2 Min

รายงานชี้ 1 ใน 4 ของผู้หญิงอิสราเอลที่เกณฑ์ทหาร ‘ถูกละเมิดทางเพศ’ ขณะประจำการที่คุก-โรงพัก-ชายแดน

2 Min
904 Views
12 Dec 2022

อิสราเอสน่าจะเป็นไม่กี่ชาติในโลกที่ผู้หญิงต้องเกณฑ์ทหารเมื่ออายุ 18 ปี ทุกคน ไม่ต่างจากผู้ชาย ซึ่งหมายความว่าในแต่ละปี ผู้หญิงอิสราเอลต้องไปรับใช้ชาติประมาณ 50,000-60,000 คน และมีวาระประจำการเฉลี่ยคนละ 2 ปี

บางคนอาจสงสัยว่าการเกณฑ์ผู้หญิงเข้ากองทัพไปมากๆ แบบนี้ จะมีผู้หญิงโดนทำมิดีมิร้ายหรือไม่? คำตอบคือ ไม่มีคนสงสัยมาก่อน เพราะจริงๆ การเกณฑ์ทหารก็มีมาราวๆ 50 ปีแล้ว แต่ก็ไม่มีเรื่องอะไรถูกรายงานออกมาให้ได้ยิน

จนกระทั่งในปี 2018 เกิดเรื่องฉาวขึ้นที่เรือนจำกิลบาว (Gilboa Prison) เพราะผู้คุมคุกระดับสูงนั้นมีการบังคับให้ผู้คุมผู้หญิงชั้นผู้น้อยไปให้บริการทางเพศพวกนักโทษการเมืองของปาเลสไตน์ที่โดนคุมขังอยู่ (เรือนจำกิลบาวถูกสร้างมาขังพวกนักโทษการเมืองชาวปาเลสไตน์อยู่แล้ว)

เรื่องมันช็อกชาวอิสราเอลมาก จนหน่วยงานต่างๆ ต้องมีการตรวจสอบภายในกันยกใหญ่ ว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศเกิดขึ้นแค่ไหน?

แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น บางคนอาจงงว่าเกณฑ์ทหารมันเกี่ยวอะไรกับคุก’? ในความเป็นจริง การเกณฑ์ทหารของอิสราเอลนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าประจำการในหน่วยทหารเสมอไป แต่ไปอยู่หน่วยงานเกี่ยวกับความมั่นคงไหนก็ได้ คือคนเกณฑ์ทหารจะไปเข้าเป็นตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน หรือไปเป็นผู้คุมในคุกก็ได้ ซึ่งผู้หญิงที่ไม่อยากฝึกหนักแบบทหารหลายๆ คนก็จะเลือกไปอยู่หน่วยพวกนี้

แต่หารู้ไม่ มันคือหายนะ!

เพราะผลตรวจสอบภายในหน่วยงานโดยผู้ตรวจการแผ่นดิน หลังจากไปไล่ถามผู้หญิงที่เคยเกณฑ์ทหารแล้วไปเป็นตำรวจ ตำรวจตระเวนชายแดน หรือไปเป็นผู้คุมในคุกในช่วงปี 2021 พบว่า ผู้หญิงราว 1 ใน 4 บอกว่าตัวเองเคยถูกล่วงละเมิดทางเพศและที่หนักสุดก็คือในคุกที่เกิดเรื่องฉาว เพราะผู้หญิงโดนละเมิดจากทั้งสองฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือตำรวจผู้ใหญ่ในคุกที่เป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน และอีกด้านก็จะโดนพวกนักโทษการเมืองล่วงละเมิด ซึ่งทางพวกผู้คุมผู้ชายก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

และที่น่าช็อกกว่านั้นก็คือ แน่นอนว่าทุกคนร้องเรียน แต่การร้องเรียนเพียงราวๆ 30 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ที่จะได้รับการตอบรับ นั่นหมายความว่าคนร้องเรียนเกิน 2 ใน 3 นั้นร้องเรียนไปก็ไม่เกิดอะไรขึ้น และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเธอไม่ร้องเรียน

จนกระทั่งเกิดรายงานที่ตีแผ่เรื่องอื้อฉาวนี้ขึ้นมา ซึ่งบางคนก็บอกว่ามันคือจังหวะของการขับเคลื่อนกระแส #MeToo ของอิสราเอลเลย เพราะทั้งหน่วยงานรัฐบาลที่เป็นที่น่านับถือ รวมไปถึงพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงก็น่าจะกำลังเตรียมโดนลากไส้เร็วๆ นี้ถ้ามีการสอบสวนต่อ

เรียกได้ว่าก็คงจะโดนกันไปเป็นแถบๆ และนี่ก็คงจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่จะเกิดขึ้นแล้ว

อ้างอิง