15 นาทีที่เครื่องบินรบพม่าอยู่ฝั่งไทย ประยุทธ์บอก ‘ขอโทษแล้ว-ไม่ใช่เรื่องใหญ่’ ถ้าที่อื่นเจอแบบนี้จัดการยังไง?
Select Paragraph To Read
- อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
- ถ้าเป็นที่อื่นเจอแบบนี้มีท่าทีกันอย่างไรบ้าง?
- สื่อรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านก็ยืนยันสัมพันธ์ ‘ทหารไทย-เมียนมา’ แน่นแฟ้นดี
อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
ถ้ามีเครื่องบินรบของประเทศอื่นรุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของอีกประเทศจะมีปฏิกิริยา ‘ตอบโต้’ กันอย่างไรบ้าง? แต่กรณีของกองทัพไทย หลังเกิดเหตุการณ์ที่เครื่องบินรบของเมียนมารุกล้ำน่านฟ้าไทยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีการส่งเครื่องบินขับไล่ของไทยตามประกบจนเครื่องบินรบเมียนมาพ้นไปจากพื้นที่ จากนั้นโฆษกกองทัพอากาศไทยก็ออกมายืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ‘ไม่เป็นภัยคุกคาม’ และนายกรัฐมนตรีไทยก็ช่วยยืนยันอีกแรงว่าทางกองทัพเมียนมา ‘ขอโทษแล้ว’ และ ‘ไม่ใช่เรื่องใหญ่’
——————————————————–
ปฏิบัติการระทึกขวัญบริเวณชายแดนไทย–เมียนมาที่เกิดขึ้นส่งท้ายเดือนมิถุนายน 2565 คือการที่เครื่องบินรบรุ่น MIG-29 ของเมียนมารุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าประเทศไทย บริเวณอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกับที่กองทัพเมียนมาใช้กำลังโจมตีทั้งทางบกและทางอากาศกับกลุ่มติดอาวุธในรัฐกะเหรี่ยงที่มีพรมแดนติดกับไทย
สื่อไทยหลายสำนักรายงานตรงกันว่า เครื่องบินรบของเมียนมาอยู่ในฝั่งไทยหลายนาที ช่วงบ่ายวันที่ 30 มิถุนายน 2565 ก่อนจะมีเครื่องบินรบ รุ่น F-16 ของกองทัพอากาศไทยตามประกบจนเครื่องบิน MIG-29 ของเมียนมาบินถอยกลับไป อย่างไรก็ดีท่าทีของสื่อไทยซึ่งรายงานเรื่องนี้ก็แตกต่างกันไป
สำนักข่าว BBC Thai รายงานว่า ทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบินรบล้ำเข้ามาเขตไทยจำนวน 1 ลำ ลึกเข้ามาถึงบ้านวาเล่ย์ใต้ และบ้านวาเล่ย์เหนือ ประมาณ 4-5 กิโลเมตร จนมองเห็นในระยะใกล้ เพื่ออ้อมไปยิงจรวดใส่ที่มั่นฝ่ายต่อต้านฝั่งเมียนมาประมาณ 4 รอบ ก่อนมีเสียงระเบิดดังจากฝั่งเมียนมา ทำให้ประชาชนในฝั่งไทยทั้งสองหมู่บ้านแตกตื่นหนีไปยังหลุมหลบภัยในหมู่บ้าน
จากนั้นโรงเรียนในพื้นที่ออกประกาศฉุกเฉินให้ผู้ปกครองไปรับบุตรหลานกลับบ้าน และโรงเรียนประกาศหยุดเรียนทันที เพราะเครื่องบินรบเมียนมาบินผ่านหลังคาอาคารเรียนของโรงเรียน
ส่วนมติชนออนไลน์ รายงานอ้างอิงคำแถลงของ พล.อ.ต.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ยืนยันว่า มีเครื่องบินของกองทัพเมียนมาบินล้ำเขตแดนมาจริง แต่การตอบโต้ของกองทัพอากาศไทยก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยปกติกองทัพอากาศเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝั่งเมียนมาจากจอเรดาร์ของสถานีเรดาร์อยู่ตลอด 24 ชั่วโมง จากการวิเคราะห์และดูจากสถานการณ์ “ไม่พบว่ามีการบินเข้ามาในลักษณะของภัยคุกคาม”
จนกระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน พบเห็นการใช้อาวุธของเครื่องบินรบเมียนมา มีการบินม้วนตัวเข้ามาในเขตไทย บริเวณชายแดนอำเภอพบพระ ตรงจุดที่บินม้วนนั้นจะเป็นจะงอยยื่นออกไป จึงได้สั่งการให้นำเครื่องบิน F-16 จำนวน 2 ลำ จากอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งพร้อมปฏิบัติหน้าที่อยู่แล้ว บินถึงพื้นที่อำเภอพบพระภายใน 5-10 นาทีเพื่อ ‘บินเตือน’ และเครื่องบินของเมียนมาก็กลับฝั่งไปทันที
ขณะที่ MGR Online รายงานเหตุการณ์เดียวกันโดยพาดหัวข่าวระบุนาทีที่เครื่องบินรบเมียนมาอยู่ในฝั่งไทยเป็นตัวเลขชัดเจนว่า “ทำได้แค่ยืนมอง! บินรบพม่าล้ำน่านฟ้าไทย 5 กม. นานถึง 15 นาที”
ส่วน Thai Post อ้างอิงโพสต์ในเฟซบุ๊คส่วนตัวของ ไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษาพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งพาดพิงผู้วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์เครื่องบินรบเมียนมารุกฝั่งไทยโดยตั้งคำถามว่า “นักล่าอาณานิคมอยากให้ไทยทำสงครามกับพม่าเต็มทีแล้วใช่ไหม?”
อดีตที่ปรึกษารองนายกฯ มองว่า ผู้วิจารณ์กรณีที่เกิดขึ้นที่ชายแดนไทยเป็นการ ‘ปั่นหัวให้คนไทยโกรธกองทัพอากาศ และเรียกร้องให้ประณามเมียนมาว่ารุกรานประเทศไทย’
ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็แถลงยืนยันในวันนี้ (1 กรกฎาคม) โดยเว็บไซต์สยามรัฐรายงานอ้างอิงคำกล่าวของนายกฯ ที่ระบุว่า ได้มีการประสานไปยังเมียนมาแล้ว ซึ่งเขายอมรับว่ารุกล้ำ พร้อมขอโทษมาแล้ว โดยระบุว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เกิดปัญหา
“วันนี้ทูตทหารเองก็ได้มีการพูดคุยกันแล้ว เขาก็ขอโทษมา และตัวผมเองก็คุยกันแล้ว นี่เป็นเรื่องที่มองดูอาจเป็นเรื่องใหญ่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราจะทำให้เรื่องใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีกหรือไม่ ซึ่งวันนี้เราก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมีอะไรก็พูดคุยหารือกัน สิ่งสำคัญที่สุดคือเรามีสมรรถนะพอเพียงที่จะป้องกันอธิปไตยของเราไว้ได้ แต่วันหน้าก็ต้องดูว่าเรามีความเข้มแข็งทันสมัยเพียงพอหรือไม่ในอนาคตฝากเอาไว้ด้วยแล้วกัน…ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวที่หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ
ถ้าเป็นที่อื่นเจอแบบนี้มีท่าทีกันอย่างไรบ้าง?
ที่จริงแล้วการที่เครื่องบินรบของประเทศเพื่อนบ้านรุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าของอีกประเทศหนึ่ง ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตรงกันข้าม เรื่องนี้มีให้เห็นบ่อยๆ และสื่อต่างชาติก็รายงานกันเป็นปกติ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้เห็นว่าเหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติ
ทุกครั้งที่มีเครื่องบินจากประเทศหนึ่งรุกล้ำเข้าไปในอีกประเทศ สื่อต่างๆ จะรายงานในฐานะข่าว ‘ความมั่นคง’ เพราะพฤติการณ์ดังกล่าวเสี่ยงที่จะถูกมองว่าละเมิดอำนาจอธิปไตยได้
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กองทัพเกาหลีใต้เคยส่งเครื่องบินขับไล่ยิงกระสุนเตือนเครื่องบินรัสเซีย 2 ลำที่รุกล้ำเข้ามาในน่านฟ้าเกาหลีใต้ โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2562 และเมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา เครื่องบินรบของจีนและรัสเซียได้บินเข้ามาในน่านฟ้าเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) บริเวณทะเลญี่ปุ่น ซึ่งตามปกติแล้วพื้นที่ในเขตนี้จะไม่นับเป็นของประเทศใด แต่ผู้ที่บินผ่านจะต้องแจ้งหรือแสดงตนก่อน แต่เครื่องบินของรัสเซียและจีนไม่ได้แจ้ง ทำให้เกาหลีใต้ส่งเครื่องบินขับไล่ไปเตือน
นอกจากนี้ยังมีกรณีกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียส่งหมาย ‘เรียกตัว’ (summon) ทูตจีนในมาเลเซียเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง หลังจากเครื่องบินสัญชาติจีนรุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าของมาเลเซียที่อยู่ติดกับทะเลจีนใต้ เมื่อเดือนมิถุนายน 2564 และมาเลเซียส่งเครื่องบินขับไล่ตามประกบจนเครื่องบินจีนออกจากน่านฟ้าไป
สำนักข่าว Reuters รายงานอ้างอิงคำกล่าวของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ที่ออกมาย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “เป็นภัยคุกคามต่ออำนาจอธิปไตย” ของมาเลเซีย ซึ่งทางการจีนแถลงในเวลาต่อมาว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการฝึกซ้อมบินตามปกติ และความสัมพันธ์ฉันมิตรของจีนกับมาเลเซียจะไม่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้
นอกจากนี้ยังมีกรณีของเครื่องบินรบจีน 9 ลำรุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าไต้หวันเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และถูกรัฐบาลไต้หวันประณามอย่างรุนแรง แต่ทางการจีนประกาศว่า “ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน” และยืนยันว่าเครื่องบินรบของจีนปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
สื่อรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านก็ยืนยันสัมพันธ์ ‘ทหารไทย-เมียนมา’ แน่นแฟ้นดี
เหตุการณ์ปะทะระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มติดอาวุธในรัฐกะเหรี่ยงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ บริเวณชายแดนเมียนมาที่อยู่ติดกับฝั่งไทย และมีหลายครั้งที่อาวุธสงครามข้ามฝั่งมายังประเทศไทย และทหารไทยที่ประจำชายแดนก็ได้มีการ ‘ยิงเตือน’ กลับไปเช่นกัน
อย่างไรก็ดี ความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทยและเมียนมายังดำเนินไปด้วยดี เพราะวันเดียวกับที่มีข่าวเครื่องบินรบเมียนมาเข้ามาในเขตไทย ก็มีข่าวว่า พลเอกอาวุโสมินอ่องหล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา เปิดห้องรับรองที่สภาในกรุงเนปิดอว์ของเมียนมา ‘ต้อนรับคณะทหารไทย’ ที่เดินทางไปถึงตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน 2565
การเดินทางเยือนของคณะทหารไทยครั้งนี้ นำโดย พล.ท.อภิเชษฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3 ประธานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย–เมียนมา (Regional Border Committee: RBC) โดยสื่อของรัฐบาลเมียนมา Global New Light of Myanmar ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายหารือในประเด็นความร่วมมือด้านชายแดน ซึ่งพุ่งเป้าที่การรักษาความสงบและการป้องกันยาเสพติด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวระหว่างทหารไทยและทหารเมียนมา บ่งชี้ว่า ความร่วมมือเป็นไปด้วยดี และพลเอกอาวุโสมินอ่องหล่าย ผู้ก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนเมื่อปี 2564 ก็เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนักว่าเขารู้สึกเหมือนตนเองเป็น ‘ลูกบุญธรรม’ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตองคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรีผู้ล่วงลับ
ในทางกลับกัน การปฏิบัติของทหารไทยกับผู้อพยพลี้ภัยบริเวณชายแดนรัฐกะเหรี่ยงถูกรายงานว่า ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศมากนัก
เพราะเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา องค์กรด้านสิทธิมนุษชนระหว่างประเทศ Fortify Rights เผยแพร่คลิปวิดีโอและรายงานบ่งชี้ว่า ทหารไทยเผาสะพานที่อยู่บริเวณชายแดนไทย–เมียนมา ใกล้กับหมู่บ้านวาเลย์ ทั้งยังตะโกนถามผู้ถ่ายคลิปว่า “ถ่ายอะไร ไอ้เ-ี้ย อยากตายเหรอ” และมีรายงานว่า สะพานดังกล่าวมีผู้หลบหนีภัยสงครามใช้เป็นเส้นทางข้ามมายังฝั่งไทย
ทว่ากองทัพบก กระทรวงกลาโหม ชี้แจงว่า เส้นทางดังกล่าวไม่ใช่สะพานข้ามพรมแดน แต่เป็นเส้นทางชั่วคราวที่ลักลอบสร้างขึ้นเพื่อลำเลียงสิ่งผิดกฎหมาย และยืนยันว่าดูแลชายแดนระหว่างประเทศ รวมถึงดูแลผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาตามหลักมนุษยธรรม พร้อมเตือนประชาชนอย่าแชร์ข้อมูลดังกล่าวในสื่อออนไลน์เพราะจะเข้าข่ายเผยแพร่ข่าวปลอม
อ้างอิง
- BBC Thai. เมียนมา: เครื่องบินรบรุกล้ำเหนือเขตแดนไทยที่ อ.พบพระ จ.ตาก. https://bbc.in/3yyrILW
- MGR Online. ทำได้แค่ยืนมอง! บินรบพม่าล้ำน่านฟ้าไทย 5 กม. นานถึง 15 นาที. https://bit.ly/3AeqaYv
- ThaiPost. แฉไอโอนักล่าอาณานิคม เสี้ยมไทย–พม่า เปิดศึกสงคราม. https://bit.ly/3a3PI02
- Siamrath. นายกฯ เผยเมียนมาขอโทษแล้ว เหตุเครื่องบินรบล้ำน่านฟ้า ยันไม่ใช่เรื่องใหญ่ ลั่นไทยมีสมรรถนะป้องกันอธิปไตยได้. https://bit.ly/3bGz07o
- Reuters. S.Korea scrambles jets after Chinese, Russian warplanes enter air defence zone. https://reut.rs/3OCHsmv
- Reuters. Malaysia to summon Chinese envoy over ‘suspicious’ air force activity. https://reut.rs/3I3x5Ww
- AA. 9 Chinese jets cross into ‘Taiwan airspace’: Taiwan’s Defense Ministry. https://bit.ly/3AfkJZx
- Fortify Rights. Thailand: Video Reveals Thai Soldiers Destroying Cross-Border Footbridge Used by Myanmar Refugees. https://bit.ly/3QXPiZA
- Anti-Fake News Center Thailand. ข่าวปลอม อย่าแชร์! ทหารไทยทำลายสะพานข้ามพรมแดนของผู้ลี้ภัยชาวเมียนมา. https://bit.ly/3AjYz8q