3 Min

ไม่เกี่ยวกับอัลกอริทึม! TikTok ชี้แจง ‘คลิปหนุนปาเลสไตน์’ เป็นไวรัลเยอะขึ้น เพราะคนรุ่นใหม่คิดแบบนี้เพิ่มขึ้นจริงๆ

3 Min
415 Views
14 Nov 2023

ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2023 กลุ่ม สส. และ สว. จากพรรครีพับลิกันของสหรัฐอเมริกา กล่าวหา TikTok ว่าใช้อัลกอริทึมของสื่อโซเชียลเผยแพร่ข้อมูลสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ โดยอ้างอิงจำนวนแฮชแท็กหนุนปาเลสไตน์ที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ใช้งานแพลตฟอร์มนี้ จึงตั้งข้อสงสัยว่า TikTok มีเจตนาจะ ‘ล้างสมอง’ ผู้ใช้งาน TikTok ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ให้มีความคิดต่อต้านชาวยิวหรือไม่

ทาง TikTok ในสหรัฐฯ จึงได้ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2023 แย้งว่า การอ้างอิงแค่จำนวนแฮชแท็กสนับสนุนปาเลสไตน์ที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในแพลตฟอร์ม เป็นการกล่าวหาที่นำเสนอข้อมูลเพียงด้านเดียว และอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดที่ส่งผลเสียต่อ TikTok เพราะในความเป็นจริง จำนวนแฮชแท็กหนุนปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นเพราะผู้ใช้งานเผยแพร่ข้อมูลโดยพร้อมใจกันติดแฮชแท็กนี้มากขึ้น และไม่เกี่ยวอะไรกับอัลกอริทึมของระบบประมวลผลหน้าฟีดของ TikTok

ยิ่งถ้าไปดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคอนเทนต์ที่ติดแฮชแท็กสนับสนุนปาเลสไตน์ เช่น #FreePalestine หรือ #StandWithPalestine จะพบว่าส่วนใหญ่เป็นบัญชีผู้ใช้งาน TikTok ในตะวันออกกลาง-เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งยังเป็นบัญชีที่เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้มานานแล้ว หรืออย่างน้อยๆ ก็หลายเดือนหรือหลายปีก่อนที่จะเกิดเหตุวินาศกรรมเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอล จนมีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ สูญหาย และถูกลักพาตัว รวมแล้วนับพันคน

ในขณะที่ผู้ใช้ TikTok ที่ติดแฮชแท็กสนับสนุนอิสราเอล เช่น #StandWithIsrael ราว 67 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ทั้งยังเป็นบัญชีที่เพิ่งเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างจริงจังในช่วง 30 วันหลังฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล ซึ่งเป็นข้อมูลที่สวนทางกับข้อกล่าวหาว่า TikTok พยายามล้างสมองคนอเมริกันรุ่นใหม่ให้ต่อต้านอิสราเอล

แถลงการณ์ของ TikTok ระบุด้วยว่า ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มนี้มีจำนวนมากกว่า 1,000 ล้านบัญชีทั่วโลก และการเปิดพื้นที่ให้ผู้คนสื่อสารอย่างปลอดภัยก็เป็นเป้าหมายของ TikTok อยู่แล้ว จึงมีกฎข้อบังคับเข้มงวดในการระงับข้อมูลใดๆ ก็ตามที่เข้าข่ายยั่วยุหรือสร้างความเกลียดชังชาวยิว (antisemitic) รวมถึงแนวคิดที่ปฏิเสธว่าการล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวโดยนาซีเยอรมนีในอดีตไม่เคยเกิดขึ้นจริง ทั้งยังระบุด้วยว่า แฮชแท็กหนุนปาเลสไตน์ใน Facebook หรือ Instagram ก็มีจำนวนมากกว่าแฮชแท็กหนุนอิสราเอลเช่นกัน (แต่ทั้งสองแพลตฟอร์มไม่ได้ถูกกล่าวหาแบบเดียวกับ TikTok แต่อย่างใด)

นอกจากนี้ TikTok ยังอ้างอิงผลสำรวจความเห็นคนอเมริกันของ Gallup Poll ที่เผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2023 ก่อนเกิดเหตุการณ์ 7 ต.ค. พบว่า คนอเมริกันที่เกิดหลังปี 2000 มีจุดยืนสนับสนุนปาเลสไตน์เพิ่มขึ้น แต่ประชากรช่วงวัยนี้ที่ตอบว่าตัวเองมีจุดยืนสนับสนุนอิสราเอลกลับลดลง แต่คนกลุ่มนี้เป็นผู้ใช้งาน TikTok ที่เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คอนเทนต์หรือแฮชแท็กสนับสนุนปาเลสไตน์จะมีจำนวนเยอะกว่าอีกฝั่ง แต่คอนเทนต์ที่ถูกเรียกว่า Pro Palestine ส่วนใหญ่ก็ยืนยันว่าการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ไม่เท่ากับการสนับสนุนกลุ่มฮามาสเสมอไป เพราะพลเรือนในปาเลสไตน์คือผู้ได้รับผลกระทบทั้งจากการใช้ความรุนแรงของฮามาส และการใช้กำลังทางทหารบุกโจมตีของฝั่งอิสราเอล จึงจำเป็นต้องแสดงความเป็นเอกภาพกับชาวปาเลสไตน์

ขณะที่ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว Aljazeera ก็รายงานเช่นกันว่า กลุ่มคนอเมริกันเชื้อสายยิวรุ่นใหม่เคยรวมตัวกันในนครนิวยอร์ก ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2023 เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมที่แต่งกายตามความเชื่อทางศาสนายูดาห์ได้ชูป้าย #FreePalestine (ปลดปล่อยปาเลสไตน์) ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งอย่างอิสราเอลและฮามาสทำข้อตกลงหยุดสู้รบ และเปิดทางให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปให้คนปาเลสไตน์ที่ติดอยู่ในพื้นที่สู้รบ สะท้อนว่าคนรุ่นใหม่อยากจะเห็นสันติภาพในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น

อ้างอิง