3 Min

รู้ไหม การ ‘ฉ้อโกงประชาชน’ ในกระบวนการยุติธรรมไทย หนีคดีเพียง 10 ปีก็ ‘พ้นความผิด’ ได้

3 Min
20092 Views
21 Jun 2022

ในช่วงเศรษฐกิจไม่สู้ดี เราก็คงจะได้ข่าวตั้งแต่การหลอกให้ลงทุน การขายบัตรสมนาคุณแล้วเชิดเงินหนีอะไรสารพัด ซึ่งอะไรพวกนี้ที่มันเป็นข่าว เพราะคนโดนกันเยอะมาก มูลค่าความเสียหายอาจสูงถึงหลักร้อยล้านพันล้านบาท

ความผิดพวกนี้ ในทางกฎหมายถือว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชน (ดูบทบัญญัติได้ที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 342-343) ซึ่งเป็นความผิดแบบที่เรียกว่าเป็นอาญาแผ่นดินหรือเป็นอาชญากรรมต่อรัฐ ซึ่งโทษสูงสุดคือการจำคุก 7 ปี

และก็ไม่แปลกเช่นกัน ที่คนที่กระทำความผิดพวกนี้จะหนีคดีไปอย่างรวดเร็ว

แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ จริงๆ การหนีคดีเหล่านี้ส่วนใหญ่ทำไปเพื่อให้ไม่ต้องโดนฟ้องและขึ้นศาลในเวลาที่กำหนด และทำให้คดีหมดอายุความในที่สุด (ซึ่งภาษากฎหมายจริงๆ เขาจะใช้คำว่าขาดอายุความ’)

แล้วเมื่อไรคดีหนึ่งๆ จะหมดอายุความ? คำตอบคือแล้วแต่ระดับความผิด อายุความจะเป็นไปตามโทษของความผิดนั้นๆ พวกโทษเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่มีโทษจำคุก อายุความจะเพียงแค่ 1 ปี แต่โทษหนักๆ ถึงหนักที่สุด อายุความนั้นจะเต็มที่ไปถึง 20 ปี และมากกว่านั้น พวกความผิดระดับที่ยอมความได้ คือถ้าผู้เสียหายรู้เรื่องแล้วไม่ดำเนินคดี (ดู ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95-96)

นี่หมายความว่า แม้แต่คนที่ฆ่าคนและโดนตั้งข้อหาแล้ว แต่ถ้าไม่โดนจับได้และถูกส่งตัวไปขึ้นศาล ก็นับไป 20 ปีหลังวันก่อเหตุ คดีก็เป็นอันขาดอายุความและอำนาจกฎหมายไทยก็จะทำอะไรไม่ได้ ซึ่งอะไรพวกนี้ เราก็จะเห็นคนหนีคดีจนขาดอายุความและไม่เคยต้องเข้าคุกแต่เปิดตัวกลับสู่สังคมได้ ตั้งแต่บรรดาเสือทั้งหลายที่ยามแก่ตัวแล้วก็ออกมาเล่าวีรกรรมตอนเป็นโจรช่วงหนุ่มๆ หรือกระทั่งฆาตกรต่อเนื่องบรรลือโลกอย่าง ชาร์ล โสภราช (Charles Sobhraj) ชาวฝรั่งเศส ก็รอดจากคดีฆาตกรรมในไทยเพราะการขาดอายุความแบบนี้เช่นกัน (และจริงๆ หลายๆ คนก็อาจเพิ่งรู้ว่าในไทยมันมีข้อกำหนดแบบนี้ด้วยก็ตอนดูซีรีส์ The Serpent ทาง Netflix)

และนี่คือแม้แต่คดีที่มีโทษระดับประหารชีวิตอายุความยังแค่ 20 ปี ซึ่งสำหรับการฉ้อโกงประชาชนที่โทษจำคุกสูงสุดเพียง 7 ปี อายุความมันก็เพียงแค่ 10 ปีเท่านั้นนับแต่ก่อเหตุ

ดังนั้นมันจึงไม่แปลกอะไรเลยที่เราจะเห็นคนมากมายหนีคดีไปต่างประเทศ แล้ว 10 ปีกลับมาเมืองไทยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

คีย์สำคัญของการหนีก็คือ ต้องหนีก่อนที่จะโดนจับไปขึ้นศาล เพราะถ้าขึ้นศาลแล้ว การหนีมันจะยาก และการนับอายุความก็จะรีเซ็ต หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าหนีคดีที่อายุความ 10 ปี มา 9 ปีแล้วโดนจับได้ ศาลไม่มีความจำเป็นใดๆ จะต้องพิจารณาคดีให้เสร็จใน 1 ปีเพื่อให้คดียังมีอายุความ เพราะถ้าจับได้คืออายุความจะโดนรีเซ็ตและหยุดนับอายุความ ดังนั้นก็จะโดนดำเนินคดีต่อไปยาวๆ และถ้าจำเลยสามารถหนีขณะพิจารณาคดีได้อีก ถ้ารอให้หมดอายุความจะไม่ใช่นับแค่วันกระทำผิดแล้ว แต่จะนับตั้งแต่วันที่หนี ถ้าโดนจับได้ อายุความจะรีเซ็ต และเริ่มนับใหม่หากคดีต้องหยุดดำเนินการ ซึ่งเกิดได้จากการหนีระหว่างการพิจารณาคดีหรือไม่ก็ศาลสั่งยุติการพิจารณาคดี (ซึ่งเกิดขึ้นได้ถ้าผู้กระทำผิดเป็นบ้าหรือถูกวินิจฉัยว่าวิกลจริต)

ถามว่าประเทศอื่นมีแบบนี้ไหม? คำตอบคือมี อายุความเป็นเรื่องปกติของระบบกฎหมายทั่วโลก มีเอาไว้เพื่อเร่งให้ผู้เสียหายไม่ชะล่าใจ รีบๆ ดำเนินคดี ซึ่งนั่นเป็นประโยชน์กับการดำเนินคดีด้วย เพราะเวลายิ่งผ่านไปหลักฐานต่างๆ ยิ่งหายไป การดำเนินคดีก็เป็นไปได้ยากลำบาก และในทำนองเดียวกัน ในหลายๆ กรณีที่ความผิดไม่ได้ชัดเจน มันก็สร้างหลักประกันว่าฝ่ายผู้ที่ถูกกล่าวหาจะไม่ถูกเล่นงานในภายหลังจากเรื่องที่ตัวเองอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเป็นคนก่อเหตุ (เช่น การหมิ่นประมาท อายุความ 5 ปี ดังนั้นจาก 5 ปีคือเคลียร์ จะมาเอาเรื่องย้อนหลังไม่ได้)

อย่างไรก็ดี ความต่างคือ ในหลายๆ ประเทศ คดีบางแบบจะไม่มีการหมดอายุความ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคดีความผิดระดับร้ายแรงมากๆ ต่อรัฐ เช่น ฆาตกรรม รัฐประหาร อะไรพวกนี้ ซึ่งก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมในไทยคดีพวกนี้ถึงมีอายุความแค่’ 20 ปี

สุดท้าย ความรู้เรื่องอายุความนั้นสำคัญพอสมควรสำหรับประชาชนอย่างเราๆ ที่ทุกวันนี้ขยับตัวทำอะไรก็อาจผิดกฎหมายได้ทั้งหมด เราควรรู้เช่นกันว่าเมื่อไรถึงเรียกว่าเคลียร์ เช่น ทุกวันนี้เราทำอะไรก็อาจจะเข้าข่ายละเมิดลิขสิทธิ์โดยไม่ได้ตั้งใจ เราก็ต้องรู้ว่า ถ้าเจ้าของลิขสิทธิ์เขารู้เรื่อง แล้วไม่ฟ้องเราภายใน 3 เดือน ก็คือเขาหมดสิทธิ์แล้ว หรือถ้าเราไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องหรือไม่ การละเมิดลิขสิทธิ์ถ้าไม่ทำไปเพื่อการค้าจะไม่มีโทษจำคุก ดังนั้นอายุความจะแค่ 1 ปี ส่วนการละเมิดลิขสิทธิ์เพื่อการค้า โทษสูงสุดคือจำคุก 4 ปี ซึ่งมาเทียบอายุความในการพิจารณาคดี ก็จะพบว่ามันมีอายุความ 10 ปี ดังนั้นใครเคยโหลดโปรแกรมเถื่อนหรือปั๊มแผ่นขายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็จงรู้ไว้ว่าตอนนี้ตัวเองถือว่าเคลียร์แล้ว ไม่มีใครจะมาฟ้องคุณได้แล้ว

เช่นเดียวกัน ความผิดยอดฮิตแห่งยุคของคนรุ่นใหม่อย่าง กฎหมายอาญามาตรา 112 ที่โทษจำคุกที่ระบุสูงสุดคือ 15 ปี เราก็จะพบว่าถ้าเลือกจะหนีก่อนที่จะโดนจับ เวลาที่จะต้องหนีเพื่อให้ตัวเองเคลียร์จากความผิดก็คือ 15 ปีหลังจากการกระทำผิด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกงประชาชนหรือ 112 ถึงเราจะเคลียร์ตัวเองได้แล้วในทางกฎหมาย แต่สิ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือประเทศนี้ก็เถื่อนมิใช่น้อย เพราะถึงจะหนีคดีฉ้อโกงประชาชนจนรอดมาได้ ถ้าบรรดาลูกหนี้แค้นพอ พวกลูกหนี้ก็อาจรวมหัวกันจ้างมือปืน มาเก็บผู้ฉ้อโกงก็ได้ และเช่นเดียวกัน ถึงเราจะหนี 112 ได้จนคดีขาดอายุความไปแล้ว แต่กลับมาไทย ก็ใช่ว่ารัฐจะตั้งข้อหาอื่นๆ กับเราไม่ได้

อ้างอิง