เมื่อพูดถึง ‘ความงาม’ หลายคนมักนึกถึงเพียงภาพลักษณ์ที่ฉาบอยู่อย่างผิวเผิน และไม่อาจปฏิเสธได้ว่าอุตสาหกรรมเสริมความงามมักถูกแปะป้ายด้วยอคติอยู่เสมอว่ามันคือความฟุ้งเฟ้อหรือความไม่พอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่
แต่แท้จริงแล้ว การเสริมความงามไม่ใช่เพียงการแก้ไขรูปร่างหรือใบหน้าเท่านั้น หากเปรียบเทียบให้ชัดเจน มันคือ ‘งานศิลปะ’ ที่แพทย์ศัลยกรรมความงามทำหน้าที่เป็นศิลปิน ผู้ต้องผสานทั้งศาสตร์แห่งการแพทย์และศิลป์แห่งความละเอียดอ่อน ในการพิจารณาอย่างรอบคอบว่า ควรเสริมที่ใด ลดตรงไหน เพื่อให้ผลลัพธ์สะท้อนความงามตามธรรมชาติตามความต้องการของแต่ละคน

BrandThink จึงเดินทางมาถึง The Fifth สีลม เพื่อพูดคุยกับสองหัวเรือใหญ่จาก ‘รัตตินันท์ คลินิก’ (Rattinan Clinic) ได้แก่ หมอหนึ่ง–นพ.สุทธิพงษ์ ตรีรัตน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) คลินิกแห่งนี้ ผู้มี Leonardo da Vinci เป็นแรงบันดาลใจในการทำงาน เขาเชื่อว่าความงามจะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนได้ ก็ต่อเมื่อ ‘ศิลปะ’ และ ‘วิทยาศาสตร์’ เดินไปด้วยกัน
พร้อมกับ หมอแต๋ม-พญ.รัตตินันท์ ตรีรัตน์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ ก็ร่วมหล่อหลอมให้คลินิกแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่ผสานประสบการณ์ ความชำนาญ และความใส่ใจ จนมาถึงขวบปีที่ 26 จึงตัดสินใจ Rebranding ครั้งใหญ่

1.Rebranding ที่ไม่ใช่การปรับเปลี่ยน แต่ตอกย้ำตัวตนให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
หมอแต๋มเล่าย้อนว่า เมื่อก่อนตั้งแต่สมัยที่ไม่มีโซเชียล ต้องโฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์อย่างไทยรัฐ หรือแจกโบรชัวร์เป็นหลัก คลินิกอยู่ริมถนนสีลม คนไข้ส่วนใหญ่มักจะมาจากการบอกกันแบบปากต่อปาก
“แต่วันหนึ่งลูกค้าประจำบอกว่า เวลาแนะนำเพื่อน เพื่อนกลับไม่เคยได้ยินชื่อเรา นั่นทำให้เราเริ่มคิดถึงการทำแบรนด์ เพื่อให้คนรู้จักในวงกว้างและเติบโตได้มากขึ้น”
หมอหนึ่งเสริมว่า “นี่ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโลโก้ แต่เพื่อให้ชัดเจนว่าเราเป็นใคร ทำอะไร และมีคุณค่าอะไร เราต้องการสื่อสารสิ่งที่ทำมายากๆ ให้เข้าใจง่ายขึ้น”
ผู้เขียนจึงถามต่อ ว่าความแตกต่างที่จะเห็นได้ชัดหลัง Rebranding คืออะไร?

“เราไม่คิดว่าเราจะเป็น Trend Setter เพราะลูกค้าดั้งเดิมอยู่ในวัย 40-50 ปี แต่ลูกค้าดั้งเดิมเริ่มพาลูกหลานของเขามาทำกับเรา เราจึงต้องพยายามทำตัวให้เด็กลง ดังนั้น การรีแบรนด์ครั้งนี้ก็ถือเป็นการรองรับลูกค้าที่อายุน้อยลงและกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะชาวต่างชาติที่นับว่าเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้” หมอแต๋มตอบ
และสิ่งที่ยืนยันอีกอย่างหนึ่งว่า รัตตินันท์ คลินิก เป็นที่ไว้วางใจสำหรับชาวต่างชาติก็คือ มีการตั้งกระทู้ถามบนเว็บไซต์ Reddit ว่าระหว่างคลินิกชื่อดังที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ กับรัตตินันท์ คลินิก ควรไปใช้บริการที่ไหนดี ซึ่งจำนวนคอมเมนต์ใต้กระทู้ดังกล่าว ต่างมีลูกค้าจากทั้งสองคลินิกเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย


2.ไม่ตามเทรนด์ เรามี ‘คุณค่า’ ของตัวเอง
“คุณว่าภาพเขียนมีราคามาตรฐานไหม”
หมอหนึ่งย้อนถาม เมื่อผู้เขียนถามถึงความต่างของราคาค่าบริการเสริมความงามในแต่ละที่ เขาเปรียบเทียบว่า “การเข้ารับบริการด้านความงามก็เหมือนกับการสร้างบ้าน 2 ชั้นหนึ่งหลัง เจ้าของบ้านต่างมีความต้องการวัสดุและรายละเอียดไม่เหมือนกัน เซ็ตมาตรฐานราคาแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ แทบเป็นไปไม่ได้”
หมอแต๋มจึงเสริมว่า “บริการความงามขึ้นอยู่กับใบหน้าแต่ละคน ความยากง่าย ระยะเวลา และที่สำคัญคือ ‘สกิลของหมอ’ สุดท้ายแล้วคนไข้ไม่ได้ซื้อเพียง ‘บริการ’ แต่ซื้อ ‘ประสบการณ์ของหมอ’ ไปด้วย”

รัตตินันท์ คลินิก ไม่ได้มองเรื่องความงามเพียงในมิติของการทำหัตถการเท่านั้น แต่ให้ความสำคัญกับ ‘ประสบการณ์โดยรวม’ ของผู้รับบริการ ตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ให้รู้สึกผ่อนคลาย ไปจนถึงการจัดสรรสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับงานด้านการแพทย์ เพื่อสร้างความมั่นใจและความน่าเชื่อถือในทุกขั้นตอนของการดูแล
“สิ่งเหล่านี้แม้ไม่ใช่ความงามโดยตรง แต่คือการเสริมความมั่นใจ” หมอแต๋มกล่าว
หมอหนึ่งจึงเสริมว่า “เราเลยเลิกเล่าว่าเรา ‘ทำอะไร’ แต่เล่าแทนว่าเรามี ‘คุณค่าอะไร’ และปีนี้คุณค่านั้นคือ ‘The Aesthetic Wisdom’ เพราะความงามที่แท้จริง ไม่ได้เกิดจากการลอกแบบ แต่คือการออกแบบอย่างเข้าใจเอกลักษณ์ของแต่ละคน”

3.พรีเมียมคือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่อะไรก็ได้
อีกหนึ่งหัวใจหลักของคลินิกแห่งนี้คือ ‘มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า’ โดยหมอหนึ่งย้ำว่าจะไม่ทำอะไรที่ไม่ใช่แนวทางของเขา เพราะจะทำให้แบรนด์ไปต่อได้ยากและฝืน “เราไม่ชอบอะไรที่เวอร์เกินหรือผิดกฎหมาย” เขากล่าว

สำหรับรัตตินันท์ คลินิก คำว่า ‘พรีเมียม’ จึงไม่ได้หมายถึงใช้ของแพงแล้วคิดราคาแพง แต่คือกระบวนการและรายละเอียดที่พิถีพิถัน ครอบคลุม 5 เรื่องหลัก ได้แก่
1.มาตรฐานและความปลอดภัย (Safety): รัตตินันท์ คลินิก ให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยในทุกขั้นตอนของการทำงาน โดยได้รับการตรวจสอบและรับรองคุณภาพจาก Accreditation Association of Cosmetic International (AACI) ในสาขา Plastic Surgery ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสากลที่ประเมินกระบวนการทางการแพทย์อย่างรอบด้าน ครอบคลุมตั้งแต่การเก็บรักษายาในอุณหภูมิที่เหมาะสม ไปจนถึงระบบติดตามและแจ้งเตือนเพื่อควบคุมคุณภาพอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความใส่ใจในรายละเอียดและความปลอดภัยของผู้รับบริการเป็นสำคัญ
หมอแต๋มเสริมว่า “เราใช้ Pharmaceutical Refrigerator ที่มาพร้อมระบบแจ้งเตือนอุณหภูมิ เพราะเรารู้ดีว่าคุณภาพยามีผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการรักษา”
2. การใส่ใจในทุกรายละเอียด: ทุกขั้นตอนถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความรู้สึกของคนไข้ ตั้งแต่การจัดเตรียมชุดเพื่อไม่ให้รู้สึกเขินอายระหว่างทำหัตถการ การมีผ้าคลุมศีรษะหลังทำคางเพื่อสร้างความมั่นใจ ไปจนถึงการจัดเตรียมอาหารหลังการผ่าตัดที่คำนึงถึงข้อจำกัดทางศาสนา เช่น อาหารฮาลาลสำหรับผู้ป่วยมุสลิม รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ คือสิ่งที่ทำให้การบริการของที่นี่แตกต่าง


3.การรักษาแบบเฉพาะบุคคล (Personalized): หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือการดูดไขมันสร้างซิกแพ็ก ก่อนการผ่าตัดแพทย์จะใช้เครื่องอัลตราซาวด์ตรวจดูโครงสร้างกล้ามเนื้อจริงของ
แต่ละคน หากมีกล้ามเนื้อเพียง 4 แพ็ก ก็จะทำให้เป็นธรรมชาติตามสรีระ ไม่ฝืนทำให้เป็น 6 หรือ 8 แพ็ก
เพราะเชื่อว่าความสวยต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง ไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นอย่างไม่เหมาะสม ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติตามพื้นฐานบุคคลจึงเป็นลายเซ็นของรัตตินันท์ คลินิก
4.ความโปร่งใสและการให้เกียรติ (Transparency & Respect): คลินิกเลือกที่จะเปิดเผยข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา โดยมีพยาบาลอ่านเอกสารยินยอม (consent) ทุกบรรทัดให้คนไข้ฟัง แม้สุดท้ายบางคนจะตัดสินใจไม่ทำ แต่พวกเขามีสิทธิ์ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้อง เพื่อประกอบการตัดสินใจที่มั่นใจที่สุด

5.ความยั่งยืน (Sustainability): ผลลัพธ์ที่ได้จากการรักษาจะต้องอยู่กับคนไข้ได้ในระยะยาว ดังนั้น หัตถการใดที่ให้ผลเพียงชั่วคราว คลินิกจะไม่เลือกทำ เพราะการรับประกันผลลัพธ์คือสิ่งที่รัตตินันท์ยึดถือ หากไม่ยั่งยืนจริง แพทย์เองก็ต้องกลับมาแก้ไขซ้ำ ซึ่งไม่เพียงสร้างภาระต่อทีมแพทย์ แต่ยังไม่ยุติธรรมต่อคนไข้ด้วย
ดังนั้น คำว่า ‘พรีเมียม’ ในมุมมองของรัตตินันท์ คลินิก จึงไม่ได้หมายถึง ตัวเลขที่สูงหรือราคาที่แรง แต่… “พรีเมียมคือการเลือกสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่อะไรก็ได้” หมอหนึ่งย้ำอย่างหนักแน่น


4.นึกถึงวงการความงาม นึกถึงประเทศไทย
หมอหนึ่งมองไปข้างหน้าว่า รัตตินันท์ คลินิกมีเป้าหมายเข้าตลาดหลักทรัพย์ (IPO) เพื่อระดมทุนสร้างโรงพยาบาล ขยายสาขาในต่างประเทศ และเป็นแบรนด์ไทยที่ก้าวสู่ระดับสากลได้อย่างภาคภูมิ “เราต้องการพิสูจน์ว่า การทำงานอย่างปลอดภัย ซื่อสัตย์ และมีคุณค่าก็สามารถเติบโตได้”
ด้านหมอแต๋มทิ้งท้ายว่า “ประเทศไทยถูกมองเป็น Medical Hub ด้านสุขภาพ แต่ในวงการความงาม คนยังนึกถึงเกาหลี เราอยากให้เห็นว่าการทำงานตรงไปตรงมาก็ประสบความสำเร็จได้ โดยไม่ต้องแข่งสงครามราคา พรีเมียมของเราไม่ใช่ราคาแพงลิบ หัตถการเล็กๆ อย่างเลเซอร์หรือการฉีดทุกคนก็สามารถเข้าถึงได้”


บทสนทนาครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความงามในมุมมองของรัตตินันท์ คลินิก ไม่ใช่เพียง ‘ภาพลักษณ์ภายนอก’ แต่คือการผสาน ศาสตร์ ศิลป์ และภูมิปัญญา เข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง เพื่อคืนทั้งความมั่นใจและคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืนให้กับทุกคน
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Rattinan Clinic ได้ที่: www.rattinan.com