หนังกลางแปลงในค่ายทหาร ปลุกกระแสแนะนำหนังให้ ‘น้องคนเล็ก’ ของกองทัพไทยได้ดู

3 Min
830 Views
09 Jul 2022

ช่วงเดียวกับที่เปิดฉากเทศกาลกรุงเทพ กลางแปลงเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ก็มีความเคลื่อนไหวจากเฟซบุ๊คเพจกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 23 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6’ โพสต์ภาพกิจกรรมฉายหนังกลางแปลงในค่ายทหารเช่นเดียวกัน

ภาพทหารใหม่สวมชุดวอร์มแขนยาวขายาว นั่งดูหนังบนเก้าอี้พลาสติกแบบเว้นระยะห่างโดยพร้อมเพรียงกัน ถูกติดแฮชแท็ก #น้องคนเล็ก ที่หมายถึงทหารใหม่ตามคำเปรียบเปรยของกองทัพบกไทย แถมยังมีภาพผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมและของขบเคี้ยววางเรียงกันให้เห็นชัดเจน ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊คจำนวนมากเข้าไปแสดงความคิดเห็นในโพสต์นี้ที่เปิดสาธารณะ 

ทุกคนดูมีความสุขมากๆ ครับ ยิ่งช่วงนี้บ้านเราอากาศหนาวๆ ได้ใส่ชุดเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวมาดูด้วย ดูแล้วอบอุ่นมากๆ ครับ

อิจฉาจัง

กิจกรรมบังคับผ่อนคลาย

แทนที่จะให้เค้าพักผ่อน ตัดหญ้าแดดร้อนๆ มันเหนื่อยนะ

เป็นอะไรที่ดูตลก ถ่ายน้ำอัดลมกับขนมห่อๆ มาลง ยิ่งตอกย้ำว่าของแค่นี้คือสิ่งพิเศษ

ฯลฯ

ขณะที่คำบรรยายของเพจกองพันทหารปืนใหญ่ฯ ระบุว่า นี่คือกิจกรรมสไตล์ลูกทุ่งกินขนม ชมหนังกลางแปลง โดยมีการฉายภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง Windtalkers ซึ่งทางเพจระบุด้วยว่า สร้างจากเรื่องจริงในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 23 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 6 ร่วมกับ กองพันพัฒนาที่ 2 กรมพัฒนาที่ 2 และกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 จัดฉายหนังกลางแปลง เรื่อง Windtalkers (สมรภูมิมหากาฬโค้ดสะท้านนรก) ให้แก่ทหารใหม่ผลัด 1/65 ของทั้ง 3 หน่วย ได้รับชมเพื่อความบันเทิง พร้อมให้แง่คิดทางทหาร และฝึกสังเกตยุทธวิธีการรบในสงคราม เป็นการผ่อนคลายหลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการฝึกทหารใหม่ และการฝึกทหารใหม่เฉพาะหน้าที่ ต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลานานถึง 9 สัปดาห์ ก่อนที่จะได้พบพ่อแม่ ผู้ปกครอง และได้พักกลับบ้านในวันถัดไป

น้องๆ ทหารใหม่ทุกนายยืนตรงร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนหนังฉายอย่างพร้อมเพรียง เป็นภาพที่น่ารักและน่าภาคภูมิใจ

นับว่าน่ายินดีที่ทหารใหม่ชั้นผู้น้อยได้มีกิจกรรมผ่อนคลาย และท้ายโพสต์ของกองพันทหารปืนใหญ่ฯ ก็มีคนแนะนำหนังสงครามและหนังเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับกองทัพให้ทหารไทยได้ดูกันเพิ่มเติมด้วย เช่น ภาพยนตร์เรื่อง 1917 ผลงานของผู้กำกับ แซม เมนเดส ที่พูดถึงทหารที่ต้องทำภารกิจส่งสารยุติปฏิบัติการโจมตีให้สำเร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้ทหารราว 1,600 นายต้องเสียชีวิตในสมรภูมิที่จริงๆ แล้วถูกมองว่าสามารถหลีกเลี่ยงได้

อีกเรื่องคือ A Few Good Men ของผู้กำกับภาพยนตร์ ร็อบ ไรเนอร์ ซึ่งผู้แนะนำบอกว่าหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องพลทหารในกองทัพนาวิกโยธินเสียชีวิตจากการถูกรุ่นพี่ซ่อม แต่สืบไปสืบมาพบว่าคนร้ายตัวจริงคือนายทหารยศพันเอกจึงเป็นหนังที่แสดงให้เห็นถึงด้านมืดของวัฒนธรรมกองทัพ ที่เกียรติยศค้ำคอจนไร้มนุษยธรรม

สมรภูมิมหากาฬที่พร้อมสังหารพลทหารพวกเดียวกัน

กรณีของหนัง Windtalkers ที่นำมาฉายประเดิมหนังกลางแปลงในค่ายทหาร แอดมินเพจฯ ระบุว่า เป็นหนังที่ให้แง่คิดทางทหาร และฝึกสังเกตยุทธวิธีการรบในสงครามแต่หนังเรื่องนี้เคยถูกตั้งคำถามมาก่อนจากเหล่านักวิจารณ์ฝั่งตะวันตก เพราะหนังเรื่องนี้ออกฉายนานแล้วตั้งแต่ปี 2002 

เนื้อหาของหนังพูดถึงการเข้าร่วมรบในสงครามแปซิฟิกของทหารพื้นเมืองอเมริกันจากเผ่านาวาโฮ (ที่คนไทยจำนวนหนึ่งมักจะเรียกรวมๆ กับเผ่าอื่นๆ ว่าอินเดียนแดงกันทั้งหมด) โดยเหตุผลที่กองทัพสหรัฐฯ เรียกตัวทหารเหล่านี้มาร่วมด้วยก็เพราะจะได้สื่อสารในภาษาชนเผ่าที่กองทัพญี่ปุ่นเจาะรหัสไม่ได้ (เพราะไม่เข้าใจภาษา) 

บทวิจารณ์ในเว็บไซต์ Roger Eberts และ The New York Times มองว่า เรื่องราวบู๊ๆ ในสงครามนั้นเป็นไปตามสูตรของผู้กำกับ จอห์น วู ที่สร้างชื่อจนเป็นที่ยอมรับจากภาพยนตร์แอ็คชั่น Face/Off แต่การมองพลทหารพื้นเมืองอเมริกันในเรื่องนี้ถูกถ่ายทอดผ่านสายตาของนายทหารยศสูงกว่าที่เป็นคนผิวขาว และลดทอนความโหดร้ายของเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในอดีต จนเหลือเพียงมิตรภาพที่งดงาม 

นายทหารผิวขาวที่ถูกจับไปเป็นพี่เลี้ยงให้ทหารนาวาโฮในหนังเรื่องนี้ ได้รับคำสั่งว่าถ้าพลทหารชนเผ่านี้เพลี่ยงพล้ำให้ศัตรูจับได้ (ซึ่งในเรื่องก็คือทหารญี่ปุ่น) ให้ฆ่าทิ้งได้เลย ปมหลักของหนังเรื่องนี้จึงเป็นคำถามที่เกิดจากมโนสำนึกของนายทหารผิวขาวว่า ระหว่างการทำหน้าที่ที่ตัวเองได้รับคำสั่งมา กับการรักษาชีวิตเพื่อนร่วมรบ’ (ที่แม้จะไม่ได้รับการยอมรับในยุคนั้น) อะไรคือสิ่งควรทำมากกว่ากัน และการเลือกอย่างหลังก็อาจจะถือว่าขัดคำสั่งและละเลยการปฏิบัติหน้าที่ด้วย 

เรื่องราวในหนัง Windtalkers ส่วนหนึ่งคือการตีแผ่ว่า ครั้งหนึ่งกองทัพอเมริกันไม่ได้ให้ค่าความเป็นคนเท่ากันระหว่างทหารที่เป็นชนพื้นเมืองกับนายทหารผิวขาวที่ยศสูงกว่า และการให้ตัวเอกที่เป็นนักแสดงชายผิวขาวต้องตัดสินใจเลือกว่าอะไรที่เขาคิดว่าสำคัญมากกว่ากันก็เป็นประเด็นหลัก ทำให้ความเป็นพลเมืองชั้นสองของทหารนาวาโฮถูกลดทอนเป็นเพียงปมขัดแย้งที่ตัวเอกต้องก้าวข้ามให้ได้

อ้างอิง