4 Min

เติมเต็มตัวเองด้วยการ ‘อยู่คนเดียว’ ในเพลง ‘อยากอยู่คนเดียว’ ซิงเกิลที่ 2 ของพัดชาจากค่าย Red Clay

4 Min
742 Views
08 Oct 2021

Select Paragraph To Read

  • จุดเริ่มต้นกับค่าย ‘Red Clay’
  • เนื้อหาทั้ง 2 เพลงมาจากชีวิตส่วนตัวเลยไหม?
  • แนวเพลงของ Patcha
  • การอยู่คนเดียวทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น
  • ถ้าให้เลือกอยู่คนเดียวได้ อยากอยู่คนเดียวที่ไหน?
  • สิ่งที่คุณแม่มอบให้ Patcha
  • เรื่องราวในอัลบั้มของ Patcha

​อาการอยากอยู่คนเดียวไม่ใช่เรื่องผิด และในขณะเดียวกันอาจเป็นความรู้สึกของใครหลายในขณะนี้ พัดชา-ชนุดม สุขสถิตย์ จึงมอบบทเพลง ‘อยากอยู่คนเดียว’ เพื่อทบทวน และทำความเข้าใจกับความรู้สึกตัวเองเพื่อคนในยุคนี้

การกลับมาในครั้งนี้จะมีเรื่องราว และความน่าสนใจของเพลงยังไง มาอ่านในบทสัมภาษณ์นี้กันได้เลย

จุดเริ่มต้นกับค่าย ‘Red Clay’

“หลังจากเราจบจาก Chanudom มันเป็นสิ่งสิ่งหนึ่งที่เราชอบเหมือนกัน มันเป็นพาร์ทที่พัดได้เป็นตัวเองอีกพาร์ทหนึ่ง ด้วยความที่พัดเป็นคนชอบฟังเพลง พัดโตมากับละครเวที ก็จะเลยรู้สึกว่าแบบ เราอยากเปิดใจกับหลายๆ อย่าง แม้กระทั่งการ Perform ดนตรีเอง ก็เลยคุยกับวงว่าแบบเราอยากไปทำเพลงต่อ วงก็แบบ เห้ย ไปเลยๆ ไม่มีดราม่านะคะ ทุกคนก็ตอนนี้ก็ช่วยเป็นกำลังใจให้เรา”

“ที่มาที่ไปเราก็ได้มาเจอกวินที่เป็นเจ้าของค่าย Red Clay เป็นโปรดิวเซอร์ด้วย พัดก็ยังทำหน้าที่แต่งเนื้อเพลงเหมือนเดิม ได้เจอกวินพอดีก็แบบ ลองฟังเนื้อเพลงเรามั้ย เป็นการหยอดๆ ไปก่อนว่าเขาจะสนใจปะว้า เพราะพอเราออกมาจาก Chanudom เราก็ไม่รู้ว่าแนวทางต่อไปของเราจะเป็นอะไร แต่เรารู้สึกว่าพักเรื่องความร็อกก่อน เรายังเป็นเพศของความสนุกสนาน สดใสอยู่ เรามีอีกหลายด้านที่อยากนำเสนอ เลยได้ไปเสนอกับกวิน เขาก็เป็นคนดูเรื่องเนื้อเพลงให้เรา เขาก็แบบ เห้ย พัดชา เข้ามาอยู่ค่ายมั้ย ซึ่งกวินเป็นคนหนึ่งที่ดึงพัดได้เยอะมาก เขาจะนำในเรื่องของดนตรี แล้วเรานำทางในเรื่องของเนื้อหา พัดรู้สึกว่าได้พัฒนาในการเขียนเพลงขึ้นมากด้วย ในเรื่องของการสื่อสารอะไรบางอย่างที่เรารู้สึกว่าเรามีตัวตนอีกแบบหนึ่ง ที่มันทัชชิ่งอะไรกับคนได้”

เนื้อหาทั้ง 2 เพลงมาจากชีวิตส่วนตัวเลยไหม?

“ใช่ พัดรู้สึกว่าชีวิตส่วนตัวก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง เราเป็นคนหนึ่งที่สื่อสาร การที่เราได้เชื่อมโยงชีวิตส่วนตัวเรากับคนอื่นๆ เราอยากให้ทุกคนที่ได้ฟังเพลงเรารู้สึกร่วมไปกับเราด้วย รู้สึกมีเชื่อมโยงกับเราด้วย นอกจากการเพอร์ฟอร์แมนซ์เราแล้ว อยากให้เนื้อหาส่วนหนึ่งของเรา ให้เขารู้สึกว่า เห้ย เหมือนกูเลยว่ะ พัดรู้สึกว่าเวลาที่ฟังเพลงอะไรโดนๆ น่ะ มันเหมือนแบบเห้ยมันเหมือนเราเลย”

แนวเพลงของ Patcha

“พัดเป็นคนที่ไม่รู้ว่าเพลงนี้เป็นแนวไหน คีย์อะไร กวินก็จะรู้ว่าเราเป็นคนชอบลูกทุ่ง เบสพื้นฐานก็จะมีความแบบโซล คือเพลงลูกทุ่งจะพูดเกี่ยวกับจิตวิญญาณ แนวเพลงตอนนี้น่าจะเป็นไทยโซล คือพัดยังนำเสนอความเป็นตัวตนของเราอยู่ แล้วมันก็จะมีคำบางคำที่ยังลูกทุ่งอยู่ เช่น ขอมือเธอหน่อย ‘นภา’ จะเป็นคำที่มีความลูกทุ่งลูกกรุง วิธีการร้องก็จะมีความเหน่อๆ หน่อย เราพราวมากเลยนะ น่าจะเป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของพัดได้ดีมากๆ พอมาเจอกวิน เขาก็นำพาให้เราทันสมัยมากยิ่งขึ้น”

“ตอนแรกจำได้เลยว่า ตอนที่กวินทำเนื้อเพลงให้แล้ว เราส่งเนื้อร้องให้แล้ว แล้วก็ไปเข้าห้องอัดร้อง กวินแค่เล่นเปียโนให้ อาทิตย์หนึ่งผ่านไปกวินบอกให้พัดเข้ามาฟังเพลง มันแบบมันรวมตัวกันได้ดีอะ มันถูกต้องมาก มัน So พัดชา มาก ทั้งวิธีการร้อง และดนตรีที่นำเสนอ”

การอยู่คนเดียวทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้น

“ปกติต่อให้เราอยู่คนเดียว แต่เราก็ไม่ได้อยู่คนเดียวจริงๆ หมายความว่าต่อให้เราอยู่คนเดียวเราก็รู้สึกเหงา เหงาเพราะว่าเราต้องการเพื่อน แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ได้เป็นการอยู่คนเดียวที่ quality มันไม่ใช่ว่าไม่ต้องการใคร แต่เป็นการทำความเข้าใจ ว่าเรา peaceful กับหัวใจตัวเองยังไง มันเหมือนเป็นการคุยกับตัวเองเวลาอยู่คนเดียว มันเป็นการคุยคนเดียวที่เราถามตัวเองว่า ถ้าเราไม่มีเพื่อนล่ะ? เราไม่ได้จำเป็นต้องใช้เพื่อนในตอนนี้ แต่เราอยู่คนเดียวแล้วเราก็เจอมุมตัวเองที่อยากอยู่คนเดียวพักหนึ่ง แต่เป็นการอยู่คนเดียวที่ไม่ใช่ในทางลบ แต่เป็นการรักษาใจตัวเอง เพราะถ้าเราดีขึ้นปุ๊บ พลังงานจะพุ่งออกมาเองเลย โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเป็นคน positive เลย”

“บางครั้งเราให้อิสระกับการอยู่กับคนอื่นมากๆ เกรงใจหรืออะไรบางอย่าง จนกลายเป็นว่าเขาฉกฉวยความเกรงใจของเราไป พอเราไม่ตามใจอะไรเขา เขาก็จะคิดว่า ‘ยู โกรธอะไรเราหรือเปล่า ทำไมอะ เธอเปลี่ยนไปนะ’ เพราะฉะนั้นเราต้องถามตัวเองก่อนเลยว่า เรามีพลังงานพอมั้ย หรือว่าเราอยากทำอะไรให้ตัวเองก่อน การรักตัวเองที่แท้จริงคือการได้คุยกับตัวเองอย่างตรงไปตรงมาก่อน ไม่ได้รักตัวเองเพื่อเอาใจคนอื่น ไม่ได้รักตัวเองเพื่อให้คนอื่นมองว่าตัวเองดี”

ถ้าให้เลือกอยู่คนเดียวได้ อยากอยู่คนเดียวที่ไหน?

“พัดคงเลือกอยู่ที่บ้านเกิดตัวเอง เป็นคนจังหวัดตราดค่ะ คือไม่ได้กลับบ้านมานานมาก หลังบ้านจะเป็นทะเลเลย คิดถึงตัวเองตอนเด็กๆ อะไรแบบนี้ อยากนั่งอยู่ตรงนั้น อยากกลับไปตรงนั้นแล้วก็แบบเหมือนหันกลับไปที่เราเริ่มต้นมา มันน่าจะทบทวนเราได้เยอะมาก เราทำอะไรอยู่ตอนนี้ เรามาไกลขนาดนี้ แล้วมีคนรักเราขนาดนี้ ยิ่งแม่ไม่ได้อยู่กับเราแล้ว ก็ยิ่ง เตือนความจำเราได้เยอะ คงจำกลิ่น จำสิ่งแวดล้อม จำภาพ น่าจะเป็นสิ่งที่พัดคงมีความสุขมาก พัดคงอยากใช้เวลาอยู่คนเดียวในการคิดอะไรแบบนี้ได้ดีมาก คงเป็นวัตถุดิบที่ดีมาก ต่อให้เราไปเจออะไรมา เราไปหลงกับอะไรมา ต่อให้เราไปเปลี่ยนไปเชื่อไปโตที่ไหนมา แต่ตรงนั้นเป็นที่แรกที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราเติบโตมาได้ดีอะไรแบบนี้อะค่ะ”

สิ่งที่คุณแม่มอบให้ Patcha

“แม่พัดอะสอนมาว่า คนเรามันเจอกันแปปเดียว เราอาจจะไม่ได้เจอกันอีกเลย แล้วถ้าวันหนึ่งต้องรู้จักกัน แล้วไม่ได้เจอกันอีก ทำไมเราต้องมาจำกันในเชิงไม่น่ารักล่ะ ทำไมเราไม่ทำให้เขารู้สึกว่า เออ เธอเป็นคนที่น่ารักที่ฉันได้เจอในชีวิต เขาสอนมาอย่างนี้น่ารักมาก คือแม่พัดเสียไป 7 – 8 ปีแล้ว แต่สิ่งที่เขาทิ้งไว้ให้พัดคือเรื่องนี้เลย เรารู้สึกว่าเหนือสิ่งอื่นใด คือพัดสามารถอยู่ในสังคมที่คนยังให้คำตอบรับเรา ยังรักเรา ยังเอ็นดูเรา คือมันเป็น mindset ที่เขาให้มาแล้วเรารู้สึกเราไม่ต้องเรียนจบสูง ไม่ต้องเป็นคนที่เพอร์เฟคที่สุด แค่เราให้เกียรติตัวเอง ให้เกียรติคนอื่น มันเป็นสิ่งที่แบบเราอยู่รอดได้ เป็นการอยู่รอดที่ quality มันดีมาก ขอบคุณคุณแม่นะคะ”

เรื่องราวในอัลบั้มของ Patcha

“อัลบั้มนี้จะเป็นการพูดถึงการเดินทางของเรา ที่นำเสนอการเป็นคนคนหนึ่งที่มาจากต่างจังหวัด อัลบั้มนี้มีประมาณ 9 – 10 เพลง นำเสนอด้วยกันครึ่งๆ ครึ่งหนึ่งมาจากการถูกเลี้ยงดูแบบธรรมชาติ การได้ยินอะไรที่มันมีความเป็นตัวเอง พอเข้ามาในเมืองมันเลยทำให้เรามี sound อิเล็กทรอนิกส์เข้ามาช่วย มีความเปรี้ยวมากขึ้น มันไม่ถึงขนาดดาร์ก แต่มันมีความซ่ามากขึ้น อัลบั้มนี้ก็จะเป็นประมาณนี้ พัดว่าดนตรี เนื้อหาเพลง เป็นสิ่งหนึ่งที่น่าจะเข้ากับทุกคนได้ เพราะเรารู้สึกว่าเราเอ็นจอยมาก แล้วเราก็รู้สึกว่าได้พูดอะไรที่ตรงไปตรงมาในแบบที่ไม่ต้องใช้สัญลักษณ์อะไรมากมาย แบบว่าฉันได้พูดว่าฉันชอบ ฉันได้พูดว่าฉันเกลียด ฉันได้พูดว่าฉันรัก ได้พูดตรงๆ ไปเลย แล้วก็จะค่อยๆ เปรี้ยวขึ้นเรื่อยๆ ”

ถึงแม้ว่านี้เป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางในฐานะศิลปินเดี่ยวของพัดชา แต่ด้วยความตั้งใจอย่างแท้จริง ผสานกับความรักในสิ่งที่ตัวเองทำ และพร้อมถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้เห็น นับว่าเป็นการเริ่มที่แสนงดงาม ในอนาคตเราอาจได้เห็นพัดชาในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาทำล้วนเป็นสิ่งที่เขารักเสมอมา

เพราะการซื่อสัตย์กับตัวเองเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ดังนั้นการได้พักอยู่คนเดียวเพื่อฟังเสียงหัวใจตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ