Select Paragraph To Read
- ไม่มีเวลา
- เลือกหนังสือผิด
- มีความสุขกับการได้ซื้อและครอบครอง
- บรรยากาศพาไป
สถิติการอ่านหนังสือที่เร็วที่สุดในโลกคือ อ่านได้ 25,000 คำ ภายใน 1 นาที เจ้าของสถิติของ “ฮาวเวิร์ด สตีเฟน เบิร์ก” ( Howard Stephen Berg) ในขณะที่คนทั่วไปอ่านหนังสือได้เร็วเฉลี่ย 300 คำ ต่อ 1 นาที แต่วันนี้เราจะไม่ได้มาเล่าเรื่องการอ่านเร็ว เพราะสถานการณ์การอ่านที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ยุคปัจจุบันมากที่สุดคือ “ซื้อหนังสือมาแล้วไม่ได้อ่าน”

Howard Stephen Berg | wealthfit.com
เราเชื่อว่าคนซื้อหนังสือทุกคนต้องเคยเจอสถานการณ์อยากซื้อ แต่ซื้อมาแล้วก็ไม่ได้อ่าน หรืออาจจะอ่านไปได้นิดหน่อย แล้วก็คั่นหน้าเอาไว้จนลืมไปแล้วว่าที่อ่านไปตอนต้นนั้นอ่านอะไรไป วันดีคืนดีไปเจอเล่มใหม่ที่อยากได้ ก็ซื้อมาไว้ก่อน เดี๋ยวถ้ามีเวลาจะอ่าน จะเคลียร์เล่มเก่าๆ ให้จบด้วย รู้ตัวอีกทีหนังสือ (ที่ยังอ่านไม่จบ) ก็เก็บไว้เต็มห้องแล้ว
สำหรับพฤติกรรมดองหนังสือเอาไว้หนักๆ ที่ญี่ปุ่นเค้ามีคำเรียกว่า “ซุนโดคุ” (Tsundoku) ซึ่งใช้อธิบายสถานการณ์ของคนที่เก็บหนังสือไว้เป็นจำนวนมากแต่ไม่ได้อ่าน และคำนี้ถูกใช้มากว่าร้อยปีแล้ว เกิดจากการผสมกันของคำว่า “ซุน” (Tsun) แปลว่า วางกองไว้ “โดคุ” (Doku) แปลว่า อ่าน

Tsundoku | treehugger.com
ส่วนในพจนานุกรมภาษาอังกฤษฉบับ Oxford ก็ได้มีการบัญญัติความหมายของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการคลั่งไคล้หนังสือไว้เช่นกัน คือคำว่า “Bibliomania” (บิบลิโอแมเนีย) ให้ความหมายว่า ความกระตือรือร้นอย่างสูงในการสะสมและครอบครองหนังสือ คำนี้ถูกใช้อย่างกว้างขวางสำหรับพวกบ้าสะสมหนังสือ
Tsundoku และ Bibliomania มีความหมายใกล้เคียงกันแต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว บิบลิโอแมเนีย นั้นจะใช้อธิบายคนที่มีความพยายามในการเสาะแสวงหาหนังสือมาครอบครอง มาเก็บสะสม อาจไม่ได้ตั้งใจจะอ่านแต่แรกอยู่แล้ว แต่สำหรับ ซุนโดคุ เป็นความตั้งใจที่จะซื้อมาอ่าน แต่สุดท้ายไม่ได้อ่าน หรืออ่านไม่จบ มีการซื้อใหม่อยู่เรื่อยๆ และกลายเป็นเก็บกองไว้เหมือนซื้อมาสะสม แล้วสาเหตุการดองหนังสือนั้นมาจากอะไรได้บ้าง

ซื้อหนังสือมาสะสม | bbc.com
ไม่มีเวลา
แน่นอนล่ะ อย่างแรกคือไม่มีเวลาอ่าน ถ้าคุณไม่ใช่คนที่อ่านหนังสือเป็นกิจวัตร ก็เป็นไปได้สูงที่คุณจะปล่อยกิจกรรมอื่นให้เข้ามาแย่งเวลาการอ่านของคุณไป ถ้าไม่พยายามหาเวลาหยิบขึ้นมาอ่านเรื่อยๆ หน้าหนังสือที่คุณคั่นไว้อาจจะขั้นไปอีกนานแสนนานเลยครับ
เลือกหนังสือผิด
หนังสือที่ดีของคนอื่นอาจไม่ใช่หนังสือที่ดีสำหรับคุณ หลักการง่ายๆ ในการอ่านหนังสือให้จบเล่มได้ไว อาจเริ่มจากเลือกประเภทหนังสือที่ตัวคุณเองชอบจริงๆ ไม่ใช่หนังสือที่คนอื่นชอบแล้วเค้ามาแนะนำคุณ การซื้อมาอ่านแล้วมารู้ทีหลังว่าอ่านแล้วไม่ใช่แนวทางของคุณเลย ก็เป็นอีกสาเหตุหลักที่ทำให้จำนวนหนังสือที่อ่านไม่จบของคุณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
มีความสุขกับการได้ซื้อและครอบครอง
แค่นั้นจริงๆ ครับ มีความสุขกับการได้แสวงหา ได้ซื้อมาชมเชยและเก็บสะสม บางทีก็อยากสะสมให้ครบทุกเล่ม หรือคุณอาจจะเป็นบิ๊กแฟนของสำนักพิมพ์หรือนักเขียน หรือคุณอาจจะชมภาพยนตร์มาแล้วชอบ เลยมาอุดหนุนวรรณกรรมครบทุกซีรีส์ สถานการณ์แบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ครับ (เข้าข่าย Bibliomania)

Bibliomania | worldnationaldays.com
บรรยากาศพาไป
หลายครั้งและหลายเล่มในงานหนังสือที่เราหิ้วกลับบ้านมาโดยที่ไม่ตั้งใจจะซื้อ หรือไม่คิดว่าจะมาแล้วซื้อเยอะขนาดนี้ แต่เพราะแรงเชียร์ บรรยากาศ และโปรโมชั่นก็อาจทำให้เราซื้อหนังสือทีเดียวหลายเล่ม โดยที่บางเล่มเราอาจจะไกลจากความสนใจ หรือเราอาจไม่ได้อยากอ่านมันจริงๆ
อันที่จริง “ซุนโดคุ” ก็ไม่ได้มีความหมายเชิงลบอะไรนักหรอกครับสำหรับคนญี่ปุ่น เพียงแต่เป็นคำนิยามให้คนที่ชอบซื้อหนังสือมาดองเอาไว้ หากคุณเป็นคนที่ชอบซื้อหนังสือจริงๆ น่าจะรู้ว่าการอ่านหนังสือทุกเล่มที่ซื้อมาให้จบนั้นไม่ได้ง่ายเลย เพราะหนังสือบางเล่มซื้อมาแล้วก็พาเราผิดหวัง ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ แต่อ่านไปแล้วรู้สึกไม่ถูกจริต ไม่อินกับเนื้อหา มันก็ไม่ต่างอะไรกับยาขมเลยครับ ถ้าฝืนอ่านต่อแล้วรู้สึกเสียเวลาขอคั่นไว้ที่หน้านี้แล้วหยิบเล่มอื่นน่าจะเป็นการเบิร์นหนังสือที่ดองไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ว่าง่ายๆ เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ

Bibliomania | listverse.com
หรืออีกกรณีหนึ่งคือหนังสือต้นฉบับภาษาอังกฤษขึ้นแท่น Best Seller ไปหลายประเทศและได้รับคำชมท่วมท้น แต่เล่มแปลดันใช้คำศัพท์และการร้อยเรียงประโยคได้ไม่ลื่นไหล ทำให้การอ่านจบเล่มเป็นเรื่องยากและใช้เวลานานพอควรครับ
แต่เดี๋ยวนี้มีแฟนเพจ เว็บบล็อก และพอดแคสต์หลายสำนักมีคอลัมน์ “รีวิวหนังสือ” ไว้หลากหลายทางเลือก ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการเช็กรีวิวก่อนจะตัดสินใจซื้อหนังสือสักเล่ม เราจะรู้ภาพรวมและทิศทางของเนื้อหาได้คร่าวๆ เอามาประกอบการตัดสินใจเวลาจะซื้อหนังสือมาอ่านได้ดีมากครับ
นอกจากจะมีรีวิวหนังสือแล้ว หากลอง Google ด้วยคีย์เวิร์ด “Speed Reading” คุณจะเจอ How-to อ่านหนังสือเร็ว จากนักอ่านมืออาชีพหลายคนที่เป็นหลักการง่ายๆ ดึงเอามาใช้ได้จริง อย่างนาย “ฮาวเวิร์ด สตีเฟน เบิร์ก” เจ้าของสถิติอ่านเร็วที่สุดในโลกที่เราพูดถึงในตอนต้น เขาก็มีหนังสือ และวิดีโอบรรยายสอนวิธีการอ่านเร็ว อ่านให้จบเล่ม ซึ่งน่าสนใจทีเดียว เพราะการฝึกเทคนิคการอ่านเร็วนอกจจากจะช่วยเรื่องการอ่านแล้ว ผลพลอยได้คือเราจะเป็นคนหัวและความจำดียิ่งขึ้นจากเทคนิคที่เขาแนะนำ
ลองคิดเล่นๆ ว่านอกจากบ้านเราจะมีงานขายหนังสือแล้ว น่าจะมี “งานอ่านหนังสือ” ไปด้วยซะเลย ถือกันมาคนละเล่มเข้ามานั่งอ่านกันในฮอลล์เงียบๆ คงจะเป็นบรรยากาศที่แปลกใหม่น่าดูเลยครับ
อ้างอิง: