2 Min

ฮ่องกงกำลังแย่ โจชัว หว่อง และเพื่อนนักกิจกรรม ติดคุกแล้ว และไม่ได้ประกันตัว

2 Min
192 Views
10 Dec 2020

ในยุคนี้แม้ว่า “การประท้วงแบบไร้แกนนำ” จะฮิต แต่ก็นั่นไม่ได้หมายความว่าทางรัฐจะ “มองไม่เห็นแกนนำ” และจะพยายามที่จะยุติการประท้วงโดยการจับคนที่รัฐคิดว่าเป็น “แกนนำ” เข้าคุกก็ยังเป็นเรื่องปกติ ซึ่งบ้านเราก็คงไม่ต้องอธิบายกันมากมาย แต่ตอนนี้เราก็มารับข่าวจาก “บ้านพี่เมืองน้อง” ทางการเมืองอย่างฮ่องกงกันบ้าง

ล่าสุด 3 นักกิจกรรมผู้โดดเด่นแห่งฮ่องกงอย่าง โจชัว หว่อง อิวาน แลม และแอ็กเนส โชว ได้ถูกตัดสินจำคุกแล้ว ในวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2020 และไม่ได้รับประกันตัวด้วย คือตรงเข้าคุกเลย

คำถามคือพวกเขาโดนจับข้อหาอะไร? คำตอบสั้นๆ คือ ในกรณีของหว่อง เขาโดนข้อหาจัดการชุมนุมและชักชวนให้ผู้อื่นมาชุมนุมอย่างผิดกฎหมายภายนอกสำนักงานใหญ่ของตำรวจฮ่องกงในเดือนมิถุนายน 2019 ซึ่งอีกสองคนก็โดนข้อหาทำนองเดียวกัน

ซึ่งก็ต้องเน้นว่านี่คือสไตล์ฮ่องกงจริงๆ คือจะไม่จับเลยตอนเหตุประท้วงร้อนๆ เพราะจับตอนนั้น ม็อบจะยิ่งลุกฮือ แต่จะมาจับตอนเหตุประท้วงซาแล้ว เรียกได้ว่า จับไป ก็ไม่ใช่การใส่ไฟให้กับการประท้วง

กรณีของหว่องและแลม ทั้งคู่เคยถูกตัดสินว่าผิดติดคุกมาแล้วจากคดีในตอน “ปฏิวัติร่ม” (ซึ่งก็เหมือนคราวนี้เป๊ะ คือรอม็อบซาแล้วค่อยจับ) และก็ไม่แปลกอะไรว่าทั้งคู่จะไม่ได้รับการประกันตัว แต่กรณีของโชว นักกิจกรรมสาวผู้นี้ยังไม่เคยติดคุกมาก่อน แต่ก็ไม่ได้ประกันตัวเช่นกัน (ทั้งนี้โชวอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินคดีอื่นอยู่ด้วย ซึ่งคดีนั้นได้รับการประกันตัว)

ซึ่งเราก็คงจะไม่ต้องอธิบายอะไรมากถึงรายละเอียดคดี เพราะนี่คือ “คดีการเมือง” อยู่แล้ว และคดีพวกนี้ไม่ได้เป็นไปตามหลักการทางกฎหมายทั่วไป แต่ข้อสรุปง่ายๆ คือ โจชัวหว่องโดนตัดสินจำคุก 13 เดือนครึ่ง อิวาน แลม โดนตัดสินจำคุกไป 7 เดือน ส่วน แอ็กเนส โชวโดนตัดสินจำคุกไป 10 เดือน

ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้หลังจากที่รัฐบาลจีนผลักดันกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่ของฮ่องกงออกมาสำเร็จแบบลักไก่ในช่วงการล็อกดาวน์กลางปี 2020 และก็ไม่ต้องสาธยายกันมากว่าสร้างความยากลำบากในการท้าทายรัฐบาลฮ่องกงที่มีจีนเป็นแบ็คมากๆ เพราะมันตัวไปด้วยข้อหาใหญ่ๆ กว้างๆ ที่แทบจะเอาผิดใครยังไงก็ได้ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันเป็นการเขียนกฎหมายเอาไว้เพื่อให้ทุกคนที่กล้าลุกขึ้นมาท้าทายจีนมีความผิด รอการจับกุม

ซึ่งกฎหมายมันโหดขนาดไหน ก็ขนาดทางโจชัว หว่องและคณะต้องยุบพรรคการเมืองของพวกเขาหลังกฎหมายออกน่ะครับ เพราะภายใต้กฎหมายใหม่ แนวทางของพรรคที่เรียกร้องให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีนนี่เรียกได้ว่าผิดกฎหมายแน่ๆ และนี่มันคือผิด “กฎหมายความมั่นคง” ไงครับ โทษมันไม่ได้เบาๆ แบบการชุมนุมโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นก็ต้องกันไว้ก่อน

ก็เรียกได้ว่า สถานการณ์ที่ฮ่องกงนี่โหดร้ายและบีบคั้นมากๆ สำหรับ “คนรุ่นใหม่” ที่อยากให้ฮ่องกงเป็นอิสระจากจีน หรือแค่อยากให้แนวทาง “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ยังคงอยู่เช่นเดิม เพราะอย่างน้อยๆ แนวทางการต่อสู้แบบนี้ภายใต้ช่องทางแบบ “ในระบบ” อย่างการตั้งพรรคการเมืองสู้นี่ก็เรียกได้ว่าจบแล้ว

แต่ก็นั่นแหละครับ โจชัวหว่องและคณะยังกำลังใจดีอยู่ และมีการตะโกนว่า

“คนทางข้างหน้าลำบากนัก แต่พวกเราจะยืนหยัดต่อไป อย่าเพิ่งหมดไฟกัน!!!”

ก่อนถูกนำตัวไปขังคุก

แน่นอนว่าถ้อยคำง่ายๆ พวกนี้ดูจะกินใจเหล่าคนรุ่นใหม่ผู้ชุมนุมในฮ่องกงมาก เพราะทุกคนก็คงจะเห็นจริงๆ ว่าคนทางข้างหน้ามันยาวไกลมากๆ และหนทางชนะก็ยังไม่มีให้เห็น ซึ่งทุกคนก็คงไม่มีอะไรนอกจากตัวและกำลังใจที่จะทำให้สู้ต่อไปได้อยู่

อ้างอิง: