‘แมวน้ำลายพิณ’ กำลังกลายเป็นสัตว์ไร้บ้าน เมื่อโลกร้อนทำแข็งละลาย ชีวิตจึงตกอยู่ในความไม่แน่นอน

3 Min
1643 Views
10 Jan 2022

วิกฤตโลกร้อนรุนแรงที่เกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้ผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกกลายเป็นผู้อพยพ ต้องพลัดพรากจากถิ่นที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่เพียงแต่มนุษย์ที่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นนั้น พวกสัตว์เองก็กลายเป็นสิ่งมีชีวิตไร้บ้านไม่ต่างจากเรา

และแมวน้ำลายพิณ’ (harp seals) คือเหยื่อรายใหม่ ที่กำลังถูกวิกฤตโลกร้อนเข้าเล่นงานอย่างไร้ความปรานี

harp seals l The Guardian

รู้จักแมวน้ำลายพิณ

แมวน้ำลายพิณ หรือแมวน้ำหลังอาน เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่กระจายตัวอยู่บริเวณซีกโลกเหนือ เป็นสายพันธุ์แมวน้ำที่มีจำนวนประชากรมากเป็นอันดับสองรองจากแมวน้ำกินปู โดยเฉลี่ยมีอายุขัยนานได้ถึง 30 ปี

ความสามารถพิเศษของพวกมันคือการว่ายน้ำและดำน้ำได้นานกว่า 15 นาที มีนิสัยกินจุ พวกที่ตัวโตเต็มไวจะกินปู ปลา แพลงก์ตอนปีละเป็นตันๆ จนทำให้ชาวประมงบางรายรู้สึกรำคาญพวกมันในบางฤดูกาลอยู่เหมือนกัน

เดิมทีพวกมันเคยเกือบจะสูญพันธุ์จากการล่าเอาขนมาทำเครื่องนุ่งห่ม และเอาเนื้อมาประกอบอาหาร ในช่วงศตวรรษก่อนมีลูกแมวน้ำถูกล่ามากถึงปีละ 500,000 ตัวเลยทีเดียว (ลูกแมวน้ำจะมีขนที่นุ่มและสวยกว่าตัวโตเต็มวัย)

แต่ด้วยเหตุและผลที่กลายมาเป็นกฎหมาย และคำว่าอนุรักษ์ที่ได้เติบโตขึ้นในใจคนก็ช่วยให้พวกมันรอดพ้นจากชะตากรรมในอดีต และเพิ่มจำนวนขึ้นจนไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญพันธุ์ เหมือนอย่างที่เราห่วงแรด ห่วงช้าง ห่วงเสือ หรือห่วงสิงโตกันอีกแล้ว

และถ้าโลกยังเป็นปกติสุข เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องนึกกังวลใดๆ ต่อการมีชีวิตอยู่ของสัตว์สายพันธุ์นี้ เว้นเสียแต่เหตุการณ์ที่เป็นอยู่มันกลับไม่ใช่อย่างนั้น

แม้แมวน้ำลายพิณจะว่ายน้ำเก่ง แต่ก็ไม่สามารถว่ายได้นานเหมือนอย่างหมีขั้วโลก การเดินทางส่วนใหญ่ของพวกมันจึงจำเป็นต้องพึ่งพาแผ่นน้ำแข็ง แต่เมื่อโลกร้อนทำน้ำแข็งละลาย ชีวิตของพวกมันจึงไม่ต่างอะไรกับการติดเกาะ l foxnews

วิกฤตโลกร้อนคุกคามชีวิตแมวน้ำ

เป็นเวลาราวทศวรรษมาแล้วที่นักวิทยาศาสตร์เริ่มสังเกตความผิดปกติของจำนวนแมวน้ำลายพิณ ที่ดูเหมือนจะค่อยๆ ลดลงอีกครั้ง 

และถึงทุกวันนี้จะยังมีการล่าแมวน้ำอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็เป็นการล่าแบบจำกัดจำนวนด้วยเหตุผลทางวิชาการ ไม่ใช่กิจกรรมสาวได้สาวเอาเหมือนอย่างเก่าอีกแล้ว

เมื่อสืบต่อไปก็ทำให้เข้าใจว่าวายร้ายหลักของทศวรรษหาใช่ใครอื่น นอกเสียจากวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เดินทางมาเปิดประตูต้อนรับยุคสมัยแห่งการสูญพันธุ์ให้กับแมวน้ำลายพิณซ้ำอีกครั้ง

โลกร้อนฆ่าแมวน้ำได้อย่างไร? ผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำแข็งในทะเลของประเทศแคนาดา อธิบายว่า ปริมาณน้ำแข็งในอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ที่แมวน้ำใช้อาศัยกำลังค่อยๆ ลดปริมาณลงแบบปีต่อปี จากที่เคยมีขนาด 15 ลูกบาศก์ไมล์ ตอนนี้ลดเหลือเพียง 3 ลูกบาศก์ไมล์

ซ้ำร้ายไปกว่านั้น คลื่นความร้อนที่กัดกินฤดูกาลยังทำให้แผ่นน้ำแข็งที่เหลืออยู่ (น้อย) ก็มีสภาพเปราะบางมาก เสี่ยงแตกพังได้ทุกเวลา

ซึ่งตามปกติ ในเดือนธันวาคมของทุกปี แมวน้ำลายพิณที่อาศัยอยู่ทั่วแอตแลนติกเหนือและอาร์กติกจะพาตัวเองมาใช้ชีวิตอยู่บนทะเลน้ำแข็งละแวกเกาะแมกดาเลน กลางอ่าวเซนต์ลอว์เรนซ์ ประเทศแคนาดา

พวกมันจะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นหลายเดือนเพื่อผสมพันธุ์จนให้กำเนิดทายาท และเลี้ยงดูทารกจนถึงวันหย่านม แล้วจึงพากันกลับไปท่องอาร์กติก ก่อนวนมาพักในบ้านหลังเดิมเมื่อฤดูกาลเวียนมาบรรจบอีกหน

แต่ทุกวันนี้ จำนวนแมวน้ำที่ไปปรากฎตัวอยู่แถบเกาะแมกดาเลน กลับค่อยๆ ลดลงปีละหลายร้อยตัว

ภาพถ่ายลูกแมวน้ำลายพิณหลบกระแสลมหลังก้อนน้ำแข็ง ผลงานของ Jennifer Hayes เป็นหนึ่งในภาพถ่ายที่ถูกนำมาใช้บรรยายสิ่งที่แมวน้ำลายพิณต้องเผชิญในปัจุบันมากที่สุด l Jennifer Hayes

นักวิจัยอธิบายว่า แมวน้ำบางตัวอาจรู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าแผ่นน้ำแข็งที่พวกมันใช้เดินทางกำลังค่อยๆ หายไป พวกมันบางตัวจึงรีบชิ่งไปหาที่หลบภัยแห่งใหม่ แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีความแน่นอนระหว่างทาง รวมถึงจุดหมายปลายทางที่รออยู่ก็อาจไม่ไฉไลเหมือนบ้านเก่า

ตามรายงานของนักวิจัยระบุว่ามีแมวน้ำลายพิณจำนวนไม่น้อยถูกพัดไปเกยตามชายฝั่งของเมืองควิเบก (ไกลจากบ้านเดิม 350 ไมล์

การปรากฎตัวของสัตว์แปลกหน้ากลายเป็นเรื่องที่สนใจของชาวเมืองท้องถิ่น ที่พยายามพาตัวเองเข้าไปใกล้แมวน้ำให้ได้มากที่สุด โดยหารู้ไม่ว่านั่นเป็นการรบกวนแมวน้ำที่กำลังเหนื่อยล้าจากการเดินทางไกล หรือกำลังมึนงงไม่ได้สติจากการถูกกระแสน้ำพัดมาขึ้นฝั่ง 

นี่เป็นเรื่องทำนองเดียวกับเหตุการณ์ลูกแมวน้ำเกยตื้นชายฝั่งรัสเซียแล้วถูกคนจับจนตายเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา (อ่านบทความ ลูกแมวน้ำเครียดจนตายหลัง หลังถูกผู้คนรุมเล่นถ่ายรูป และแม่ทอดทิ้ง https://bit.ly/3s21633

นั่นยังไม่รวมถึงเรื่องที่มีลูกแมวน้ำหลายตัวพลัดหลงกับแม่ โอกาสรอดจึงค่อนข้างน้อย

แต่ก็ยังดีกว่าบางตัวที่โดนก้อนน้ำแข็งแตกกระแทกบดขยี้ บางตัวว่ายน้ำจนหมดแรง บางตัวถูกกระแสน้ำพัดไปไกลถึงชายฝั่งแผ่นดินที่มันไม่รู้จัก ไร้อาหาร บางตัวไปเกยแถวที่มีสุนัขป่าอาศัยถูกล่ากลายเป็นอาหารสัตว์ถิ่น

ฉากสลดที่ไม่ควรนึกภาพตามเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เริ่มเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ และเชื่อเถอะว่าแมวน้ำหลายตัวคงยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกมัน 

แต่สำหรับเราที่เป็นมนุษย์ก็พอจะสรุปได้ในทันทีว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เลือกเอาแมวน้ำลายพิณเป็นเหยื่อเข้าให้แล้ว

และคนที่จะหยุดเหตุการณ์นี้ได้ ก็มีแต่มนุษย์เราเท่านั้น

อ้างอิง