StepN เป็น DApp บน Solana Blockchain พัฒนาขึ้นโดยทีม Find Satoshi Lab เป็นแอพพลิเคชั่นที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองได้จากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหรือวิ่ง โดย StepN นั้นถูกเปิดตัวเมื่อเดือนธันวาคม 2021 ในรุ่นเบต้า มีโทเค็นหลักที่ใช้งานคือ GMT (Green Metaverse Token) ที่มีเพียง 6 พันล้านโทเค็นเท่านั้น (ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 0.1 $ ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดในเดือนเมษาที่ 4.9 $ และในขณะนี้ราคาอยู่ที่ 0.66 $ ติดตามข่าวสารราคาได้ที่ : https://www.coinbase.com/th/price/stepn )
หลักการใช้งาน StepN คือผู้ใช้งานจะต้องทำการซื้อหรือเช่ารองเท้า NFTs ก่อนถึงจะสามารถทำกิจกรรมได้ ซึ่งมีรองเท้าให้เลือกใช้งานอยู่ 4 ประเภท คือ รองเท้าสำหรับ Walkers (1-6 km/h) , Runners (8-20 km/h) , Joggers (4-10 km/h) และ Trainers (1-20 km/h) ซึ่งแต่ละคู่ก็มีราคาที่แตกต่างกันไปตามประสิทธิภาพของรองเท้า


ทั้งนี้ผู้ช้งานยังสามารถนำรองเท้าไปซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในตลาดได้อีกด้วย เมื่อมีรองเท้าแล้วก็เชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันเพื่อให้ GPS ติดตามการเคลื่อนไหวตลอดเวลาการทำกิจกรรม (สามารถเข้าดูวิธีการใช้งานแอพได้ที่ : https://tokenizedhq.com/how-to-play-stepn/ ) เมื่อเราทำกิจกรรมจะมีการจ่ายเป็นโทเค็น GMT หรือ GST (โทเค็นยูทิลิตี้ภายในแอพพลิเคชั่น) ซึ่งจำนวนของโทเค็นนั้นจะถูกคำนวณจากปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นประเภทของรองเท้า (ที่เราได้ทำการซื้อมาในตอนต้น และรองเท้านี้ยังสามารถอัพเกรดคุณสมบัติ และประสิทธิภาพเพื่อให้เราสามารถเพิ่มรายได้ได้ด้วย) ความเร็วในการเคลื่อนที่ (ควรเหมาะสมกับรองเท้าที่เราเลือกซื้อ) รวมถึงปัจจัยในเรื่องของสัญญาณ GPS ด้วย และที่สำคัญผู้ใช้งานแต่ละคนจะมีขีดจำกัดในการได้รับโทเค็น GST/GMT ต่อวัน ไม่สามารถรับเกินจำนวนนั้นได้


หลังจากเปิดตัว StepN ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 300,000 คนต่อวันในเดือนมีนาคม และสามารถทำยอดขายได้สูงถึง 57 ล้านดอลล่าร์ต่อวัน ทำให้ GMT มีราคาพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดเดือนเมษายนจนไปแตะถึงจุดสูงสุดที่ 4.9 $ ก่อนที่ราคาจะตกฮวบลงในเดือนต่อมา เหลือเพียง 1 $ กว่า ๆ เท่านั้นเอง และราคาของ StepN ก็ลดลงมาเรื่อย ๆ จนต่ำกว่า 1 $ จนถึงปัจจุบัน เป็นไปได้ว่าตอนนี้ StepN ถึงจุดอิ่มตัวแล้วหรือไม่?
จากรายงานของ Messari Solana (twitter @MessariCrypto) ประเมินว่าการที่ StepN หยุดการเติบโตนั้นมาจากความผันผวนของราคาตลาด ในเมื่อ StepN ตั้งอยู่บนเครือข่ายของ Solana เมื่อตลาดล่มมันก็กระทบกับผลกำไรของผู้ใช้งานเช่นกัน นอกจากนี้โมเดลโทเค็นของ StepN ยังกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อใน GMT ด้วย ความน่าสนใจของระบบจึงน้อยลง ส่งผลต่อการเข้ามาของผู้ใช้รายใหม่ และทำให้ผู้ใช้ปัจจุบันถอนตัวออกไป
แม้ว่าราคาของเหรียญโทเคนและตัวเลขผู้ใช้งานดูจะไม่ค่อยเพิ่มขึ้นเท่าไรนัก แต่ทาง StepN ก็ไม่ได้มีการหยุดหนึ่งพัฒนาแต่อย่างใด เพราะเชื่อว่าแนวคิด Move-to-Earn นี้ยังสามารถไปได้ไกลกว่านี้ Will McEvoy ผู้ร่วมงานอาวุโสของบริษัทวิจัยการลงทุนอิสระ Fundstrat กล่าวว่า StepN นั้นจะมีวิถีทางที่ยาวกว่าเกม Play-to-Earn ที่ได้อิ่มตัวไปแล้ว เพราะแอพพลิเคชั่น Move-to-Earn นั้น มีตลาดที่ใหญ่กว่ามาก ผู้คนมีการเดินและวิ่งมากกว่าการเล่นเกม อีกทั้งยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้งานแอพพลิเคชั่นติดตามการออกกำลังกายบนสมาร์ทโฟน (ที่มา : https://www.coindesk.com/markets/2022/05/11/stepns-move-to-earn-model-has-crypto-analysts-seeing-value-in-long-run/ ) ด้วยเหตุนี้ StepN ยังคงมีแผนพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อออกลูกเล่นใหม่ ๆ มาให้ผู้ใช้งานในอนาคตเรื่อย ๆ เช่น โหมดมาราธอน, Community Event เป็นต้น และล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา StepN ได้มีการเปิดตัว multi-chain DEX DOOAR ของตัวเอง เป็นแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่โทเค็น GMT จุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ให้แก่ผู้ใช้งาน ( https://whitepaper.stepn.com/decentralized-exchange )
ทั้งหมดนี้ เป็นบทความเพื่อการศึกษา ไม่ได้มีเป้าหมาย เพื่อชักชวนในการลงทุน
“การลงทุนโดยไม่มีความรู้ คือความเสี่ยงสูงสุด”
ที่มาของรูปภาพ : https://ancient8.gg/article/game-analysis-stepn-ex
By Kvnokk