MOSHI ตอกย้ำภาพผู้นำธุรกิจค้าปลีกในไทย ผ่านผลงานงวดครึ่งปีแรกปี 67 กวาดรายได้รวมกว่า 1,336 ล้านบาท ดันกำไรสุทธิโต 20.8% พร้อมเดินหน้าสร้างสีสันให้ตลาด

ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของธุรกิจที่น่าสนใจ เมื่อ ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย ด้วยการเปิดผลงานไตรมาส 2/2567 ทำรายได้รวม 640.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 81.21 ล้านบาท หนุนผลงานงวด 1H/2567 รายได้รวม 1,336.73 ล้านบาท เติบโต 15.1 เปอร์เซ็นต์ และกำไรสุทธิ 206.59 ล้านบาท เติบโต 20.8 เปอร์เซ็นต์ 

พร้อมคงเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 20 เปอร์เซ็นต์ เตรียม ‘เปิดสาขาใหม่’ เพิ่มเติมอีก 13 สาขา ในครึ่งปีหลัง อีกทั้งเพิ่มสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบเทรนด์และความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทยอยออกสินค้าลิขสิทธิ์ และทำ Collaboration Projects เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดต่อไป

สง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 (เมษายน-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 636.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 592.17 ล้านบาท 

โดยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มค้าปลีก 520.95 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 81.8 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มค้าส่ง 108.16 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 17.0 เปอร์เซ็นต์ และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น 7.43 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.2 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้มีรายได้รวม 636.54 ล้านบาท เติบโต 7.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการเติบโตหลักมาจากการออกสินค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามา 

และการขยายสาขาเพิ่มขึ้น 11 สาขา พร้อมขยายเพิ่มเข้าสู่จังหวัดใหม่ 4 จังหวัด ได้แก่ พะเยา อ่างทอง สตูล และชัยนาท 

ขณะที่กำไรสุทธิได้ 81.21 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากตลาดที่ฟื้นตัวช้าลง และผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนสินค้านำเข้าในช่วงครึ่งแรกของไตรมาส แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาจนสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ ในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา 

ขณะเดียวกันค่าใช้จ่ายในการเปิดสาขาใหม่เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากตามจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ เพื่อต้องการเพิ่ม Distribution Channel ให้ครอบคลุมทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคในทุกภาคส่วน และหวังเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดอีกด้วย

“สำหรับผลการดำเนินงานในงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 (มกราคม-มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,336.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,161.03 ล้านบาท” 

ส่วนปัจจัยการเติบโตของรายได้นั้นมาจากการขยายสาขาใหม่ พัฒนาสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริษัทฯ ได้เดินหน้าผลักดัน New Product ไม่ว่าจะเป็นหมวดหมู่สินค้าใหม่ที่ได้รับความนิยมสูง และการออกสินค้าลวดลายใหม่ๆ ในหมวดหมู่สินค้าเดิม พร้อมได้จัดกิจกรรมการตลาดโปรโมชันประจำเดือนมากมาย ตลอดจนการออก Collection สินค้าลิขสิทธิ์ใหม่ที่น่ารักโดนใจเป็นกระแสในตลาด 

นอกจากนี้เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น ยังได้พัฒนารูปแบบร้านค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า โดยได้เปิดสาขารูปแบบใหม่ Standalone จำนวน 3 แห่ง ในทำเลใกล้กับมหาวิทยาลัย ได้แก่ สาขามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จ.ปทุมธานี และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 

ด้านกำไรสุทธิทำได้ 206.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.8 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 170.95 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยสนับสนุนก็มาจากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง การประหยัดจากขนาดที่มาจากการขยายสาขาค้าปลีก และประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น

ไม่พอแค่นั้น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI ยังกล่าวเพิ่มด้วยว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจค้าปลีกครึ่งหลังปี 2567 คาดว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก จากกำลังซื้อในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่ายังคงมีแรงหนุนมาจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมทั้งการออก Collection สินค้าลิขสิทธิ์ใหม่อย่างต่อเนื่องคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านค้าปลีกในพื้นที่ท่องเที่ยวให้เติบโตได้ดี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่เต็มไปด้วยเทศกาลต่างๆ ที่จะทำให้ภาคธุรกิจคึกคักที่สุดในรอบปี 

“อย่างไรก็ตาม ตลาดค้าปลีกยังคงมีความท้าทายจากความต้องการในสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้บริษัทฯ จำเป็นต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่อง และใช้ประโยชน์จากจุดแข็งด้านการจัดหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ และเป็นที่ต้องการในตลาด เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน”

บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ปี 2567 เติบโต 20 เปอร์เซ็นต์ โดยเตรียมนำทัพสินค้าใหม่มากกว่า 1,000 SKUs ต่อเดือนและยังคงพัฒนาสินค้ากลุ่มลิขสิทธิ์ การ Collaboration Projects เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาด พร้อมคงความเป็นเอกลักษณ์ของ MOSHI และสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี

“สำหรับในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 13 สาขา ในทำเลที่มีฐานลูกค้าของบริษัทฯ หนาแน่น อาทิ สาขา Union Mall, Lotus’s เพชรบูรณ์, Lotus’s บางปู และ Big C ยะลา ซึ่งสาขาดังกล่าวได้เปิดดำเนินการไปแล้วในเดือนกรกฎาคม ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาค้าปลีกและค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 155 สาขา (ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2567) แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 148 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา”

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ออกสินค้าลิขสิทธิ์ใหม่ เพื่อสร้างความแตกต่างและดึงดูดความสนใจ เช่น Collection พิเศษ Moshi Moshi x Butterclub และ Moshi Moshi x TEN & CANELE ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม อีกทั้งบริษัทยังได้ขยายขอบเขตงาน โดยร่วมกับพันธมิตรจัดนิทรรศการ Hello Kitty & Sanrio Characters Funtastic Exhibition ฉลองครบรอบ 50 ปี ตัวการ์ตูน Hello Kitty โดยเป็นรูปแบบ Immersive Exhibition ครั้งแรกในไทย

อย่างไรก็ดี ทุกๆ กิจกรรมที่เกิดขึ้นบริษัทฯ ได้เดินหน้าจัดทำการตลาดผ่าน Social Media มุ่งเน้นเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างการรับรู้และ Engagement กับกลุ่มลูกค้า รวมถึงจัดทำโปรโมชันส่งเสริมการขาย เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงที่เหลือของปีอีกด้วย เพื่อให้ผลการดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้