ทุกวันนี้ที่พูดกันว่า ‘สังคมไร้กระดาษ’ จริงๆ เราใช้กระดาษกันมากกว่าเมื่อก่อนอีก
‘กระดาษ’ คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมหาศาลกับอารยธรรมของมนุษย์มาช้านาน เพราะมันแทบจะเป็นตัวแทนของ ‘การบันทึก’ เรื่องราวต่างๆ ในโลกเอาไว้ ทำให้ภูมิปัญญาของมนุษย์มีความต่อเนื่องเป็นเวลาหลายพันปีและทำให้สิ่งมีชีวิตอย่างมนุษย์สร้างอารยธรรมต่อยอดกันมาได้เรื่อยๆ
แต่ในยุคนี้ เราคงเคยได้ยินคำว่า ‘สังคมไร้กระดาษ’ กันบ่อยๆ เพราะทุกอย่างในสังคมปัจจุบันที่เคยวนเวียนอยู่กับกระดาษก็เริ่มล้มหายตายจากและมีรูปแบบดิจิทัลของมันมาแทนที่ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือและนิตยสารที่เป็นอุตสาหกรรมที่หดตัวมากที่สุด หรือจะเป็นธนบัตรที่ทุกวันนี้ ‘เงินกระดาษ’ ถูกแทนที่ด้วยระบบการโอนเงินดิจิทัล แม้กระทั่งเงินแบบจับต้องได้ก็เปลี่ยนไปทำจากพลาสติกมากขึ้น ไม่ต้องพูดถึงพวกเอกสารราชการต่างๆ ที่มีการพยายามจะทำในรูปแบบดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆ จนในอนาคต คำว่า ‘Paper’ ในความหมายของ ‘เอกสารทางการ’ ในภาษาอังกฤษอาจทำให้คนรุนหลังงงว่าทำไมถึงใช้คำนี้ เพราะมันอาจแทบไม่มีเอกสารทางการใดๆ ถูกปรินต์ออกมาเป็นกระดาษอีกแล้ว
ซึ่งในบริบทแบบนี้ ถ้าให้ทายก็คงจะคิดว่า ทุกวันนี้มนุษย์ใช้กระดาษน้อยลงแน่ๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อุตสาหกรรมผลิตกระดาษในโลกกำลัง ‘เติบโต’ อยู่เช่นเคย มันไม่ได้ ‘หดตัว’ อย่างที่หลายคนคิด
แน่นอนว่ามันไม่ได้โตเยอะ (โตแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปีก่อนโควิด-19) แต่ประเด็นที่มันยังโตไปได้เรื่อยๆ ทั้งที่เรา ‘ใช้กระดาษ’ น้อยลงในชีวิตประจำวัน ก็ชวนให้สงสัยว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
ถ้าไปดูสถิติแล้ว สิ่งที่เราเข้าใจว่าเรา ‘ใช้กระดาษน้อยลง’ นี่มันไม่ผิดเลย คือพวกอุตสาหกรรม ‘สิ่งพิมพ์’ ต่างๆ น่ะหดตัวจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นพวกหนังสือหรือหนังสือพิมพ์ แต่สิ่งที่เราไม่เห็นว่าเราใช้เยอะขึ้นคือพวก ‘กระดาษชำระ’ เพราะอุตสาหกรรมกระดาษชำระถือเป็นหมวดที่โตเร็วสุดในอุตสาหกรรมกระดาษเลย แลมันเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อนโควิดแล้ว ไม่แปลกเลยว่าโควิดจะยิ่งทำให้อุตสาหกรรมหมวดหมู่นี้โตขึ้นไปอีก
แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ทุกวันนี้กระดาษครึ่งหนึ่งที่ผลิตในโลกมันไม่ได้ถูกนำไปใช้ทำสิ่งพิมพ์ให้คนอ่าน ไม่ได้เอาไปทำธนบัตร ไม่ได้เอาไปทำกระดาษชำระ แต่มันเอาไปทำ ‘หีบห่อ’ สินค้าและพัสดุต่างๆ ต่างหาก
หลายคนไม่ได้รู้สึกว่า ‘หีบห่อ’ มันเป็น ‘กระดาษ’ เพราะเราไม่ได้ใช้มันในฐานะกระดาษ แต่ในความเป็นจริง นี่คือสิ่งที่เราเจอในชีวิตประจำวันตลอดเวลา สินค้าต่างๆ ตามร้านค้าก็ต้องมีหีบห่อที่เป็นกระดาษเพื่อให้ง่ายต่อการขนส่ง จัดเก็บ หรือกระทั่งวางขายในร้าน ไอ้สิ่งเหล่านี้ดูจะไม่ได้มีแนวโน้มจะลดลงเลยในยุคที่เราคิดว่าเราอยู่ใน ‘สังคมไร้กระดาษ’
แต่ที่โหดกว่านั้นที่ทำให้อุตสาหกรรมหมวดหีบห่อโตเอาๆ ก็คือการขยายตัวของอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) และตรงนี้เองทุกคนที่อยู่บ้านช่วงโควิดแล้วสั่งของออนไลน์รัวๆ ก็คงจะร้องอ๋อ เพราะสิ่งหลงเหลือจากการเอาของที่เราสั่งมาออกจากหีบห่อก็คือกล่องกระดาษจำนวนมากมาย
นั่นแหละคือการใช้กระดาษของเราในยุคนี้ ทุกวันนี้เราไม่ได้ใช้กระดาษเป็นสื่อกลางในการบันทึกภาษาหรือเป็นเงินตราอีกแล้ว นั่นเป็นเรื่องของอดีต และการใช้กระดาษในฐานะของหีบห่อสินค้าหรือพัสดุไม่ได้ลดลง มันกลับเพิ่มขึ้นๆ เพราะปัจจุบันคนส่งพัสดุกันรัวๆ มากขึ้น และถ้าอุตสาหกรรมส่งพัสดุไม่โต ก็บอกเลยว่าในประเทศไทยก็คงไม่มีบริษัทขนส่งพัสดุที่สามารถเติบโตไปเป็นบริษัทระดับ ‘ยูนิคอร์น’ ได้หรอก
ดังนั้น เราไม่ได้อยู่ในยุค ‘ไร้กระดาษ’ อย่างที่เข้าใจ เราอยู่ในยุคที่เต็มไปด้วยกระดาษ เพียงแต่มันไม่ใช่กระดาษแบบที่เราเข้าใจแบบเดิมๆ เท่านั้นเอง
อ้างอิง: Metro. If we’re meant to be digital natives, why are we using more paper than ever?