แสดงสดพรุ่งนี้ที่ไทย! ฮิญาบขาร็อค Voice of Baceprot กับบทเพลงเมทัลที่ส่งถึงพระเจ้า
ในโลกที่จารีตประเพณี รวมไปถึงความเชื่อ แบ่งแยกจำแนกให้ผู้คนต้องแตกต่าง แต่มีสิ่งหนึ่งที่ช่วยเชื่อมโลกของความต่างนี้เข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน สิ่งนั้นก็คือ ‘ดนตรี’ ที่พลานุภาพยิ่งใหญ่เพียงพอที่นำพาเด็กสาวจากเกาะชวา ข้ามน้ำข้ามทะเลมาสร้างชื่อกระฉ่อนในเทศกาลดนตรีเมทัลระดับโลกได้อย่างน่ามหัศจรรย์
Voice of Baceprot หรือ VOB คือวงดนตรีทรีโอเมทัล ที่มีภาพลักษณ์อันแสนสะดุดตา เพราะเธอทั้งสามสวมฮิญาบ สัญลักษณ์ของศาสนาอิสลามที่เป็นตัวแทนแห่งความเคร่งครัดที่ยึดมั่นในจารีตประเพณีเหนือสิ่งอื่นใด แต่พวกเธอกำลังสั่นคลอนความเชื่อด้วยดนตรีที่หนักแน่นโดยที่พวกเธอหาได้ลบหลู่ไม่ ตรงกันข้าม เธอทั้งสามกำลังทำสิ่งที่ไม่น่าเข้ากันได้ นั่นคือ ‘ดนตรีและศาสนา’ ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติต่างหาก
เมื่อปี 2014 เด็กสาวทั้งสาม อันได้แก่ Firda Marsya Kurnia (ร้องนำ, กีตาร์), Euis Siti Aisyah (กลอง) และ Widi Rahmawati (เบส) ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเธอโตขึ้นจะเป็นอะไร ด้วยความที่เธออาศัยอยู่ในหมู่เกาะชวาอันแสนห่างไกลความเจริญ จนมาวันหนึ่งที่ห้องแนะแนว พวกเธอได้ยินเพลง Toxicity ของ System of a Down โดยบังเอิญ แววตาแห่งความมุ่งมั่นนำพาให้พวกเธอทั้งสามค้นคว้าดนตรีสายนู–เมทัล และพบว่า “สิ่งนี้คือสิ่งที่พวกเธอทั้งสามต้องการ”
แต่เส้นทางก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แม้ว่าอินโดนีเซียจะเป็นเมืองท่าของดนตรีเมทัล และประธานาธิบดีคนล่าสุดของอินโดนีเซียจะชอบดนตรีเมทัลระดับเข้าเส้นเลือด แต่ดนตรีเมทัลในโลกของสตรีเพศนั้นยังคงเป็นพื้นที่ลับแลที่ไม่มีหญิงสาวคนไหนได้ไปถึง
และแล้วพวกเธอในนาม Voice of Baceprot หรือ VOB ก็ได้ไขกุญแจนั้นสำเร็จ
แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สายตาที่ดูแคลนจากผู้คนมากมาย รวมไปถึงความเชื่อที่กดทับให้พวกเธอต้องกลายเป็นคนนอกรีตในทันที ยิ่งฮิญาบที่พวกเธอยังสวมใส่ ยิ่งบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของพวกเธอได้ว่า เธออยู่ในสังคมที่เคร่งครัดในเรื่องของความศรัทธาเพียงไร “ในหมู่บ้านของหนู ถ้าใครเผลอสบตาหนู พวกเขาจะเมินหน้าหนีทันที” Firda Marsya Kurnia ให้สัมภาษณ์ถึงความอึดอัดในช่วงเวลาแห่งการข้ามผ่านอุปสรรคแห่งความเชื่อในช่วงเวลานั้น
แต่ในยุคสมัยที่โลกไร้ซึ่งพรมแดนใดๆ กั้นขวาง การแสดงสดโดยการคัฟเวอร์บทเพลงของ Red Hot Chili Peppers, Metallica และ Slipknot รวมไปถึง Rage Against the Machine ก็ทำให้พวกเธอค่อยๆ สะสมแฟนเพลงเดนตายที่เห็นความดุดันในการเล่นดนตรีของพวกเธอทีละเล็กทีละน้อย จน Tom Morello แห่ง Rage Against the Machine ได้รับชมการเล่นคัฟเวอร์ของพวกเธอก็เสนอตัวเป็นป๋าดัน ผลักดันให้พวกเธอเป็นที่รู้จักในวงกว้างอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ในประเทศบ้านเกิด พวกเธอก็ได้รับโอกาสในการผลิตผลงานเป็นของตัวเอง และซิงเกิล School Revolution (2019) ก็ทำให้เธอกลายร่างเป็นร็อคสตาร์เต็มตัว หลังจากนั้น ‘God, Allow Me (Please) to Play Music’ ที่ความหมายของชื่อเพลงคือการวอนขอต่อพระเจ้าให้พวกเธอได้ทำในสิ่งที่รัก คือการเล่นดนตรี ก็ยิ่งตอกย้ำว่า การสวมฮิญาบเล่นดนตรีเมทัลของพวกเธอไม่เพียงแค่การสร้างความแปลกใหม่บนเวทีเท่านั้น แต่ยังยืนยันยืนหยัดในเจตนารมณ์ที่จะพาความเชื่อนี้สู่โลกยุคใหม่อย่างทระนงอีกด้วย
ปัจจุบัน Voice of Baceprot ได้ออกเดินสายเพื่ออวดฝีมือความระห่ำ ผ่านเวทีในระดับโลก โดยเฉพาะเทศกาลดนตรีเมทัลอันยิ่งใหญ่ในหลายประเทศทั่วภาคพื้นยุโรป ความเก่งกาจในฝีไม้ลายมือ ทำให้ไอคอนทางดนตรีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Tom Morello แห่ง Rage Against the Machine, Slash มือกีตาร์ในตำนานของ Guns N’ Roses ถึงกับขอไปพบพวกเธอทั้งสาม หลังเวที รวมไปถึง Flea มือเบสของ Red Hot Chili Peppers ที่กล่าวชื่นชมในความเจ๋งของพวกเธออย่างออกนอกหน้า
แม้ว่าการเดินทางประกาศศักดาความเจ๋งนั้น ยังมีคนเคร่งศาสนาหลายรายที่ไม่ปลื้มกับการแสดงออกของพวกเธอ แต่คนส่วนมากต่างยกให้พวกเธอเป็นศิลปินรุ่นใหม่ที่มีทั้งฝีมือและความกล้าในการยึดมั่นศรัทธาในสิ่งที่พวกเธอได้ลงมือทำ
“พวกเราได้รับข้อความจากสาวๆ ทั่วทุกมุมโลก ที่ชื่นชมว่าเราได้มอบความกล้าหาญให้พวกเขาเหล่านั้นทำวงดนตรี” ข้อความนี้คือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ที่แฟนๆ ของ VOB ได้ส่งต่อมาหาพวกเธอ
และชาวไทยจะได้ประจักษ์แก่สายตากับฝีไม้ลายมือของพวกเธอกับคอนเสิร์ตเต็มรูปแบบครั้งแรก Voice of Baceprot: Absolutly Live in Bangkok การแสดงสดที่พวกเธอจะได้อวดลวดลายที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการเดินสายไปแสดงตามที่ต่างๆ ในยุโรปมาแบบสดๆ ร้อนๆ ให้ชาวไทยได้รับชมกันเป็นที่แรก ในวันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม นี้ ที่มนตรีสตูดิโอ 6 ลาดพร้าว 101 ซื้อบัตรได้ที่ https://www.ticketmelon.com/danke/vobliveinbangkok2022