‘ทุเรียน’ กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ‘วัฒนธรรมจีน’ ไปแล้ว คนฮิตซื้อเป็น ‘ของขวัญ’ ช่วงเทศกาล
ปี 2023 น่าจะเป็นปีแรกที่จีนนำเข้า ‘ทุเรียน’ มากถึง 1 ล้านตัน และก็คงไม่ต้องสงสัยว่าคนจีนคลั่งไคล้การกินทุเรียนกันแค่ไหน และหลายคนก็คงรู้แล้วว่าทุเรียนในไทยที่หาเจอน้อยลงๆ และราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ มีปัจจัยหลักมาจากความต้องการของคนจีน ทำให้ราคาทุเรียนพุ่งขึ้นไปเรื่อยๆ และพวกทุเรียนคุณภาพดีๆ ถูกส่งไปจีนเกือบหมด
แต่ทุเรียนเป็นแค่ ‘กระแส’ เท่านั้นหรือ? เอาจริงๆ มันอาจเปลี่ยนแปลงสังคมจีนมากกว่านั้น
ในยุคไม่กี่ปีก่อน จีนมีสำนวนสมัยใหม่ว่า ‘เสรีภาพในการซื้อเชอร์รี’ เป็นสำนวนวัยรุ่นที่พูดถึงการมีเงินระดับที่สามารถซื้อ ‘ผลไม้นำเข้า’ มากินได้อย่างไม่ต้องคิดอะไรกันมาก และปัจจุบัน วลีนี้ถูกเปลี่ยนมาเป็น ‘เสรีภาพในการซื้อทุเรียน’ ไปแล้ว หลังจากที่ทุเรียนกลายมาเป็นผลไม้นำเข้าที่ฮิตสุดในจีนหลังโควิด ส่วนเชอร์รีที่เคยเป็นผลไม้สุดฮิตก่อนช่วงโควิดนั้นก็เสื่อมความนิยมไปช่วงโควิดที่เศรษฐกิจไม่สู้ดีนัก และผู้คนต้องคุมค่าใช้จ่ายกันเข้มงวด
พอสถานการณ์เริ่มกลับมาเป็นปกติ ทุเรียนก็กลายเป็นผลไม้นำเข้ายอดฮิตแทนเชอร์รีไป
และในวัฒนธรรมจีนที่มีการ ‘ส่งกระเช้าของขวัญ’ ไปให้คู่แต่งงานหรือ ‘ผู้ใหญ่’ ตามวาระต่างๆ ตามปกติก็จะนิยมใส่องุ่น นม แฮมจีน และเห็ดตากแห้งอะไรพวกนี้กัน แต่ตอนนี้คือคนนิยมเปลี่ยนองุ่นเป็นทุเรียนไปหมดแล้ว เพราะมันดูแพงดูดีกว่า
ซึ่งทุเรียนก็ฮิตไปทั่วจริงๆ และตอนนี้ก็ไม่ได้มีขายแค่ในเมืองใหญ่ๆ แต่ถูกกระจายส่งไปเมืองเล็กเมืองน้อยเต็มไปหมด เพราะร้านค้าฮิปๆ ตามต่างจังหวัดจีนก็จะมีขายพวกเค้กทุเรียนและกาแฟทุเรียนกันกระจาย หรือพูดอีกแบบคือคนจีนนำทุเรียนไปแปรรูปเป็นสินค้าหลากหลายมาก เพราะเขาถือว่าเอาไปทำอะไรคนก็กิน ซึ่งก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่มีคนมองว่าคนจีนบ้าคลั่งทุเรียนกันขนาดนั้น
อย่างไรก็ดี สาเหตุที่ทุเรียนในจีนแพร่หลายมากขึ้น เพราะราคามันลงมาเยอะ เอาง่ายๆ คือในจีนตอนนี้หมอนทองทั้งลูกขายปลีกก็ตกประมาณกิโลกรัมละ 280 บาท ซึ่งถือว่าถูกแล้ว แม้ว่ายังคงแพงกว่าราคาส่งในไทย (ในไทยถ้าพอรู้แหล่งและซื้อแบบส่ง หมอนทองไซส์ใหญ่ปกติไม่น่าจะเกินกิโลกรัมละ 150 บาท) โดยราคาแบบนี้ คนจีนที่ ‘พอมีเงิน’ สักหน่อย จะไม่มีปัญหาในการซื้อ กินได้ชิลๆ ส่วนคนรายได้น้อยกว่านั้น ระดับราคานี้ก็ยังพอซื้อได้ในฐานะ ‘ของฟุ่มเฟือย’ (ซึ่งก็กลับไปที่วลี ‘เสรีภาพในการซื้อทุเรียน’ ตอนแรก ที่เป็นตัวชี้วัดว่าคุณเป็นคน ‘มีเงิน’ หรือไม่) ทำให้ทุเรียนกลายเป็นของฮิตกันสุดๆ
สุดท้าย ถ้าใครได้ข่าวว่าจีนฮิตทุเรียนจนต้องปลูกเอง และปลูกได้ที่มณฑลไหหลำแล้ว สิ่งที่ปรากฏเช่นกันก็คือทุเรียนที่จีนปลูกเองที่ไหหลำราคาแพงจัดๆ ตกราคากิโลกรัมละ 350 บาท และสำหรับคนจีนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่แพง แต่ ‘ไม่ค่อยอร่อย’ ด้วย สู้พวกทุเรียนนำเข้าไม่ได้ ทั้งในแง่ราคาและรสชาติ
และก็น่าสนใจอีกว่า สำหรับคนจีนเอง ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจว่านำเข้าจากที่ไหนด้วย ทุเรียนคือทุเรียน และเผลอๆ หลายคนก็กินแบบไม่แยกสายพันธุ์ด้วยซ้ำไป
อ้างอิง
- SCMP. China’s durian appetite grows as the now fashionable ‘king of fruits’ becomes a costly status symbol. https://tinyurl.com/mynr9tu4
- The Washington Post. ‘Cherry freedom’ sweeps China despite virus fears — and the thrill is infectious. https://tinyurl.com/mptm25bs