ตอนเป็นเด็กเราก็อยากจะรีบโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ เพราะเราเชื่อว่ายิ่งเป็นผู้ใหญ่เร็วเท่าไหร่ อิสรภาพก็ยิ่งมาถึงเร็วเท่านั้น แต่เมื่อถึงเวลาที่เราได้เป็นผู้ใหญ่แล้วจริงๆ เราต่างก็พบว่าการเป็นผู้ใหญ่มันไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่ชีวิตในวัยเด็กของเราเคยวาดฝันไว้เลย
เมื่อโตขึ้นหน่อย เชื่อว่าแต่ละคนก็คงมีสิ่งที่อยากจะทำมากมาย อยากใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ อยากทำอะไรตามใจตัวเองมากขึ้น แต่ชีวิตจริงมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะยิ่งเราโต เราก็ยิ่งรู้สึกเหนื่อยกับการเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ และบางครั้งเราก็อาจจะต้องเจอกับความเจ็บปวดต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วย
แต่คำถามก็คือ แล้วทำไมความเจ็บปวดถึงกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของเราล่ะ? ในประเด็นนี้เราจึงอยากชวนทุกคนมาทำความเข้าใจความเจ็บปวดของการเติบโตไปพร้อมๆ กัน
อายุที่มากขึ้นไม่ได้หมายความว่าเราเติบโตขึ้น – เมื่อตอนเรายังเป็นเด็ก เรามักจะมองว่าผู้ใหญ่ดูเหมือนจะมีครบทุกอย่าง สามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ใจต้องการ ไม่เหมือนเด็กอย่างเราที่ถูกบังคับให้ทำนู่นทำนี่อยู่เสมอ มีกฎระเบียบที่ต้องคอยทำตาม เราจึงเชื่ออย่างหนักแน่นว่าถ้าเราโตขึ้นอีกสักหน่อย เราก็จะมีอิสระในการใช้ชีวิตมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องของบรรทัดฐานทางสังคมที่อาจจะทำให้เราหลายคนอยากรีบโตอีกด้วย อย่างเช่น เกณฑ์อายุที่เราจะสามารถเริ่มขับรถหรือไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ได้ เราจึงโหยหาอยากที่จะรีบโตเป็นผู้ใหญ่เร็วๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีอะไรรอเราอยู่บ้าง
ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ทำให้เราเติบโตขึ้น ไม่ใช่แค่ตัวเลขของอายุที่เพิ่มขึ้น – ความจริงที่เราทุกคนพบเจอเมื่อเริ่มก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่จริงๆ ก็คือ ความคาดหวังที่เราเคยเฝ้าฝันถึงชีวิตวัยผู้ใหญ่ไว้ ไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงที่เราต้องเผชิญเลย ซึ่งแน่นอนว่าอายุที่เพิ่มขึ้นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกได้ว่าเราโตขึ้นแล้ว แต่สุดท้าย เรื่องราวหรือประสบการณ์ที่เราต้องก้าวข้ามผ่านไปให้ได้ รวมถึงการที่เราต้องรับผิดชอบทุกการตัดสินใจในชีวิตด้วยตัวเองต่างหากล่ะที่ทำให้เราเติบโตขึ้นจริงๆ
ความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้เราคิดว่าเราสามารถทำทุกอย่างได้ตามที่ใจต้องการเมื่อเราโตขึ้น – เมื่อเราเติบโตขึ้นมา เรากลับพบว่าการเป็นผู้ใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่มากขึ้น รวมถึงมาตรฐานทางสังคมที่ตีกรอบชีวิตของเราไว้ ไหนจะข้อจำกัดมากมายในชีวิตที่ทำให้เราไม่สามารถทำอะไรได้อย่างที่ใจต้องการจริงๆ อีก ดังนั้น หลายคนจึงมักใช้ชีวิตไปตามมาตรฐานของสังคม เพราะกลัวว่าจะถูกตัดสินจากคนอื่นๆ หากเราพยายามใช้ชีวิตในแบบของตัวเองมากเกินไป
เราจะมีเวลาในการทำสิ่งที่เราชอบน้อยลง – แน่นอนว่าการที่เราเติบโตขึ้นย่อมมาพร้อมกับหน้าที่ความรับผิดชอบมากมาย ซึ่งเราเองก็ต้องใช้เวลาส่วนมากในชีวิตเพื่อทำตามหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยที่บางครั้งเราก็ไม่ได้มีเวลาให้กับสิ่งที่เราชอบเหมือนอย่างเคย เพราะความสนุกในชีวิตของเราถูกแทนที่ด้วยเป้าหมายและความรับผิดชอบในชีวิตแทน
การเติบโตเป็นผู้ใหญ่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนกว่าที่เราคิด – ชีวิตในวัยเด็กเป็นชีวิตที่มีแต่ความแน่นอน ผู้ใหญ่มักจะคอยบอกให้เราเข้าใจอย่างชัดเจนว่าอะไรถูกหรืออะไรผิด แต่เมื่อเราโตขึ้นมา สิ่งที่เราตระหนักได้เองก็คือ ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ และอยู่ที่ตัวเราเองว่าเราจะเลือกมองแบบไหน หรือเราจะมีมุมมองต่อสิ่งต่างๆ อย่างไร
การวิ่งตามความฝันเป็นเรื่องยากกว่าเราเคยคาดคิดไว้ – เพราะการมีความฝันในวัยเด็กเป็นเรื่องที่ง่ายมาก แต่พอเราโตขึ้นมา เรากลับพบว่าการจะทำความฝันให้กลายเป็นจริงเป็นเรื่องยากกว่าเราคิดไว้มาก เราต้องใช้ทั้งความพยายามและความทุ่มเทเป็นอย่างมากเพื่อให้ตัวเองบรรลุเป้าหมายที่เราก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน
การโตขึ้นเป็นเรื่องที่ง่าย แต่การเติบโตจะทำให้เราต้องพบเจอแต่ความเจ็บปวด – ประสบการณ์เป็นสิ่งจะสอนให้เราแข็งแกร่งขึ้น เก่งขึ้น และเป็นคนที่ดีขึ้นได้ดีที่สุด แต่เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว เปิดใจให้กว้าง และพร้อมเปิดรับความรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุดเรียนรู้ นั่นจะเป็นช่วงเวลาที่เราหยุดเติบโต
สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เราได้ค้นพบจากการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่ใช่อิสรภาพอย่างที่เราเคยต้องการมาตลอด เพราะความรับผิดชอบและภาระหน้าที่มากมายต่างก็เฝ้ารอเราอยู่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชีวิตของเราทุกคนก็ต้องก้าวไปข้างหน้าอยู่ดี เพราะฉะนั้นแล้ว แม้ว่าเราอาจจะต้องเจอเรื่องราวหรือความเจ็บปวดระหว่างทางบ้าง เราก็ต้องไม่ลืมที่จะพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้เราเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ในแบบที่เราจะรักและภูมิใจในตัวเองได้มากที่สุด
อ้างอิง
- Growing Old Is Easy, Growing up Is Painful. https://bit.ly/3Hc3h8X