2 Min

‘ภาวะสิ้นยินดี’ เฉยชากับทุกสิ่งรอบตัว ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร

2 Min
1491 Views
11 Jan 2022

เคยตั้งคำถามกับตัวเองกันไหมว่า ถ้าวันหนึ่งเรากลายเป็นคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลยจะเป็นอย่างไร จะดีกว่าตอนนี้ที่ในแต่ละวันมีอารมณ์ความรู้สึกเกิดขึ้นมากมายไหม เพราะบางครั้งเราก็อาจจะรู้สึกเหนื่อยกับการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความรู้สึกลบ ความเศร้า ความวิตกกังวล ดังนั้น ความคิดที่ว่าการไม่มีความรู้สึกเลยอาจเป็นเรื่องดีกว่าคงเกิดขึ้นในใจของใครหลายๆ คนอยู่บ่อยครั้ง

แต่เชื่อเถอะว่าการเป็นคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลยไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่นักหรอก เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติทางอารมณ์ที่นำไปสู่อาการซึมเศร้าได้ ในประเด็นนี้ เราจึงอยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับภาวะสิ้นยินดีหรือภาวะทางอารมณ์ที่ทำให้กลายเป็นคนไร้ความรู้สึก

ภาวะผิดปกติทางอารมณ์ที่เรียกว่าภาวะสิ้นยินดี (Anhedonia)’ เป็นภาวะที่เราสูญเสียความสนุกในการใช้ชีวิตในแต่ละวันไป เช่น กิจกรรมที่เราเคยชอบทำก็อาจจะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ หรือเราอาจจะไม่รู้สึกสนุกไปกับมันอีกต่อไป

ภาวะสิ้นยินดีมี 2 ประเภทคือ ภาวะสิ้นยินดีทางสังคม ซึ่งเป็นภาวะที่เรารู้สึกไม่อยากเข้าสังคมหรือไม่อยากมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับคนอื่น และภาวะสิ้นยินดีทางกายภาพ ซึ่งเป็นภาวะที่เราสูญเสียประสาทสัมผัสบางอย่างไป เช่น ไม่รับรู้รสชาติของอาหารที่เคยชอบ หรือรู้สึกว่างเปล่าแม้ว่าจะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นก็ตาม

จากเว็บไซต์ข้อมูลด้านการแพทย์ WebMD ได้อธิบายเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดภาวะสิ้นยินดีนี้ว่าเป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้มากในกลุ่มคนที่มีปัญหาทางด้านจิตใจ นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมว่า ภาวะสิ้นยินดีมีความเชื่อมโยงกับการทำงานของระบบสมองด้วยเช่นกัน เนื่องจากสมองของบางคนอาจมีปัญหาในการสร้างโดพามีนหรือสารแห่งความสุข ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดภาวะสิ้นยินดีในท้ายที่สุด

โดยทั่วไปของคนที่กำลังประสบกับภาวะกับสิ้นยินดีมักจะมีความเฉยชากับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิต บางทีก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าตัวเองกำลังคิดหรือรู้สึกอะไรอยู่ และการเข้าสังคมก็ลดน้อยลง เริ่มใช้เวลาอยู่คนเดียวมากขึ้น ซึ่งถ้าหากอาการรุนแรงมากขึ้น ก็สามารถนับได้ว่าเป็นอาการหนึ่งของโรคซึมเศร้าได้ด้วยเหมือนกัน

ในปัจจุบัน ภาวะสิ้นยินดียังคงไม่มีวิธีการรักษาอย่างชัดเจน เราทำได้เพียงแค่บรรเทาอาการให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าหากภาวะนี้ยังคงเกิดขึ้นอยู่และมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าที่จะช่วยให้เราก้าวข้ามผ่านภาวะนี้ไปได้ และสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเหมือนเดิม

หลายคนคงพอจะเห็นกันแล้วว่า หากต้องใช้ชีวิตโดยไม่รู้สึกอะไรเลย จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย การที่เรายังมีความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นการมีความสุขกับเรื่องราวดีๆ ในชีวิต หรือความรู้สึกทุกข์ใจกับเรื่องราวแย่ๆ ที่ผ่านเข้ามา นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันเป็นสัญญาณหนึ่งว่าเรายังคงมีความปกติทางอารมณ์อยู่ และมันก็ไม่ใช่เรื่องแย่อะไรเลยที่เราจะมีความรู้สึกร่วมไปกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่ละวัน การต้องกลายเป็นคนที่ไม่รู้สึกอะไรเลยต่างหากล่ะที่เป็นเรื่องน่ากลัวมากกว่า

อ้างอิง