Space Tourism
การท่องเที่ยวอวกาศเป็นกิจกรรมเชิงพาณิชย์ที่ชี้ให้เห็นถึงนักท่องเที่ยวอวกาศ ในอวกาศเพื่อความบันเทิงการพักผ่อนหย่อนใจหรือการผจญภัย แตกต่างจากภารกิจการสํารวจอวกาศแบบดั้งเดิมที่ดําเนินงานโดยหน่วยงานอวกาศของรัฐบาลการท่องเที่ยวอวกาศมุ่งเน้นไปที่การให้พลเรือนมีโอกาสได้สัมผัสกับการเดินทางในอวกาศ
บริษัทเอกชนหลายแห่งได้พัฒนาขีดความสามารถในการท่องเที่ยวอวกาศอย่างแข็งขันโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางไปยังอวกาศได้ง่ายขึ้น บริษัทเหล่านี้ออกแบบและผลิตยานอวกาศเช่นกระสวยอวกาศsuborbitalหรือแคปซูลอวกาศที่ส่งลูกค้าที่จ่ายเงินไปยังอวกาศ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการท่องเที่ยวอวกาศได้กลายเป็นไปได้มากขึ้นเนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความสนใจที่เพิ่มขึ้นในกิจกรรมเชิงพาณิชย์ แม้ว่าการท่องเที่ยวอวกาศยังคงอยู่ในวัยเด็กและอาจมีราคาแพงมากแต่ก็มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักมากขึ้นเนื่องจากเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและต้นทุนที่ลดลง
ขณะที่บริษัทเอกชนมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากความสนใจที่เพิ่มขึ้นในกิจกรรมเชิงพาณิชย์การลงทุนในการท่องเที่ยวอวกาศได้เพิ่มขึ้น หลายบริษัทได้ดึงดูดเงินจํานวนมากเพื่อพัฒนาและเปิดตัวโครงการท่องเที่ยวอวกาศ ตัวอย่างที่น่าสังเกตได้แก่ blue origin, Space X, Virgin Galactic, Axiom space และ Boeing and Space Adventures
วัตถุประสงค์หลักของการท่องเที่ยวอวกาศคือการอนุญาตให้เอกชนเดินทางไปในอวกาศเพื่อความบันเทิงการพักผ่อนหย่อนใจหรือการผจญภัย ต่อไปนี้เป็นเป้าหมายหลักและแรงบันดาลใจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอวกาศ
การค้าการท่องเที่ยวอวกาศ : การท่องเที่ยวอวกาศพยายามที่จะเปลี่ยนการเดินทางอวกาศให้เป็นอุตสาหกรรมที่มีประสิทธิภาพในเชิงพาณิชย์ โดยการให้การบินอวกาศแก่ภาคเอกชนบริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างรายได้และสร้างรูปแบบธุรกิจที่ยั่งยืนสําหรับกิจกรรมนอกเหนือจากการสํารวจอวกาศที่รัฐบาลให้การสนับสนุน
ขยายการเข้าถึงมนุษย์ในอวกาศ : การสํารวจอวกาศถูกจํากัดไว้ที่หน่วยงานของรัฐและนักบินอวกาศที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี การท่องเที่ยวอวกาศมีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายการเข้าถึงอวกาศโดยการอนุญาตให้พลเรือนที่ไม่ใช่นักบินอวกาศสัมผัสกับสิ่งเร้าของการเดินทางในอวกาศ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี : การพัฒนาการท่องเที่ยวอวกาศต้องใช้ความก้าวหน้าในการออกแบบยานอวกาศระบบขับเคลื่อนมาตรการด้านความปลอดภัยและเทคโนโลยีอื่นๆ การแสวงหาการท่องเที่ยวอวกาศได้นําไปสู่นวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีจรวดที่นํามาใช้ใหม่การออกแบบยานอวกาศและพื้นที่อื่นๆของการเดินทางในอวกาศ
การมีส่วนร่วมของประชาชนและแรงบันดาลใจ : การท่องเที่ยวอวกาศมุ่งมั่นที่จะดึงดูดประชาชนและกระตุ้นความสนใจในการสํารวจอวกาศ การอนุญาตให้ภาคเอกชนมีประสบการณ์การเดินทางโดยตรงในอวกาศสามารถกระตุ้นจินตนาการของประชาชนกระตุ้นความกระตือรือร้นในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและส่งเสริมความเข้าใจในสถานที่ของเราในจักรวาล
โอกาสทางเศรษฐกิจ : การท่องเที่ยวอวกาศมีศักยภาพในการสร้างงานกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและส่งเสริมนวัตกรรม สามารถส่งเสริมการพัฒนาภาคใหม่ในเศรษฐกิจโลกและสร้างโอกาสสําหรับธุรกิจต่างๆตั้งแต่การบินและอวกาศไปจนถึงธุรกิจการท่องเที่ยวอวกาศ
การสร้างโครงสร้างพื้นฐานในอวกาศ : บริษัทท่องเที่ยวอวกาศบางแห่งมีวิสัยทัศน์ที่กว้างขึ้นเช่นการสร้างสถานีอวกาศเชิงพาณิชย์หรือฐานดวงจันทร์ ความคิดริเริ่มเหล่านี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างการดํารงอยู่ของมนุษย์ถาวรนอกโลกและเปิดโอกาสใหม่ๆ สําหรับการวิจัยอุตสาหกรรมและที่อยู่อาศัย
ผลกระทบทางวัฒนธรรม : การท่องเที่ยวอวกาศสามารถมีผลกระทบทางวัฒนธรรมและปรับเปลี่ยนความเข้าใจของสังคมเกี่ยวกับพื้นที่ทําให้เป็นพื้นที่ที่มีตัวตนและเข้าถึงได้มากขึ้น เนื่องจากผู้คนจํานวนมากขึ้นมีประสบการณ์การเดินทางในอวกาศอาจช่วยเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนมองโลกของเราและจักรวาลที่กว้างขึ้น
แม้ว่าการท่องเที่ยวอวกาศยังคงอยู่ในวัยเด็กและต้องเผชิญกับความท้าทายด้านเทคนิคการกํากับดูแลและการเงินแต่ก็เป็นก้าวที่กล้าหาญไปสู่พื้นที่ที่ครอบคลุมและเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและค่าใช้จ่ายที่ลดลงวิสัยทัศน์ของการเดินทางในอวกาศรายวันส่วนบุคคลอาจกลายเป็นจริง
SpaceX
SpaceX บริษัทของมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ประสบความสำเร็จด้วยการส่งเที่ยวบินท่องอวกาศแรก เป็นพลเรือนทั้งหมดขึ้นไปท่องเที่ยวในวงโคจรโลกเป็นเวลา 3 วัน ภายใต้ภารกิจที่เรียกว่า Inspiration4
บริษัท SpaceX ดำเนินการทั้งออกแบบ ผลิต และส่งจรวดและยานอวกาศสู่นอกโลก ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอวกาศอย่างก้าวกระโดด โดยพัฒนาจรวดขนส่งขึ้นมา 2 รุ่น คือ Falcon 1 และ Falcon 9 ซึ่งออกแบบโครงสร้างให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นจรวดลำแรกที่สามารถร่อนกลับมาจอดยังแท่นรับในมหาสมุทรได้สำเร็จ
SpaceX ได้ปล่อยจรวด Falcon 9 Block 5 ซึ่งเป็นจรวดขนาดกลางแบบสองขั้นที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ออกจากศูนย์อวกาศเคนเนดีในรัฐฟลอริดา เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2021 ผู้โดยสารทั้งหมด 4 คน โดย ไอแซคแมน มีประสบการณ์ขับเครื่องบินรบของกองทัพและเป็นนักบินอวกาศมือสมัครเล่น ซึ่งเขารับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการประจำยาน ส่วนลูกเรืออีก 3 คน ทั้งนี้กลุ่มลูกเรือทั้งหมดซึ่งผ่านการฝึกเตรียมความพร้อมในการท่องอวกาศมาเป็นเวลา 6 เดือน และจะใช้เวลาท่องอวกาศรอบวงโคจรเป็นเวลา 3 วัน ก่อนกลับถึงพื้นโลกในวันที่ 19 กันยายน 2021สำหรับเป้าหมายหลักของภารกิจ Inspiration4 คือการระดมทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อโรงพยาบาลวิจัยเด็กเซนต์จูด นอกจากง SpaceX แล้วยังมาพร้อมการสร้างประวัติศาสตร์ในหลายด้าน เช่น
-เที่ยวบินอวกาศแรกที่ลูกเรือทั้งหมดไม่ใช่นักบินอวกาศมืออาชีพ
-นักบินหญิงผิวสีคนแรกของเที่ยวบินอวกาศ
-พลเรือนอเมริกันอายุน้อยที่สุดที่เดินทางสู่อวกาศ (เเฮย์ลีย์ อาร์เซโนซ์, 29 ปี)
-เที่ยวบินอวกาศเอกชนเที่ยวบินแรกของ SpaceX
ประธานบริษัท SpaceX ชื่นชมความสำเร็จของภารกิจ Inspiration4 ว่า “เป็นการปูทางไปสู่อนาคต ซึ่งทุกคนที่ต้องการสามารถเดินทางไปอวกาศได้มากขึ้น” ตลอดระยะเวลา 3 วันในการท่องเที่ยวรอบวงโคจรโลกนั้น กลุ่มลูกเรือทั้งหมดได้ติดต่อพูดคุยกับครอบครัวจากอวกาศผ่านระบบสื่อสารของ NASA และได้สัมผัสบรรยากาศความสวยงามของอวกาศผ่านโดมหน้าต่างขนาดใหญ่ที่เรียกว่า Copula ซึ่งเป็นแบบเดียวกับสถานีอวกาศนานาชาติ นอกจากนี้จะมีการทดลองผลกระทบด้านสุขภาพของลูกเรือ ด้วยการเก็บข้อมูลชีวการแพทย์และตัวอย่างทางชีวภาพจากลูกเรือทั้งหมดในระหว่างท่องอวกาศ เพื่อทำการศึกษาวิจัยผลกระทบจากเที่ยวบินท่องอวกาศต่อร่างกายมนุษย์ ซึ่งจะช่วยให้การท่องอวกาศของมนุษย์ในอนาคตพัฒนาไปในทางที่ดีมากขึ้น
ปัจจุบัน SpaceX กลายเป็นบริษัทพันธมิตรขาประจำของนาซาในภารกิจปล่อยจรวด และจนถึงตอนนี้มีส่วนร่วมในโครงการปล่อยจรวดของนาซาอยู่ราว 2 ใน 3 ของโครงการทั้งหมด ด้วยสัญญาสัมปทานมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
Blue Origin
Blue Origin บริษัทเอกชนผู้พัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ ทั้งบริการเดินทางไปอวกาศ รวมถึงผลิตจรวดเองด้วย ก่อตั้งโดย Jeff Bezos CEO of Amazon จุดประสงค์คือต้องการทำตามความฝันของผู้ก่อตั้งเอง กลุ่มเป้าหมายคือ การขายตั๋วให้เศรษฐีที่อยากไปสัมผัสอวกาศ การออกแบบพัฒนาจรวดและเทคโนโลยีถึง 20 ปี ทดสอบไปกว่า 20 ครั้ง จนกระทั่งวันที่ 20 กรกฎาคม 2021 ได้ประสบความสำเร็จในการยิงจรวดที่ชื่อว่า New Shepard ที่มีผู้โดยสารทั้งหมด 4 คน ซึ่ง Jeff Bezos ได้เปิดเผยแล้วว่า การเดินทางไปอวกาศนั้นได้รับข้อเสนอการยื่นประมูลที่นั่งที่แรกบนยานอวกาศ New Shepard ด้วยเงินมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการประมูลจะเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถวางเงินประมูลตั๋วอวกาศใบแรกสำหรับพลเมืองและคนทั่วไปที่ไม่ใช่นักบินอวกาศ ได้ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม จนถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2021 ในรูปแบบการประมูลออนไลน์ ซึ่งผู้ให้ความสนใจยื่นความประสงค์เข้าสมัครและประมูลไม่ต่ำกว่า5,200 ราย อย่างไรก็ตามในอนาคต Blue Origin ยังไม่ได้ตั้งราคาตั๋วทัวร์อวกาศเชิงพาณิชย์ไว้ที่เท่าใด แต่คาดการณ์ว่าราคาตั๋วอาจจะสูงถึง 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ และยังได้ประกาศเปิดบริการส่งของไปยังดวงจันทร์ภายในกลางปี 2020 โดยที่ Blue Origin มีแผนพัฒนายานอวกาศที่สามารถลงจอดบนดวงจันทร์ได้ในชื่อ Blue Moon มีจุดประสงค์เพื่อการส่งอุปกรณ์การทดลอง ของใช้ และสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต สำหรับการอยู่อาศัยของมนุษย์ในอนาคตภายในกลางปี 2020 นั่นเอง
แต่ปัจจุบันบริษัทเอกชนต่างๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมอวกาศและการบินกำลังแข่งขันกันอย่างหนักเพื่อพัฒนาทัวร์อวกาศเชิงพาณิชย์ให้พลเมือง คนทั่วไปเข้าถึงได้ ทั้ง SpaceX ที่กำลังเดินทางไปดวงจันทร์ภายในปี 2023 หรือ Virgin Galactic ที่เตรียมทัวร์อวกาศเชิงพาณิชย์ เช่นกัน ถ้าผู้คนเริ่มสนใจการเดินทางท่องเที่ยวในอวกาศมากขึ้น เราอาจจะได้เห็นการพัฒนาของบริษัทอวกาศเอกชนอย่างก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยไม่ต้องพึ่งพาจากองค์กรภาครัฐขนาดใหญ่อีกต่อไป และจะเป็นการเปิดฉากยุคอวกาศสำหรับพลเรือนอย่างแท้จริง
Virgin galactic
Virgin Galactic บริษัทเอกชนกท่องบินอวกาศ เริ่มก่อตั้งปี 2004 โดย Richard Branson ที่ต้องการให้บริการเที่ยวบินสู่อวกาศ สำหรับนักท่องเที่ยวที่กระเป๋าหนักพร้อมซื้อประสบการณ์ท่องอวกาศสุดมหัศจรรย์ Virgin Galactic ได้ใช้เวลาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทั้งหมด 17 ปี จนสามารถนำเที่ยวบินแรกประสบความสำเร็จได้ ทั้งทยายขึ้นและร่อนลงอย่างปลอดภัย ในวันที่ 11 กรกฎาคม 2021 โดย ยาน VSs Unity เป็นสัญญาณที่ดีให้ทุกคนรู้ว่าธุรกิจเที่ยวบินอวกาศสามารถทำได้จริงและสามารถสร้างรายได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งเที่ยวบินสามารถบรรจุได้ทั้งหมด 6 คน ราตาต่อ คือ 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ Richard มีแผนจะทดสอบเที่ยวบินอีก 2 ครั้ง เพื่อเช็คความปลอดภัยที่แน่นหนาก่อนเปิดใช้บริการในปี 2022
Timeline of Virgin Galactic
ในปี 2004 ก่อตั้งบริษัท
ในปี 2019 จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์
ในปี 2021 เที่ยวบินแรกทยายสู่อวกาศสำเร็จ
ในปี 2022 แพลนจะเปิดบริการอย่างเต็มรูปแบบ
(ระหว่างปี 2004-2021 วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี)
หลังจากที่บริษัทได้เข้าจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้บริษัทมีมูลค่าถึง 7,000 ล้านเหรียญ ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่านับจากที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำไมบริษัทที่ยังไม่มีรายได้เลย มีแต่รายจ่าย กลับมีมูลค่าบริษัทที่สูง นั้นเกิดจากการประกาศขายตั๋วสำหรับการเดินทางท่องอวกาศในราคา 250,000 เหรียญต่อคน แล้วมีผู้คนสนใจจองตั๋วถึง 600 กว่าคน หมายความว่าหาก Virgin Galactic สามารถพาทุกคนที่จองตั๋วเดินทางอวกาศได้สำเร็จ บริษัทจะมีรายได้กว่า 150 ล้านเหรียญ และ Virgin Galactic ตั้งเป้าหมายภายในปี 2023 จะเดินทางทท่องเที่ยวสู่อวกาศให้ได้ 270 ครั้งใน 1 ปี ซึ่งเที่ยวบิน 1 สามารถบรระจุได้ 6 คน เท่ากับว่าบริษัทจะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 400 ล้านเหรียญ และสามารถลดต้นทุนที่ต่ำได้อีกในอนาคตหากเทคโนโลยีดีขึ้น จะเห็นได้ว่าบริษัทกำลังเติบโตในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์จากคนทั่วโลกพร้อมที่จะซื้อประสบการณ์ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจมูลค่าบริษัทซื้อขายสูง เนื่องจากนักลงทุนกำลังซื้อศักยภาพการทำเงินในอนาคตของ Virgin Galactic นั่งเอง แต่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์เศรษฐกิจโลกเช่นกัน เพราะอาจส่งผลต่อธุรกิจท่องบินอวกาศแน่นอน
งานเขียนนี้ เป็นส่วนหนึ่งของวิชา751309 Macro Economic 2
ซึ่งสอนโดย ผศ.ดร. ณพล หงสกุลวสุ
คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
งานชิ้นนี้ เขียนโดย
นางสาววริศรา กันพงษ์ 651610397