กับประเทศชาติ สิ่งสําคัญ คือ การให้ รับมาแล้วส่งต่อ เป็นสิ่งสําคัญที่สุด ค่านิยมเหล่านี้เป็นสิ่งจําเป็นที่ต้องคํานึงถึง”
ดร.ประภพ อนันตกูล ดุษฎีบัณฑิต จากคณะการจัดการการท่องเที่ยว นิด้า ผู้อำนวยการส่วนงานโครงการและวิเทศสัมพันธ์ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมธนารักษ์ จากการเรียนรู้ที่ครบวงจร ประกอบกับค่านิยม ‘WISE’ ของนิด้าทำให้สร้างปัญญาในทุกมิติที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้จากการให้
“บัณฑิตเป็นผู้ใฝ่หาความรู้ นอกจากเอาความรู้เข้าตัวเองแล้ว เราต้องเป็นผู้ให้ด้วย คือให้กับคนอื่น ให้กับสังคม ให้กับประเทศชาติ สิ่งสําคัญ คือ การให้ รับมาแล้วก็ส่งต่อ เป็นสิ่งสําคัญที่สุด ค่านิยมเหล่านี้เป็นสิ่งจําเป็นที่ต้องคํานึงถึง”
ดร.ประภพ คิดอย่างไรต่อค่านิยมหลักของนิด้าอย่าง ‘WISE’ บ้าง?
“จากพื้นฐานวิสัยทัศน์ของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ที่เน้นในเรื่องการสร้างปัญญา เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งบรรยากาศของนิด้าเองก็พยายามที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ การค้นคว้า ทําให้เกิดปัญญาขึ้น ทั้งจากการเรียนรู้ในห้องเรียน นอกห้องเรียน เพื่อนร่วมงาน รวมถึงข้างนอกด้วย ก็เป็นการสร้างองค์ความรู้ทําให้เกิดปัญญาให้ครบทุกมิติ”
“สำหรับความซื่อตรง ไม่ว่าเราจะทําอะไร ทําอาชีพอะไร เราต้องมีความซื่อตรง คือ การสร้างวินัยให้กับตนเอง ทั้งเรื่องการเรียนรู้ วินัยต่อตนเอง วินัยต่อผู้อื่น รวมถึงวินัยต่อสถาบันด้วย และเป็นจรรยาบรรณในการดํารงชีพ สามารถนําตัวนี้ไปใช้กับสิ่งอื่นในชีวิตต่อได้”
“ในเรื่องของความยั่งยืน พื้นฐานของนิด้า คือเรียนรู้จากปัญญาตัวเอง แล้วนํามาพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งนิด้าเป็นที่แรกที่เน้นเรื่องศูนย์การเรียนรู้แบบยั่งยืน รวมถึงเรื่องของการดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม บรรยากาศต่างๆ เหล่านี้บ่งบอกให้เรารู้สึกถึงการพัฒนาให้เกิดความยั่งยืน เป็นเรื่องของวัฒนธรรมองค์กรซึ่งทําให้เกิดความยั่งยืนอย่างแท้จริง”
“เรื่องความเห็นใจผู้อื่น จริงๆ แล้วเป็นพื้นฐานของคนทั่วไป ที่เขามีความรู้สึกว่าเห็นใจคนอื่น นอกจากนิด้าจะพยายามสร้างบรรยากาศให้เกิดการเรียนรู้ ทั้งการเรียนรู้จากตํารา นิด้ายังสร้างการเรียนรู้จากเพื่อนร่วมชั้นเรียนด้วย ซึ่งมันสามารถนําไปต่อยอดเวลาที่เราไปทํางาน ต้องเรียนรู้จากคนอื่นให้มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถนําไปพัฒนา นําไปสื่อสาร พูดในภาษาที่เขาพูด พยายามเข้าใจพื้นฐาน เพื่อให้สามารถที่จะทํางานร่วมกันได้”
Quote “ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จจริงๆ จะต้องเก่ง และมีธรรมาภิบาลและประชาคม มีสองตัวนี้ผนวกกัน”
มาต่อกันที่ ดร.ชินวัฒน์ อัศวชัยโสภณ ดุษฎีบัณฑิต จากวิทยาลัยนานาชาติ นิด้า ผู้จัดการด้านการตลาด บริษัท สยาม คีนิค เซลส์ จำกัด กับการใช้ค่านิยม ‘WISE’ ในการเรียนรู้แบบไม่สิ้นสุด เพื่อยืนหยัดในโลกที่กำลังเปลี่ยนไป เพราะเชื่อว่า
“ผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จจริงๆ จะต้องเก่ง และมีธรรมาภิบาลและประชาคม มีสองตัวนี้ผนวกกัน”
ทำความเข้าใจค่านิยม 4 ประการ อย่าง ‘WISE’ ผ่านมุมมองของ ดร.ชินวัฒน์
“ปัญญา เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ เพราะโลก และเทคโนโลยีเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าเราตามไม่ทันเราก็จะเสียเปรียบ เสียโอกาสทางธุรกิจไป
อีกส่วนคือ เราต้องมีความซื่อสัตย์ ยุติธรรม ทุกอย่างจะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ และความยั่งยืน คือการพัฒนาธุรกิจไปพร้อมกับการพัฒนาสังคม เพราะว่าถ้าเกิดเราไม่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือสังคมเลย คุณภาพชีวิตของคนรุ่นนี้ในอนาคตก็อาจจะลดลงได้
“สุดท้ายการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ถ้าผู้บริหารต่างๆ สามารถนำหลักการนี้ไปใช้ มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน”
Quote “ความซื่อสัตย์สุจริตและความซื่อตรง จะทําให้สังคมสงบสุขได้ พอเรามีความซื่อสัตย์ มีความเที่ยงตรง มีความเป็นธรรมแล้ว คุณธรรมก็จะเกิดในใจเรา สังคมก็จะสงบสุข”
ปิดท้ายกันด้วย พันตำรวจโท ดร.ณรงค์ฤทธิ์ บุญมี ดุษฎีบัณฑิต จากคณะนิติศาสตร์ นิด้า สารวัตรสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ใช้ค่านิยมทั้ง 4 ประการ เป็นหลักในการพัฒนาตัวเอง และพัฒนาสังคมที่เราอยู่ เพื่อนำทางไปสู่ความถูกต้อง เพราะเชื่อว่าความซื่อตรงจะนำสังคมไปสู่ความสงบสุข
“ความซื่อตรง หมายความว่าตัวเราต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต และเที่ยงธรรมกับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการดําเนินชีวิต การเล่าเรียน หรือการดํารงชีวิตในแต่ละวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทําให้สังคมสงบสุขได้ พอเรามีความซื่อสัตย์ มีความเที่ยงตรง มีความเป็นธรรมแล้ว คุณธรรมก็จะเกิดในใจเรา สังคมก็จะสงบสุขได้”
แล้วพันตำรวจโท ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ตีความค่านิยมทั้ง 4 ข้อ ของนิด้าว่าอย่างไรบ้าง?
“ค่านิยมหลักของนิด้า มีทั้งปัญญา ความซื่อตรง ความซื่อสัตย์ การสร้างผลกระทบเชิงบวกอย่างยั่งยืน และความเห็นอกเห็นใจเข้าใจผู้อื่น เป็นสิ่งที่สําคัญมาก ที่จะน้อมนําให้เรายึดเหนี่ยวแล้วก็ยึดถือในคุณธรรม และนําสติปัญญาหรือความรู้ที่เราได้รับ จากการเรียนที่นิด้าและคณาจารย์แห่งนี้ มาพัฒนาตัวเอง พัฒนาสังคมที่เราอยู่ ตลอดจนช่วยเหลือผู้อื่นตามฐานะ ตามอาชีพ”
“ส่วนตัวผลกระทบที่ยั่งยืน Suntainable Impacts ผลกระทบมันมีทั้งผลกระทบทางด้านตัวเราเอง เศรษฐกิจ สังคม ตัวเราเองเราได้รับผลกระทบจากการเรียน ก็ต้องมีความอดทน จะทําให้เราก้าวข้ามไปได้ครับ”
“ความเข้าใจผู้อื่น ที่ผมได้เล่าเรียนจากนิด้า คือเราต้องยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่นด้วย แม้ว่าสิ่งที่เราได้รับการถ่ายทอด หรือความคิดเห็นของเพื่อนร่วมชั้นเรียน มีความแตกต่างกัน เราก็มาแชร์กัน แลกเปลี่ยนกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดได้ครับ”
นอกจากที่นิด้าจะให้ความรู้ สอนการคิด การสร้างปัญญาให้กับบัณฑิตทุกคนแล้ว จะเห็นได้เลยว่าค่านิยมทั้ง 4 ประการ หรือ ‘WISE’ ที่นิด้าได้ปลูกฝังให้บัณฑิตทุกคน ก็เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ที่ดี และจะเติบโตไปสร้างประโยชน์ให้สังคม ไม่ว่าจะเป็น W Wisdom ปัญญา, I Integrity ความซื่อตรง, S Sustainable Impact การสร้างผลกระทบที่ยั่งยืน และ E Empathy ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ค่านิยมทั้ง 4 ประการนี้ นอกจากจะเป็นหลักคิดให้บัณฑิตของนิด้าแล้ว เชื่อว่าจะได้รับการส่งต่อและถูกนำไปปรับใช้ในสังคมอย่างแพร่หลาย ช่วยสร้างสังคมที่มีคุณภาพได้แน่นอน
สำหรับใครที่กำลังสนใจเรียนต่อในระดับปริญญาโท หรือปริญญาเอก ก็มาที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ได้เลย เพราะนอกจากความรู้ที่จะได้แล้ว รับรองว่าจะได้หลักคิดดี ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิต และต่อยอดไปสู่การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนได้ด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://nida.ac.th/
Facebook: NIDA Thailand
Line Official: @nidathailand