ใครไหวไปก่อนเลย! ทำความรู้จัก Tunnel Ultra งานวิ่งสุดโหด 200 ไมล์ในอุโมงค์มืด!

ถ้ายึดตามคำเปรียบเปรยว่า ‘ชีวิตเหมือนการวิ่งมาราธอน’ ชีวิตใน Tunnel Ultra คงเป็นชีวิตโคตรบัดซบที่ตอนจบเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งน้ำตา

นี่คืองานแข่งขันวิ่งอัลตร้าที่ว่ากันว่าบ้าเลือดที่สุดแล้วบนโลกมนุษย์ โดยนอกจากระยะทาง 200 ไมล์ที่ถูกกำหนดขึ้นมาแบบก้าวข้ามทุกขีดจำกัดของนักวิ่งเส้นทางการวิ่งของงานแข่งขันนี้ก็โหดสุดจะบรรยาย

เพราะในขณะที่งานอื่นอาจเป็นการวิ่งอยู่ในพื้นที่เดิมวนไปเรื่อยๆ จนระยะครบ แต่สนามวิ่งของ Tunnel Ultra คือการวิ่งบนอุโมงค์รถไฟดำมืดในเมืองบาธ ด้วยระยะทาง 100 ไมล์ 2 รอบ แถมสองข้างทางตลอดเส้นทางยังมีแสงน้อยมากๆ สวนทางกับความวังเวงที่อบอวลอยู่ทุกขณะ

และนอกจากข้อจำกัดสุดโหดข้างต้นแล้ว การแข่งขันนี้ยังมีข้อบังคับอื่นอีกที่ท้าทายขีดความสามารถของผู้เข้าร่วม เช่น การที่ไม่อนุญาตให้นักวิ่งรับการสนับสนุนจากภายนอก ไม่อนุญาตให้นักวิ่งวิ่งเคียงคู่กัน และการจำกัดเวลาอย่างเคร่งครัดห้ามเกิน 55 ชั่วโมง เป็นต้น

จากทั้งหมดนี้เองที่ทำให้การแข่งขันนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘แบบทดสอบความอดทนขั้นสูงสุด’ เพราะแทบทุกองค์ประกอบล้วนกีดกันระบบประสาทสัมผัสของร่างกาย ส่งผลให้มีแค่ความอดทนทางกายและใจอันแข็งแกร่งของนักวิ่งเท่านั้นที่จะพาพวกเขาเข้าเส้นชัยได้ ซึ่งทางผู้จัดก็จะคัดเลือกนักวิ่งใจกล้าให้เข้ามาแข่งขันแค่ปีละไม่เกิน 40 คนเท่านั้น

ด้วยความโหดทั้งหมดนี้เอง ที่ทำให้การแข่งขันตลอด 3 ปีที่ผ่านมา จากผู้เข้าแข่งขันกว่า 120 คน มีเพียงแค่ 13 คนที่สามารถเข้าเส้นชัยตามระยะเวลาที่กำหนด แต่ถึงกระนั้นทั้งหมดก็ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างราบรื่น เพราะทั้ง 13 คน ต่างให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาถึงประสบการณ์สุดทรมานในถ้ำที่จำไม่รู้ลืม

เช่นนักวิ่งที่เคยคว้าแชมป์ ก็เคยออกมาบอกเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเอง ว่าช่วงท้ายของการแข่งขัน ร่างกายทุกส่วนของเขาแทบจะกรีดร้อง สายตาพร่ามัว การรับรู้รอบตัวไม่ปกติ หรือพูดเปรียบเปรยง่ายๆ ว่า วิญญาณของเขากำลังออกจากร่างแล้ว มีเพียงสองขาเท่านั้นที่ยังพยุงเขาไว้ให้ก้าวไปข้างหน้าอยู่

แต่ในเมื่อทุกอย่างโหดร้ายต่อร่างกายและจิตใจขนาดนี้ ทำไม Tunnel Ultra ยังคงเกิดขึ้นและมีคนสนใจต่อเนื่องล่ะ

ความสงสัยในคำถามนี้ คำพูดของ มาร์ค ค็อคเบน (Mark Cockbain) ผู้จัดและผู้ริเริ่ม Tunnel Ultra น่าจะเป็นกุญแจที่ไขข้อข้องใจได้มากที่สุดแล้ว

“เมื่อมีใครสักคนเข้ามาร่วมกับ Tunnel Ultra ผมก็อยากให้เขาได้เดินจากไปด้วยความทรงจำที่ไม่อาจลืมตลอดชีวิต เพราะในเมื่อคนเราเกิดมาแล้วสุดท้ายก็ต้องตาย คุณจะเติมเต็มระหว่างทางด้วยประสบการณ์นี้หรือเปล่าล่ะ คุณอยากหยิบยื่นโอกาสให้ตัวเองแบบไหน ถ้าคำตอบคือการวิ่ง 200 ไมล์ในอุโมงค์มืดๆ ก็ยินดีด้วย เพราะสิ่งนี้แหละ คือสิ่งที่ Tunnel Ultra มีให้กับคุณ”

อ้างอิง

• Tunnel Ultra: The mind-bending 200-mile ultra-marathon in the dark. https://bbc.in/3H3ji1V