เจาะลึกแนวคิดการขับเคลื่อนอย่างยั่งยืนของ ‘ธีรพร’ กับการพัฒนาเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะใบหน้าของประเทศไทย
จากเทรนด์พฤติกรรมการดูแลตัวเองที่มาแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่หันมารักสวยรักงาม ใส่ใจรูปร่างหน้าตาของตัวเองกันมากขึ้น จนไปกระตุ้นให้ธุรกิจความงามมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันศัลยกรรมความงาม ก็ถือเป็นเรื่องที่สังคมให้การยอมรับมากขึ้นทั่วโลก จึงไม่แปลกนักที่ปัจจุบันคลินิกศัลยกรรมความงามเป็นที่นิยม หนึ่งในนั้นคือ ‘ธีรพร’ สถาบันศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการศัลยกรรมแบบครบวงจรไว้ในที่เดียว
โดยมี ‘จุดแข็ง’ ที่ผู้ใช้บริการให้ความไว้วางใจ ตั้งแต่ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ที่มีความรู้ควบคู่ไปกับคุณธรรม อีกทั้งการใช้เครื่องมือที่ทันสมัย และเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ไปจนถึงการให้บริการที่เป็นงานด้านศัลยกรรม ที่มีนวัตกรรม และคุณภาพตามมาตรฐานในระดับสากล ซึ่งปัจจุบันทางธีรพรหรือ TRP กำลังดำเนินการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
จึงเป็นโอกาสดีที่ BrandThink ได้ร่วมพูดคุยกับ ผศ.นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสเตติก คอนเนค จำกัด (มหาชน) หรือ TRP ร่วมกับ นายแพทย์คงศักดิ์ เตชะวิบูลย์ผล กรรมการบริษัทและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ ตั้งแต่แนวคิดในการขับเคลื่อนธุรกิจ ไปจนถึงทิศทางการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และยั่งยืนของธีรพร ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
จุดแข็งของธีรพรที่ทำให้ธุรกิจยืนหยัดมานานกว่า 40 ปี
เมื่อถามถึงอะไรคือจุดแข็งของธีรพร แน่นอนอย่างแรกคือ ‘ทีมแพทย์’ ในอดีตที่ผ่านมานายแพทย์ชลธิศจะเป็นคนรักษา ดูแลลูกค้า ทำทุกอย่างด้วยหมอคนเดียว แต่ต่อมาด้วยความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เลยมีการขยายทีมแพทย์ให้เพียงพอต่อการให้บริการ และสืบทอดวิชาอย่างต่อเนื่อง
ถัดมาคือ ‘ความชำนาญ’ เพราะทีมแพทย์ของธีรพรนั้น มีความชำนาญแต่ละหัตถการที่แตกต่างกัน นี่นับเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากคลินิกอื่นๆ ที่หมอหนึ่งคนทำได้หมดทุกอย่างทุกส่วน แต่ของเราคือหมอหนึ่งคนจะเน้นไปที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง ทำให้หมอแต่ละคนจะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางสูงมาก
นอกเหนือจากทีมแพทย์ และความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่สั่งสมประสบการณ์กันมา ธีรพรยังโดดเด่นเรื่อง ‘คุณภาพ’ ที่ทำให้เราสามารถยืนหยัดอยู่ในวงการนี้ คือการตรวจสอบมาตรฐานในการให้บริการทุกขั้นตอน เข้าไปแนะนำอย่างใกล้ชิด ถ้าส่วนไหนไม่ดีก็ต้องปรับปรุง แก้ไข ในส่วนที่ดีก็ต้องสนับสนุนให้ก้าวหน้ามากขึ้น
และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ ‘คุณธรรม’ เนื่องจากนายแพทย์ชลธิศไม่ได้ถ่ายทอดแค่เรื่องของเทคนิคในการผ่าตัดอย่างเดียว ยังอบรมและปลูกฝังในเรื่องของจิตใจ เพราะการเป็นหมอต้องมีคุณธรรมสูงมาก ไม่ควรมุ่งเน้นการขายของเท่านั้น แต่ควรมุ่งเน้นไปที่ความพึงพอใจของลูกค้า หรือผู้ใช้บริการ
ด้วยจุดแข็งต่างๆ เหล่านี้เองที่ทำให้คนเข้ามาใช้บริการจะรู้สึกอบอุ่น เหมือนมาหาเพื่อนสนิท ลูกค้าบางคนมาแล้วก็อยากมาหาเราอีก มาเจอพนักงานที่คอยดูแลพวกเขา ทำให้ธีรพรมุ่งมั่นรักษามาตรฐานด้านคุณภาพการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพราะนับเป็นเรื่องยากที่คลินิกศัลยกรรมความงามจะยืนหยัดอยู่มาได้ถึง 40 ปี
ธีรพรมีบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านศัลยกรรมใบหน้าแบบครบวงจร
โดยบริการหลักของธีรพรมีด้วยกัน 3 อย่าง ซึ่งการผ่าตัดถือเป็นแกนหลัก หนึ่งคือ ‘ศัลยกรรมดึงหน้าเฟสล็อค’ ซึ่งเป็นเทคนิคของนายแพทย์ชลธิศที่ถ่ายทอดให้ทีมแพทย์ เป็นการดึงหน้าที่มีความจำเพาะสูงมาก คือซ่อนรอยแผล บวมช้ำน้อย แผลหายเร็ว
ส่วนที่สองคือการบริการ ‘ศัลยกรรมรอบดวงตา’ ผ่าตัดถุงใต้ตา เก็บหนังตา ยกคิ้ว และส่วนสุดท้ายคือ ‘ศัลยกรรมจมูก’ เน้นความสวยงามที่เป็นธรรมชาติ เสริมให้ดูดี สวยแบบธรรมชาติ ปิดท้ายด้วยการดูแลผิวพรรณ และริ้วรอยบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นฉีดโบท็อกซ์ (Botox) ฟิลเลอร์ (Filler) ไฮฟู่ (Hifu)
นอกจากนี้ ธีรพรคลินิก ยังมีวิสัญญีแพทย์ที่คอยดูแลระหว่างผ่าตัดทุกวัน คอยประเมินคนไข้และให้ยาระงับความรู้สึกผ่านหลอดเลือดดำ เพื่อให้ลูกค้าที่เข้ารับบริการได้รับความปลอดภัย รู้สึกสบาย ไม่เจ็บระหว่างการผ่าตัด
หัวใจสำคัญที่ทำให้ธีรพรสามารถเติบโตขึ้น
ส่วนหัวใจสำคัญที่ทำให้ธีรพรเติบโตได้ไกลขนาดนี้ และสามารถมัดใจลูกค้าได้ หนีไม่พ้นเรื่องผลิตภัณฑ์หลัก (Core Product) ที่เป็นงานด้านศัลยกรรม ควบคู่ไปกับนวัตกรรม (Innovation) และคุณภาพ อย่างการดึงหน้าเฟสล็อค และการทำตาสองชั้น ที่มีแต่ธีรพร ซึ่งเป็นการพัฒนาเทคนิคของนายแพทย์ชลธิศเอง ที่ทั้งซ่อนรอยแผล บวมช้ำน้อย แถมฟื้นตัวเร็ว
นอกจากนั้นแล้ว หากย้อนกลับไปช่วงวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมา ธุรกิจด้านความงามได้รับผลกระทบ แต่ก็ถือเป็นช่วงที่ทำให้กลับมามองตัวเอง ว่าจริงๆ แล้วธีรพรมีอาวุธอะไรบ้าง จึงอาศัยจังหวะนี้ ในการศึกษาการตลาดออนไลน์ เริ่มทำคอนเทนต์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของเรา รวมถึงสื่อสารให้เห็นถึงบริการที่เข้มแข็งของเรา ไม่ว่าจะเป็นการดึงหน้า การเสริมจมูก เพื่อให้บริการที่ดีของธีรพรสามารถส่งต่อถึงลูกค้าได้
แนวคิดของธีรพรในการขับเคลื่อนธุรกิจความงาม
ทั้งนี้ในทางการแพทย์ยังคงมีข้อจำกัดในเรื่องของจรรยาบรรณทางการแพทย์ ทำให้แนวคิดการขับเคลื่อนให้มีความเติบโตในเชิงธุรกิจอย่างเดียวไม่ได้ ธีรพรจึงเติบโตด้านของวิชาการร่วมด้วย นั่นหมายถึงมาตรฐานของแพทย์ที่ต้องมี ‘ความรู้คู่คุณธรรม’ แพทย์จะต้องมีวิชาความรู้ มีวิชาการ และมีคุณธรรมให้กับผู้ใช้บริการ
ฉะนั้นสิ่งที่จะทำต่อไปเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ คือการค้นคว้า ทำวิจัย ทำผลงานนวัตกรรมใหม่ๆ และที่สำคัญคือการรักษามาตรฐานและคุณภาพ กับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการทุกราย
โดยผลตอบรับจากลูกค้าก็สะท้อนออกมาในผลประกอบการอย่างชัดเจน แม้ก่อนหน้านี้อาจจะไม่ค่อยได้ทำการตลาด แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ ก็เกิดจากการบอกต่อกันไปเรื่อยๆ ซึ่งทางธีรพรเพิ่งจะได้เริ่มทางการตลาดอย่างจริงจัง ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยนำเสนอคอนเทนต์การรักษาที่ทั้งแตกต่าง และมีประสิทธิภาพ
ซึ่งไม่ได้สะท้อนแค่ตัวรายได้ออกมาอย่างเดียว ยังสะท้อนผ่านพฤติกรรมของลูกค้า เพราะนอกจากลูกค้าเข้ามารับบริการการผ่าตัดแล้ว ยังกลายเป็นว่าลูกค้านึกถึงเรา ส่งผลไม้ ส่งเค้กมาฝาก มาให้แพทย์ ให้เจ้าหน้าที่ ทำให้เห็นเลยว่าธีรพรดูแลลูกค้าให้ได้รับความสุขอย่างแท้จริง มันไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ที่ออกมาสวยงาม แต่เข้าใจข้างในของพวกเขาด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ
ทิศทางการเติบโตที่แข็งแกร่งและยั่งยืนของธีรพร
ปัจจุบันทางธีรพรกำลังดำเนินการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งนับเป็นอีกก้าวที่ท้าทายอย่างมาก เนื่องจากเราเห็นศักยภาพในการเติบโตต่อไป อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
นอกจากนี้เรากำลังจะสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เพื่อต้องการขยายพื้นที่บริการให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกประทับใจ ดังนั้นการสร้างโรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งใหม่นี้ จะเป็นการขยายกิจการ ขยายการให้บริการ ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องมีแนวทางในการบริหารจัดการให้ทุกคนสามารถได้ประโยชน์อย่างสูงสุด
ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ธีรพรก้าวข้ามสเต็ปจากธุรกิจครอบครัว (Family Business) สู่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (Public Company) ซึ่งการปรับเปลี่ยนองค์กรเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ทั้งแพทย์และพนักงานมีความุม่งมั่น และตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก เพื่อให้ประสบความสำเร็จไปพร้อมกัน