‘ไอศกรีม’ เป็นเมนูของหวานดับร้อนแสนอร่อยที่คนส่วนใหญ่โปรดปราน แถมยังมีตำนานอันหลากหลายเกี่ยวกับการถือกำเนิดของไอศกรีม ไม่ว่าจะเป็นตำนานไอศกรีมของจีน อิตาลี หรือประเทศอังกฤษ ก็ล้วนมีเรื่องราวเล่าขานที่แตกต่างกัน
ในกรณีของประเทศญี่ปุ่น วันที่ 9 พฤษภาคมของทุกปีได้ถูกประกาศให้เป็น ‘วันแห่งไอศกรีมแห่งชาติ’ หรือ ‘Ice Cream no Hi’ โดยสมาคมไอศกรีมโตเกียว (ปัจจุบันคือสมาคมไอศกรีมญี่ปุ่น) นับตั้งแต่ปี 1964
เมื่อถึงวันที่ 9 พฤษภาคมของทุกปี ร้านค้าหลายแห่งในญี่ปุ่นจึงมักจัดงาน หรือมีกิจกรรมการแจกจ่ายไอศกรีมฟรี! เพื่อเป็นของขวัญและเป็นการเฉลิมฉลองวันดังกล่าว
เช่นนี้เอง BrandThink จึงขอพูดถึง ‘ไอสุคุริน’ (Aisukurin) ซึ่งเป็นไอศกรีม ‘ชนิดแรก’ ของญี่ปุ่น ให้ทุกคนได้ย้อนนึกถึงกลิ่นอายความเก่าแก่กันดีกว่า
โดย Aisukurin นั้นเป็นไอศกรีมแบบเกล็ดน้ำแข็ง ที่มีต้นกำเนิดครั้งแรกในปี 1869 ซึ่งมีการผลิต และวางจำหน่ายดั้งเดิมในเมืองโยโกฮาม่า แต่ต่อมากลับกลายเป็นของอร่อยขึ้นชื่อของจังหวัดโคจิมากกว่า และหลังจากนั้นก็ค่อยๆ เป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งการผลิตไอศกรีมที่โรงงานนั้นเริ่มต้นขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยชาวญี่ปุ่นกลุ่มแรกๆ ที่ได้กินไอศกรีม อ้างกันว่าเป็นคณะผู้แทนที่ไปสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2403 อาทิ คัตสึ ไคชู (Katsu Kaishu) และ ฟูกูซาวา ยูกิชิ (Fukuzawa Yukichi) และไอศกรีมเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
สำหรับส่วนผสมของไอศกรีมชนิดแรกในญี่ปุ่นนี้จะให้อารมณ์ของหวานแช่แข็ง โดยทำมาจากไข่ น้ำตาล และนมพร่องมันเนยประเภทนมผง จึงมีทั้งความหอมหวาน และขณะเดียวกันก็สามารถให้ความสดชื่นแบบไขมันต่ำเมื่อเทียบกับไอศกรีมทั่วๆ ไป
ส่วนเหตุผลที่ได้รับความนิยมมาตลอด คงหนีไม่พ้นในเรื่องของ ‘เนื้อสัมผัส’ ที่เนียนนุ่มและมีรสสัมผัสของเกล็ดน้ำแข็ง ให้ฟีลผสมผสานระหว่างไอศกรีมกับซอร์เบต์ (Sorbet) รวมไปถึงเรื่องของ ‘รสชาติ’ ดั้งเดิมที่มีความเข้มข้นและให้ประสบการณ์การลิ้มลองที่ไม่เหมือนใคร
อย่างไรก็ดี อากาศร้อนๆ แบบนี้ ถ้าหากกินไอศกรีมก็อาจจะช่วยคลายร้อนได้บ้างละ(มั้ง)
อ้างอิง
- Visit Kochi Japan. Refreshing shaved ice or rich ice cream? How about some ‘aisukurin’?. https://bit.ly/3B0dFzb
- Yokohama Japan. Yokohama’s Firsts — Food for Thought. https://bit.ly/3LKLF7C
- Visit Kochi Japan. Is that ice cream that you’re eating? Nope! It’s Aisukurin!. https://bit.ly/42ta4VK