ไม่นานมานี้ ครีเอทฮ่องกง (CreateHK) และกองทุนพัฒนาภาพยนตร์ฮ่องกง (FDF) ร่วมด้วยสถาบันรางวัลภาพยนตร์เอเชีย (AFAA) ได้จัดงาน Next Generation: Emerging Directors Exhibition & Hong Kong Film Gala Presentation ขึ้นที่โรงภาพยนตร์ House Samyan เพื่อนำเสนอผลงานของผู้กำกับรุ่นใหม่สู่สายตาคอหนังชาวไทย

BrandThink Cinema ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ แจ็ค อึ่ง (Jack Ng) และ เรนซี เหยิง (Renci Yeung) ผู้กำกับและนักแสดงจากหนึ่งในหนังเปิดเทศกาล เรื่อง ‘A Guilty Conscience’ ผลงานคอเมดี้ดราม่าเกี่ยวกับการว่าความสุดยุ่งเหยิงในศาล ซึ่งก็เล่าเรื่องแบบเสียดสีชนชั้นนำและผู้มีอิทธิพลได้อย่างสนุกเสียด้วย เรียกเสียงปรบมือจากผู้ชมกลุ่มแรกในไทยอย่างกึกก้อง วันนี้เราเลยอยากสอบถามถึงสถานการณ์ของแวดวงหนังฮ่องกงในสายตาทั้งสองท่านสักหน่อย

‘A Guilty Conscience’ เล่าเรื่องทนายปากดีที่ไม่จริงจังกับงานเท่าไหร่ หละหลวมจนวันหนึ่งว่าความผิดพลาด แพ้คดี จนทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกลงโทษ เขาเลยพยายามแก้ตัวด้วยการลุกขึ้นสู้กับคู่ความที่มีอำนาจล้นฟ้าอีกครั้ง หนังพูดถึงการผดุงความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายได้อย่างบันเทิงดีมาก ทั้งที่เป็นประเด็นจริงจังหนักแน่น เรารู้สึกเองว่าหนังเรื่องนี้ต้องเป็นที่ชื่นชอบของคนดูทุกชาติทุกภาษาอย่างแน่นอน แต่นั่นก็ต้องให้ผู้กำกับเขามายืนยันด้วยตัวเอง

[คุณพาหนัง A Guilty Conscience ไปฉายมาทั่วโลกแล้ว ได้รับฟีดแบ็กอย่างไรจากคนดูบ้าง]

แจ็ค: ในเอเชีย เราเพิ่งไปมาเลเซียมาก่อนจะมาประเทศไทย และก่อนหน้านั้นไปโปรโมตในยุโรป ผมได้เข้าไปดูหนังกับทุกคนด้วย เพื่อเช็กเสียงตอบรับ ฟีดแบ็กที่ได้นั้นดีมากๆ ทีแรกผมกังวลว่าหนังที่มีการพูดโต้ตอบเยอะแบบนี้ และมีซับไตเติลที่เยอะตามไปด้วยนั้น คนจะเข้าใจหนังน้อยลงหรือไม่ แต่ปรากฏว่าผู้ชมต่างชาติรู้สึกกับมันไม่ต่างจากผู้ชมฮ่องกงเลย ที่ดูประทับใจกว่าที่อื่นหน่อยก็จะมีประเทศเอเชียด้วยกันอย่าง มาเลเซีย โดยรวมถือว่าดีมากครับ

[แล้วในมุมของนักแสดงล่ะ ได้รับฟีดแบ็กแตกต่างออกไปบ้างไหม]

เรนซี: ทุกคนดูจะชอบตัวละครในเรื่องกันนะคะ ไม่ใช่แค่ตัวละครของฉัน แต่ยังมีตัวละครทนายอีก 2 คน ที่คนดูชื่นชอบและตอบรับอย่างดี

[อยากให้คุณพูดถึงแคมเปญ Next Generation: Emerging Directors Exhibition & Hong Kong Film Gala Presentation ปีนี้ ที่พาหนังไปฉายกับผู้ชมกลุ่มใหม่ๆ ในหลายประเทศสักนิด]

แจ็ค: ครั้งนี้มันไม่ได้มีแค่การฉายหนัง แต่มีนิทรรศการเกี่ยวกับหนังและคนทำหนัง Emerging Directors Exhibition ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Hong Kong Week ที่นำเสนอสินค้าวัฒนธรรมหลายประเภท อย่างดนตรี การแสดง และแฟชั่นด้วย แล้วมันก็ออกมาดีมาก และที่ผมประทับใจขึ้นไปอีกคือดิสเพลย์ต่างๆ ที่เห็นนี้ทำโดยฝีมือคนไทยทั้งหมด อย่างในโซนของหนังผมเอง ที่มีดิสเพลย์เก้าอี้รูป ‘กองเงิน’ ก็ออกแบบมาได้เก๋มาก การนำเสนอข้อมูลและบรรยากาศแบบนี้ ควบคู่ไปกับการฉายหนัง เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมากครับ

[ในฐานะผู้กำกับ การมีทุนสนับสนุนจากรัฐบาลสำคัญมากน้อยขนาดไหน]

แจ็ค: ตอนนี้รัฐบาลฮ่องกงมีนโยบายให้เงินสนับสนุนผู้กำกับรุ่นใหม่ หรือผู้กำกับที่ถ่ายทำหนังเรื่องแรก รวมถึงล่าสุดมีแคมเปญช่วยหาทุนให้โปรดักชันที่ต้องการความช่วยเหลือด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าย้อนไปช่วงยุค 80s-90s อุตสาหกรรมหนังฮ่องกงเฟื่องฟูมาก การจะทำหนังไม่ต้องพึ่งพาทุนสนับสนุนใดๆ เลย ในฐานะผู้กำกับ ผมคิดว่าถ้าหนังฮ่องกงกลับไปสู่จุดนั้นได้ก็จะดีที่สุดครับ

[ในฐานะนักแสดง คุณรู้สึกว่าอุตสาหกรรมหนังฮ่องกงตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง]

เรนซี: ฉันรู้สึกว่าเราได้เห็นผู้กำกับรุ่นใหม่ นักแสดงรุ่นใหม่ รวมถึงบทแนวใหม่ที่หลากหลายกว่าเดิมออกมาเยอะ การมีทุนสนับสนุนดีไหมน่ะเหรอ? ฉันว่ามันดีที่จะทำให้คนกล้าลอง กล้าสร้างหนังมากยิ่งขึ้น มีหนังสเกลเล็ก หนังที่ใช้ทุนไม่มากนักออกมามากขึ้น มันช่วยให้ผู้สร้างลดความกังวลเรื่องเงินลงไปได้เยอะ แต่ฉันก็เห็นด้วยกับผู้กำกับที่ว่าหนังฮ่องกงควรกลับไปสู่จุดที่รุ่งเรือง ไม่ต้องพึ่งพากลไกเหล่านี้น่ะค่ะ

[คุณมองหนังเอเชียในตลาดโลกตอนนี้อย่างไร]

แจ็ค: ทุกวันนี้ในโลกมีสงคราม มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเยอะ สำหรับตัวผมเอง ผมว่าหนังเอเชียบอกเล่าเรื่องราวอบอุ่นได้ดีนะ ซึ่งมันช่วยเยียวยาความรู้สึกจากปัญหาที่โลกเผชิญอยู่ได้พอสมควรครับ

เรนซี: สำหรับฉัน ฉันว่าหนังเอเชียเปรียบเหมือน ‘ซุป’ ที่ทำกินเองที่บ้านค่ะ มันมีความอบอุ่น ชื่นใจ อร่อย ครบเลย คนดูสามารถซึ้งไปกับมันได้ไม่ยาก และพอหนังจบแล้ว ก็ยังมีความรู้สึกตกค้าง ชวนให้นึกถึงอยู่ไม่รู้จบอีกค่ะ

[คุณเคยดูหนังไทยบ้างไหม มีเรื่องอะไรที่ดูแล้วประทับใจบ้าง]

แจ็ค: หนังไม่ได้ใหม่แล้วนะครับ แต่ผมประทับใจเรื่อง ‘Bad Genius’ (ฉลาดเกมส์โกง) มาก เป็นหนังที่ถ่ายทำได้ดีจริงๆ สมัยเป็นนักเรียน ผมก็โกงบ่อยเหมือนกันครับ (หัวเราะ) ผ่านมาไม่น้อยเลยล่ะ พอดูเรื่องนี้แล้วเลยรู้สึกใกล้ตัว และตามลุ้นไปด้วยตลอดเรื่องเลย

เรนซี: ฉันชอบ ‘Heart Attack’ (ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย.. ห้ามพัก.. ห้ามรักหมอ) ค่ะ แล้วก็มี ‘Happy Old Year’ (ฮาวทูทิ้ง..ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ) กับ ‘Brother of the Year’ (น้อง.พี่.ที่รัก) ที่คุณซันนี่เล่น และแน่นอน ‘Bad Genius’ (ฉลาดเกมส์โกง) เหมือนกันค่ะ ฉันชอบนางเอก ‘คุณออกแบบ’ มากๆ เธอเล่นดีจริงๆ ฉันติดตามเธอทางอินสตาแกรมด้วยค่ะ

จากที่ได้เห็นผู้กำกับภาพยนตร์และนักแสดงฮ่องกงติดตามหนังไทยเราอยู่ไม่น้อยเช่นนี้ ขณะที่คอหนังในไทยเองก็มีโอกาสรับชมผลงานของฝั่งฮ่องกงจากเทศกาลหนังอยู่เรื่อยๆ ก็น่าติดตามต่อเหลือเกินว่า การพัฒนาร่วมกันไปข้างหน้าของวงการหนังเอเชียจะไปได้ไกลแค่ไหน ช้าเร็วอย่างไร หรือแม้แต่การที่อุตสาหกรรมหนังฮ่องกงจะกลับไปสู่ยุครุ่งเรืองนั้น จะใช้เวลานานเท่าไหร่ อย่างน้อยจะมี BrandThink Cinema เป็นหนึ่งในกำลังใจให้กับผู้ผลิตผลงานทุกท่านแน่ๆ ล่ะ

ติดตาม BrandThink Cinema ช่องทางอื่นๆ ได้ที่: https://linktr.ee/brandthinkcinema