3 Min

ไทยเกาะขบวน ‘รถไฟขนผัก’ ลาว-จีน หวังส่งสินค้าเกษตรด้วยคน

3 Min
346 Views
13 Dec 2021

เส้นทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน เปิดให้บริการระยะแรก ไทยเตรียม ‘เกาะขบวนขนผัก’ วางแผนการส่งสินค้าเกษตรเข้าจีน แม้ยังไม่มีการเจรจาโควตาที่แน่ชัด ในขณะที่หลายคนมองว่าไทยล่าช้าในการสร้างรถไฟและหมดโอกาสเป็นศูนย์กลางขนส่งทางรางแล้ว

‘รถไฟความเร็วสูง’ เป็นประเด็นจับตาของคนไทยเสมอ และหลังจากที่ สปป.ลาว ได้เปิดเส้นทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ความยาว 1,035 กิโลเมตรอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเส้นทางนี้จะเชื่อมต่อนครหลวงเวียงจันทน์ถึงเมืองคุนหมิง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ใช้ระยะเวลาเพียง 8 ชั่วโมง

จากสถานการณ์โควิด-19 เบื้องต้นรถไฟขบวนนี้จะวิ่งเฉพาะขนส่งสินค้าเท่านั้น สปป.ลาวได้ตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2568 จะมีการขนส่งสินค้าทุกประเภทผ่านเส้นทางรถไฟดังกล่าว 8 ล้านตันต่อปี และเพิ่มเป็น 15 ล้านตันต่อปีในปี 2573 และจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 23 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2583 หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี

ด้วยระยะเวลาในการวิ่งที่ไม่นานทำให้เปิดโอกาสในการขนสินค้าประเภทต่างๆ ทั้งสินค้าเกษตรและเนื้อสัตว์แช่แข็งสามารถเป็นไปได้ และเชื่อว่ารถไฟสายนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศที่ไม่ใช่แค่การค้าขาย เรียกได้ว่าหลายคนหวังว่าการเชื่อมเส้นทางนี้จะนำทั้งนักท่องเที่ยว การค้า และการขนส่งของลาวให้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

สำหรับประเทศไทย หลังขบวนรถไฟลาว-จีนเปิดบริการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดเผยว่าเตรียม ‘เกาะขบวนขนผัก’ ใช้บริการขนส่งสินค้าการเกษตรในเบื้องต้น โดยที่จะเน้นสินค้าเช่น ยางพารา มันสำปะหลังแห้ง เกลืออุตสาหกรรม และสินแร่ แต่หากกลุ่มสินค้าเกษตรซึ่งต้องรอการตรวจสอบจากสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (General Administration of China Customs-GACC) อีก 8 ประเภท หากผ่านการตรวจสอบมีแนวโน้มว่าจะร่วมส่งผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่เย็น ธัญพืช ผลไม้ สัตว์น้ำเพื่อการบริโภค ต้นกล้า ไม้ซุง และสินค้าสัตว์และพืชที่มีความเสี่ยงสูง ร่วมขบวนไปด้วย

อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ยังไม่มีความชัดเจนนักว่าจะเป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่ ในการเกาะขบวน ‘รถไฟขนผัก’ เพื่อนำส่งสินค้าเข้าสู่ประเทศจีน โดย มณฑล ปริวัฒน์ นายกสมาคมการค้ายุคใหม่ ระบุว่าต้องมีการเจรจาที่ชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการโควตาตู้คอนเทนเนอร์ที่จะส่งสำหรับประเทศไทยจากเที่ยวการขนส่งวันละ 900 ตู้ ถ้าไทยได้โควตาเพียง 10% หรือวันละ 90 ตู้ ก็จะเป็นทางเลือกจากด่านทางบกที่ต้องเผชิญปัญหาจากปริมาณการขนส่งผลไม้ปี 2563 เฉลี่ย 600-700 ตู้/วัน และปี 2565 คาดว่าน่าจะเพิ่ม 1,000 ตู้/วัน โดยที่ปัจจุบันไทยยังไม่มีโควตาดังกล่าว

นอกจากนี้ยังต้องมีการวางมาตรการต่างๆ ในการขนย้ายสินค้า หรือเปลี่ยนตู้คอนเทนเนอร์เนื่องจากตู้ไทยไม่ได้ใช้ระบบไฟฟ้าแบบเดียวกับของจีน ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการเจรจาให้ชัดเจนเพื่อผู้ประกอบการไทย

ประเด็นเรื่องรถไฟความเร็วสูงในประเทศไทยนั้นเป็นประเด็นร้อนที่มีมายาวนาน โดยเฉพาะเรื่อง ‘รถไฟขนผัก’ ซึ่งเคยถูกยกขึ้นมาพูดในช่วงปี 2556 ยุคอดีตรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ถูกผู้ต่อต้านรัฐบาลวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก่อนที่รัฐบาลจะถูกยึดอำนาจ แม้โครงการขนาด 2 ล้านล้านจะล้มพับไป แต่ก็ยังเป็นประเด็นสืบเนื่องถึงปัจจุบัน

การเปิดตัวรถไฟลาว-จีนนั้นยังทำให้หลายคนมองว่าไทยล่าช้าและ ‘ตกขบวน’ ถ้าหากว่าโครงการสร้างรถไฟความเร็วสูงในปี 2556 ถูกสร้างขึ้นในเวลานั้นอาจทำให้ปัจจุบันไทยก้าวนำเป็นศูนย์กลางขนส่งทางรางได้ก่อน สปป.ลาว และไม่จำเป็นต้อง ‘เกาะขบวน’ ขนผักส่งสินค้าเกษตร หรือรออานิสงส์จากชาติเพื่อนบ้านในปัจจุบัน

ส่วนการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงของไทยนั้นล่าช้ากว่ากันมากเมื่อเทียบกับของประเทศลาวที่ใช้เวลาเพียง 5 ปีในการก่อสร้าง โดยปัจจุบันรถไฟความเร็วสูงของไทยยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ และเชื่อว่าจะสามารถเปิดให้บริการระยะแรกกรุงเทพ-นครราชสีมา ได้ในปี 2569 แต่มีการเตรียมการเชื่อมต่อกับรถไฟขบวนลาว-จีนต่อไปในอนาคต โดยเชื่อมต่อทางจังหวัดหนองคาย

อ้างอิง:

  • ประชาชาติธุรกิจ. เปิดหวูดรถไฟลาว-จีน 3 ธ.ค. มั่นใจดันส่งออกสินค้าเกษตรไปจีนฉลุย. https://bit.ly/3oyvyzx
  • ประชาชาติธุรกิจ. ไทยตกขบวน “รถไฟจีน-ลาว” ชวดโควตาขนส่งสินค้าแสนล้า> https://bit.ly/3y5f7hb
  • ไทยรัฐ. ลาวเปิดเดินรถไฟความเร็วสูง แซงหน้าไทย เชื่อมระบบรางเส้นทางสายไหมกับจีน. https://bit.ly/3lNgLz4
  • Khaosod. พท.ซัด บิ๊กตู่ ทำไทยเสียโอกาสเป็นศูนย์กลางขนส่งทางราง ห่วงรถไฟเร็วสูงไทยไปไม่ถึงไหน. https://bit.ly/3DGuM88