2 Min

“ถ้ามาไทยแล้วไม่เจอโสเภณี ก็เหมือนไปร้าน KFC ไม่เจอไก่ทอด” สื่อนอกแฉระบบส่วยในธุรกิจค้าประเวณี

2 Min
715 Views
23 Feb 2023

ท่ามกลางกระแสถกเถียงเรื่องธุรกิจสีเทาในไทย ไม่ว่าจะเป็นบ่อนพนันออนไลน์หรือทุนจีน ต่างก็ถูกโยงเข้ากับคนในเครื่องแบบสีกากี เพราะมีหลายเบาะแสที่บ่งชี้ว่ามีตำรวจเกี่ยวพันกับธุรกิจผิดกฎหายเสียเอง ล่าสุดเว็บไซต์ Foreign Policy ก็มีบทความที่ระบุว่า ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าประเวณีแห่งหนึ่งของโลก แต่ธุรกิจนี้ยังผิดกฎหมาย เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ได้ประโยชน์จากการรีดไถส่วย

บทความดังกล่าวชื่อว่า ‘Thailand Is a Global Capital of (Illegal) Sex Work’ รายงานโดย นีฮา วาเดการ์ ผู้สื่อข่าวต่างชาติซึ่งประจำอยู่ที่ไนโรบี ประเทศเคนยา แต่เข้ามาเก็บข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจค้าบริการในเมืองพัทยาของไทย ก่อนจะเผยแพร่ข้อมูลเรื่องนี้ใน Foreign Policy กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2023 โดยอ้างอิงข้อมูลของกรมควบคุมโรคของไทยที่ประเมินว่าผู้ค้าบริการในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 144,000 ราย ซึ่งเป็นผลสำรวจล่าสุดที่เผยแพร่ในปี 2017

อย่างไรก็ดี วาเดการ์รายงานว่า การค้าบริการทางเพศในไทยเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แม้ว่าไทยจะถูกขนานนามว่าเป็นศูนย์กลางของธุรกิจประเภทนี้ก็ตาม ซึ่งเขาได้อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของแอนนาหญิงข้ามเพศรายหนึ่งในพัทยา ที่กล่าวติดตลกเชิงเสียดสีว่า ถ้ามาไทยแล้วไม่เจอโสเภณีก็เหมือนกับการเข้าร้าน KFC แล้วบอกว่าไม่เจอไก่ทอด โดยเป็นการพาดพิงคำแถลงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าตรวจค้นในเมืองพัทยาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และยืนยันว่าไม่พบการค้าบริการทางเพศ

ขณะเดียวกัน โรนัลด์ ไวต์เซอร์ (Ronald Weitzer) ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาที่ศึกษาวิจัยเรื่องการค้าประเวณีและการค้ามนุษย์ในไทยก็ย้ำว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางเพศ (Sex Tourism) สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่สาเหตุหนึ่งที่ธุรกิจประเภทนี้ยังไม่ถูกกฎหมายเพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตำรวจ ได้รับผลประโยชน์จากการเก็บส่วยหรือรีดไถธุรกิจเหล่านี้

ในรายงานนี้ยังได้อ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของ พล...สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งยอมรับว่าตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการรับส่วยจากธุรกิจค้าประเวณีมีอยู่จริง แต่ย้ำว่าเป็นตำรวจส่วนน้อยและเห็นด้วยว่าถ้าธุรกิจค้าบริการทางเพศกลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย น่าจะช่วยให้การก่ออาชญากรรมและการรีดไถส่วยลดลงได้จริง

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีบทความของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่ระบุว่าธุรกิจค้าประเวณีเป็นเรื่องผิดกฎหมายในไทยแต่ในทางปฏิบัติธุรกิจนี้คงอยู่กับสังคมไทยมานานแล้วการทำให้ธุรกิจค้าประเวณีเป็นเรื่องถูกกฎหมายจะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมของไทยมากกว่าเพราะเมื่อธุรกิจถูกนำขึ้นมาบนดินก็จะจัดการเรื่องรายได้และบุคลากรได้อย่างโปร่งใสและเป็นระบบมากขึ้นรายได้จากธุรกิจนี้ก็จะเข้าสู่รัฐโดยตรงไม่ใช่เข้าสู่กระบวนการรีดไถส่วยของกลุ่มอิทธิพล

ขณะเดียวกัน บริษัทประเมินข้อมูลธุรกิจต่างประเทศ Havocscope ซึ่งทำวิจัยเรื่องธุรกิจนอกกฎหมายในไทยก็ประเมินว่า การค้าประเวณีสร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณ 6,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี (ราว 1.92 แสนล้านบาท) หรือประมาณ 1.5 เปอร์เซ็นต์ของ GDP หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทยเมื่อปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่ทำการสำรวจข้อมูลดังกล่าว

อ้างอิง