Select Paragraph To Read
- PET พลาสติกใกล้ตัวที่ใครๆ ก็ใช้
- เปลี่ยนพลาสติกให้เป็น 'วานิลลา'
ปัจจุบัน ก็คงไม่ต้องถกเถียงกันว่ามลภาวะพลาสติกเป็นปัญหาใหญ่ของโลก และเป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เพราะมลภาวะพวกนี้กระจายไปทั่วโลกในรูปแบบของไมโครพลาสติก ซึ่งมีงานวิจัยชี้ด้วยซ้ำว่ามันลงไปปนเปื้อนถึงในห้วงมหาสมุทรที่ลึกที่สุดแล้ว
ดังนั้น การลดการใช้พลาสติกจึงสำคัญมาก แต่ที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือกระบวนการรีไซเคิล เพราะเหตุที่พลาสติกต่างๆ ถูกใช้อยู่ทุกวันนี้ เพราะจำเป็นต้องใช้ และเหตุผลด้านสุขอนามัยก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พลาสติกยังถูกใช้อยู่จำนวนมาก ในแง่นี้พลาสติกที่ใช้เป็นภาชนะของอาหารและเครื่องดื่มจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
PET พลาสติกใกล้ตัวที่ใครๆ ก็ใช้
พลาสติกกลุ่มนี้เรียกว่า PET หรือชื่อเต็มๆ ว่า Polyethylene Terephthalate ประเด็นคือพลาสติกกลุ่มนี้ คือพลาสติกใสๆ ที่ใช้ทำขวดน้ำพลาสติก ไปจนถึงกล่องใส่ผักผลไม้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต พลาสติกกลุ่มนี้จึงสำคัญมาก และเปลี่ยนไปใช้อย่างอื่นไม่ได้ง่ายๆ ด้วยเหตุผลด้านการขนส่ง
พลาสติกกลุ่มนี้ หลักๆ คือ ถ้าไม่รีไซเคิลไปทำอย่างอื่น วิธีที่ดีที่สุดคือ ย่อยสลายเป็นโมเลกุลเล็กที่สุดที่เรียกว่า “Telephthalic Acid” เพื่อเอากลับไปทำพลาสติกใหม่ คือก็ต้องใช้วนๆ นี่คือทางออกที่ดีที่สุด
…แต่ถ้าเราทำอะไรได้มากกว่านั้นล่ะ!?
เปลี่ยนพลาสติกให้เป็น 'วานิลลา'
นักวิจัยพบว่า ถ้าเราเอาแบคทีเรียพื้นๆ อย่าง E. Coli ไป “กิน” Telephthalic Acid ผลที่จะได้คือสารชื่อ “Vanillin” ซึ่งสารตัวนี้ คือสารที่ให้กลิ่นวานิลลา และสารวานิลลาสกัดทั้งหลายที่ขายๆ กัน ก็คือสารตัวนี้เน้นๆ เลย
ถ้านั่นยังไม่สะใจพอ นักวิจัยโชว์เลยว่าพวกเขาสามารถเอาขวดพลาสติกมาแปลงเป็นสาร Vanillin ได้โดยตรง โดยไม่ต้องเอาไปย่อยสลายเป็น Telephthalic Acid ก่อน
พูดง่ายๆ กระบวนการที่นักวิจัยพบ มันคือกระบวนการที่จะทำให้ “ขยะพลาสติก” กลายมาเป็น “กลิ่นวานิลลา” ที่จะเอาไปใส่ขนมได้
ตรงนี้แม้ว่านักวิจัยยืนยันว่า Vanillin ที่ได้จากการย่อยสลายจากขยะพลาสติกนั้นมนุษย์จะกินได้อย่างปลอดภัย แต่ทุกคนก็คงจะหยึยๆ หน่อย เพราะแค่คิดว่าเราสามารถเอา “ขยะพลาสติก” มาแปรรูปเป็นอะไรที่ “มนุษย์กินได้” นี่ก็ดูจะเกินจินตนาการที่เราจะทำไปพอควรแล้ว
แต่ทั้งนี้ Vanillin นี่ไม่ใช่แค่ “กลิ่นวานิลลา” คือสารที่มนุษย์สังเคราะห์มานี้ ประมาณครึ่งนึงถูกใช้เป็นสารตั้งต้นทำสารเคมีอื่นๆ ซึ่งประโยชน์ใช้สอยมีตั้งแต่เอาไปทำน้ำหอม เอาไปทำยา เอาไปทำสารเคมีสำหรับการซักล้าง หรือกระทั่งอาหารสัตว์
ดังนั้น การค้นพบว่าพลาสติกสามารถเอาไปแปลงเป็น Vanillin ได้ ไม่จำเป็นเลยถ้าต้องเอาไปใส่ไอติมหรือขนมให้มนุษย์กิน แต่เอาไปทำอะไรได้อีกเยอะแยะ เพราะอุตสาหกรรมเคมีใช้สารนี้เยอะมากๆ
สรุปคือ แม้ว่าเราจะไม่อยากกินกลิ่นวานิลลาที่ทำมาจากขยะพลาสติก เทคโนโลยีใหม่นี่ก็ดูจะตอบโจทย์ของพวกอุตสาหกรรมเคมีที่ใช้ Vanillin ได้อยู่ดี และข่าวนี้คงจะเป็นข่าวดีสำหรับโลกและสิ่งแวดล้อมของเราไม่น้อย
อ้างอิง
- IFLS. Plastic Turned Into Vanilla Flavoring By Bacteria In A Pretty Sweet Study. https://bit.ly/3xOGBXi