2 Min

สตาร์ทอัพหัวใส ทำ ‘ไส้กรอกเนื้อดารา’ ขาย ผ่านเทคโนโลยีเพาะเนื้อเยื่อ

2 Min
353 Views
28 Jan 2022

ล่วงเข้าปี 2022 เทคโนโลยีจำพวกเพาะเนื้อสัตว์ในหลอดทดลองเป็นคลิปไวรัลไปไม่รู้กี่รอบแล้ว และพวกอินฟลูเอนเซอร์ก็ได้โอกาสกินเนื้อสัตว์พวกนี้ไปไม่รู้กี่รอบแล้ว

พูดง่ายๆ คือ ธุรกิจที่จะขายเนื้อสัตว์ที่สร้างจากการเพาะเนื้อเยื่อไม่มีอะไรแปลกแล้ว ถ้าอยากขายอะไรด้วยเทคโนโลยีทำนองนี้ ก็ต้องทำอะไรที่ใหม่กว่านั้น

ว่าแต่จะทำอะไรล่ะ เนื้อวัวเหรอ? คนทำกันเต็มไปหมด เนื้อกุ้งก็มีสตาร์ทอัพสิงคโปร์ริเริ่มจนเอามาทำขนมจีบขายแล้ว

แล้วเนื้อคนล่ะจะเป็นยังไง? จะผิดอะไรที่จะเพาะเนื้อเยื่อคนมาทำเป็นอาหารขาย เพราะกินไปก็ไม่มีใครตายหรือบาดเจ็บใดๆ นี่นา?

นี่คือไอเดียพื้นฐานของบริษัท Bitelabs แต่ถ้าจะเอาเนื้อคนเฉยๆ มันไม่สนุก ไม่มีกิมมิค ทางบริษัทก็เลยออกแคมเปญ #EatCelebrityMeat ขึ้นมา โดยบนหน้าเว็บไซต์บริษัทจะมีการนำร่องโดยการเสนอว่าไส้กรอกแห้งซาลามี่ของคนดังแต่ละคนควรจะมีรสชาติยังไง ซึ่งคนดัง 4 รายที่อยู่ในขบวนการนำร่องนี้ก็ได้แก่ เจมส์ ฟรังโก เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ คานเย เวสต์ และอัลเลน ดีเจอเนอเรส ซึ่งทางบริษัทก็เชิญชวนให้คนไปทวีตหาคนดังเหล่านี้เพื่อชวนให้เข้าร่วมโครงการที่จะเปลี่ยนเนื้อเยื่อของตนให้กลายมาเป็นไส้กรอกซึ่งเป็นสินค้าของบริษัท

ไม่มีรายงานชัดเจนว่าเขามีการคุยกันมาก่อนหรือไม่ แต่สิ่งที่ Bitelabs ทำก็ไม่น่าจะผิดกฎหมายใดๆ โดยเฉพาะกฎหมายของอเมริกา ประเทศที่เชิดชูเสรีภาพในการแสดงออกหรือพูดง่ายๆ ก็คือ แม้กระทั่งการเชื้อเชิญให้คนไปขอเนื้อเยื่อคนอื่นเอามาเพาะทำไส้กรอกมันไม่ได้ผิดกฎหมายอะไร

ซึ่งก็แน่นอน บริษัทก็บรรยายเสียสนุกเลยว่าไส้กรอกเจมส์ ฟรังโก ต้องมีส่วนผสมของเนื้อกวาง หอมหัวใหญ่ที่ผัดจนนิ่มหวาน และพริกไทย เพื่อให้ซ่อนเสน่ห์ลึกลับไว้ ไส้กรอกเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ก็ต้องมีความหวานอมเปรี้ยวที่มาจากน้ำผึ้ง เปลือกส้ม ขิง และเครื่องเทศ ไส้กรอกคานเย เวสต์ ก็ต้องมีความหนักแน่นดุเดือดจากการใช้เนื้อหมูบดหยาบผสมกับปาปริก้า ซอสวูลเตอร์ พริกฮาลาเปญโญ่ และเหล้าเบอร์เบิน ส่วนไส้กรอกอัลเลน ดีเจอเนเรสก็จะต้องมีรสกลมๆ ที่ความรอบด้าน โดยจะแสดงออกผ่านส่วนผสมของเนื้อนกกระจอกเทศ พริกไทยดำ กระเทียม รวมทั้งหอมแดง และบรั่นดี เป็นต้น

เรียกได้ว่าก็สนุกกันใหญ่เลยกับโปรเจกต์เปลี่ยนดาราเป็นไส้กรอก

แต่เอาจริงๆ โปรเจกต์นี้ก็ค่อนข้างเงียบและมีลักษณะโยนหินถามทางกันเยอะ เพราะไอเดียมันสุดขั้วมากๆ จะเอาเนื้อคนมาทำไส้กรอกไม่พอ ดันเอาเนื้อดาราอีก ดังนั้นพวกเหล่านักวิทยาศาสตร์ผู้เกี่ยวข้องก็เลยไม่ยอมเปิดเผยตัวกันในตอนนี้ เพราะกลัวจะโดนยำเละ

อย่างไรก็ดี ถ้าคนเริ่มเห็นดีเห็นงามขึ้นเรื่อยๆ และมีเหล่าคนดังที่ยินยอมพร้อมใจจะเปลี่ยนตัวเองเป็นไส้กรอกมากขึ้น แน่นอนว่าโปรเจกต์นี้ก็คงจะไปต่อได้

และถ้าสินค้าแบบนี้ได้รับการยอมรับ ก็น่าจะมีหลายบริษัทแข่งกันทำไส้กรอกเนื้อดาราไม่ต่างจากพวกบริษัทสินค้ากีฬาหรือเครื่องดนตรี ที่ไปไล่เซ็นสัญญากับพวกนักกีฬาและนักดนตรี เพื่อให้แบรนด์ของตนได้สิทธิผูกขาดในการออกสินค้ารุ่นคนดังมาขาย

เพียงแต่คราวนี้มันไม่ใช่กีต้าร์รุ่นเอ็ดดี้ วาน ฮาเลน รองเท้าบาสรุ่นไมเคิล จอร์แดน แต่มันเป็นไส้กรอกซาลามี่รุ่นเจมส์ ฟรังโก เท่านั้นเอง

อ้างอิง