ทำไมยิ่งแก่ เรายิ่งรู้สึกชิลกับชีวิต

ยิ่งอายุเยอะยิ่งปล่อยวางอะไรง่าย

ยิ่งผ่านชีวิตมามากมายปัญหาอะไรก็ดูเป็นเรื่องเล็กไปหมด

หลายคนน่าจะพอเข้าใจและเห็นภาพแนวคิดนี้อยู่บ้างแต่เชื่อว่านอกจากคำบอกเล่าของผู้ใหญ่ก็ยังไม่มีอะไรออกมายืนยันอย่างชัดเจนว่าวันที่เราแก่ตัวลงไปเราจะรู้สึกผ่อนคลายกับชีวิตได้จริง

แต่มีงานศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยให้ภาพเหล่านี้ชัดเจนยิ่งขึ้น เป็นการศึกษาที่กินระยะเวลากว่า 20 ปี ผ่านกลุ่มเป้าหมายกว่า 3,000 คน ตั้งแต่อายุ 20-90 ปี เกี่ยวกับความเครียดในแต่ละวันที่เกิดขึ้นกับคนในแต่ละช่วงวัย

ผลปรากฏว่า กลุ่มคนหนุ่มสาวที่อายุน้อยกว่า 30 ปี เป็นกลุ่มคนที่เครียดที่สุด เพราะเป็นช่วงวัยที่ต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและความวุ่นวายของชีวิต อะไรก็ไม่มั่นคง อะไรก็ไม่ชัดเจน แถมยังต้องตัดสินใจอะไรๆ สำคัญมากมาย แต่ในทางกลับกันกลับเป็นช่วงที่มีประสบการณ์ชีวิตน้อย และยังไม่มีข้อมูลของโลกนี้เพียงพอมากนัก

แต่พออายุมากขึ้น พวกเขาจะมีการจัดการอารมณ์ที่ดีขึ้น ทำให้ความเครียดเข้ามากระทบจิตใจน้อยลง การศึกษาพบว่า เมื่อเราแก่ตัวลงไปในช่วงอายุมากกว่า 50 ปี เรามีความเครียดน้อยลงกว่าวัยผู้ใหญ่ตอนกลางถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และน้อยลงกว่าเราเป็นผู้ใหญ่ตอนต้นมากถึง 38 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอาจจะมาจากการปลดเกษียณ และโอกาสได้ปู่ย่าตายายได้เลี้ยงดูลูกหลาน และอาจจะมาจากเหตุผลที่ว่า เรามีประสบการณ์ชีวิตมากพอ เราคาดเดาเหตุการณ์ต่างๆ ได้ เรารู้วิธีที่จะตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ เราจัดการอารมณ์ได้ดี และเราเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวตนของเราอย่างแท้จริง ซึ่งบางคนอาจจะเรียกสิ่งนี้ว่า ภูมิปัญญา (wisdom) นั่นเอง

ถึงแม้จะยังไม่มีการศึกษาในเรื่องนี้แบบเจาะลึกมากนักแต่เราก็อาจจะเบาใจได้ว่าในวัยหนุ่มสาวที่ดูอะไรก็ไม่เป็นใจในวันเวลาที่อะไรก็ดูเครียดและน่าวิตกกังวลไปหมดเมื่อวันหนึ่งที่เราเติบใหญ่ทุกอย่างจะเบาสบายอะไรที่คุณเคยเครียดก็อาจจะกลายเป็นเรื่องชิลๆสำหรับคุณ

สำหรับผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมามากก็ยิ่งเข้าใจว่าวันเวลาที่เลวร้ายพอวันเวลาไหลผ่านไปมันก็เป็นแค่ช่วงชีวิตหนึ่งเท่านั้นเอง

อ้างอิง

• PsychologyToday. Getting Older and Chilling Out. https://bit.ly/3wAC7Vw