“ฉันได้กลิ่นความกลัวของแก” ไม่ใช่แค่ประโยคสุดเบียวในหนัง แต่รู้ไหมว่า…มนุษย์รับรู้ ‘กลิ่นความรู้สึก’ ได้จริง!
ถ้าใครเคยได้ยินบทสนทนาในหนังที่ตัวละครหรี่ตาพร้อมพูดว่า “ฉันได้กลิ่นความกลัวของแก” หลายคนอาจหัวเราะ มองว่าเป็นประโยคเท่ๆ หรือไม่ก็ออกจะเบียวหน่อยๆ แต่ความจริงแล้วนี่ไม่ใช่แค่คำพูดสร้างอารมณ์ในจอภาพยนตร์ เพราะมนุษย์เราสามารถ ‘ได้กลิ่นความรู้สึก’ ของกันและกันได้จริง
นี่คือเรื่องราวของ ‘คริสซี เคลลี’ (Chrissi Kelly) นักโบราณคดีชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในอังกฤษ เธอเคยรู้ซึ้งถึงความสำคัญของกลิ่นในแบบที่เธอไม่เคยคาดคิด หลังติดเชื้อไวรัสบางอย่างที่ส่งผลต่อประสาทรับกลิ่น เธอบอกว่ามันเหมือนตัวเองค่อยๆ ลอยออกจากโลก เหมือนไม่มีเชือกผูกโยงกับอะไรอีกต่อไป
เพราะสำหรับเธอกลิ่นคือสะพานที่เชื่อมเรากับธรรมชาติ กับคนที่เรารัก และกับความเป็น ‘เรา’ ช่วงเวลาที่ไม่ได้กลิ่นนั้นเธอคิดถึงการกอดคนที่รักแล้วได้สูดดมกลิ่นเฉพาะตัวของเขา “การอยู่โดยไม่มีประสาทรับรู้กลิ่น มันทำให้ฉันสับสนเหลือเกิน” เพราะความสุขจากสัมผัสเหล่านั้นหายไป เหลือเพียงความสับสนที่ไร้ทิศทาง จนเธอตัดสินใจก่อตั้ง ‘AbScent’ องค์กรเล็กๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่หลงทางในโลกไร้กลิ่น
ระหว่างนั้นเองที่วิทยาศาสตร์เริ่มยืนยันสิ่งที่เธอเชื่อว่า ‘กลิ่นไม่ใช่แค่กลิ่น’ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์มนุษย์ โดยการศึกษาจากยุโรปในปี 2023 พบว่า เราสามารถรับรู้ได้แม้กระทั่งกลิ่นแห่งความกลัวหรือความวิตกกังวลของผู้อื่น และเมื่อกลิ่นนั้นแตะจมูก มันก็เปลี่ยนสภาพอารมณ์เราได้ทันที งานวิจัยจากจีนยังบอกอีกว่าคนที่รับรู้กลิ่นได้ดีกว่ามักมีเพื่อนมากกว่า เหมือนจมูกกำลังช่วยวาดแผนที่ของความสัมพันธ์โดยที่เราไม่รู้ตัว
ถึงแม้ชาร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) จะเคยพูดว่าความสามารถในการรับกลิ่นมีประโยชน์น้อยมากก็ตาม แต่งานวิจัยกลับบอกไปอีกทาง เบตตินา พอส (Bettina Pause) นักจิตวิทยาชีววิทยาจาก Heinrich Heine University Düsseldorf อธิบายว่า การรับกลิ่นทางสังคมมักเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว สิ่งเดียวที่เรารู้สึกได้อาจเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึกภายในร่างกาย แต่ในความเป็นจริง มนุษย์สามารถจดจำกลิ่นกายของกันและกันได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องตั้งใจจำ แม่มือใหม่ส่วนใหญ่จำกลิ่นลูกได้ในเวลาเพียง 10 นาที และทารกก็จดจำกลิ่นของแม่ได้เช่นกัน
ในปี 2022 นักวิจัยจาก Weizmann Institute of Science ทำการทดลองโดยให้ทั้งมนุษย์และ ‘จมูกอิเล็กทรอนิกส์’ ทำนายว่าคู่ไหนจะถูกชะตากันและกันจากกลิ่นกาย ผลลัพธ์ชัดเจนว่าผู้ที่มีกลิ่นกายคล้ายกันมักจะคุยกันอย่างราบรื่นและรู้สึกสนิทใจทันที สอดคล้องกับงานวิจัยเก่าที่กล่าวว่าเรามักเลือกเพื่อนที่มีพันธุกรรมบางส่วนเหมือนกับเราโดยไม่รู้ตัว
แต่กลิ่นไม่ได้บอกเล่าได้แค่อารมณ์ด้านบวก กลิ่นของความกดดัน ความกลัว หรือความวิตกกังวลก็ส่งสารได้เช่นกัน การศึกษาในปี 2020 พบว่า สมองของผู้หญิงตอบสนองแรงขึ้นเมื่อได้กลิ่นเหงื่อของผู้ชายที่เพิ่งผ่านการแข่งขันดุเดือด และเมื่อเจอกลิ่นที่สื่อถึงความวิตกกังวล พวกเธอมักจะระวังตัวมากขึ้น และไว้ใจน้อยลง ราวกับร่างกายกำลังรับรู้เสียงขอความช่วยเหลือที่มองไม่เห็น
ทั้งหมดนี้บอกเราว่า จมูกที่ไวต่อกลิ่นมีประโยชน์มากกว่าที่คิด และคนที่จำแนกกลิ่นได้ดีกว่ามักเหงาน้อยกว่า มีเครือข่ายเพื่อนกว้างกว่า พบเจอกันบ่อยกว่า จนการสแกนสมองพบว่าพื้นที่ที่ประมวลผลกลิ่นอาจเชื่อมโยงกับขนาดวงสังคมของมนุษย์เราโดยตรงอีกด้วย
แม้วันนี้นักวิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าใจทั้งหมดว่ากลิ่นกายเดินทางเข้าสู่จมูกแล้วกลายเป็นพฤติกรรมได้อย่างไร โยฮัน ลุนด์สตรอม (Johan Lundström) นักประสาทวิทยาจาก Karolinska Institute กล่าวว่า นี่เป็นปัญหาหลายมิติที่เพิ่งเริ่มศึกษาเท่านั้น เรารู้เพียงว่ามีบางโมเลกุลอย่าง เฮกซานัล (hexanal) ที่ให้กลิ่นของหญ้าเพิ่งตัดใหม่ ซึ่งดูเหมือนจะเพิ่มความไว้วางใจระหว่างกัน แต่ โมนีก สมีตส์ (Monique Smeets) นักจิตวิทยาสังคมจาก Utrecht University ก็ย้ำว่า เรายังไม่มีคำตอบชัดว่าคนที่มีกลิ่นนี้มากกว่าจะถูกมองว่าน่าเชื่อถือมากกว่าหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หลัง COVID-19 โลกก็หันมามองประสาทรับกลิ่นมากขึ้น แม้ Omicron จะทำลายการรับรู้กลิ่นน้อยกว่าสายพันธุ์ก่อนๆ แต่ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่สูญเสียการรับรู้กลิ่นไปบางส่วน
พวกเขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังขาดการสื่อสารแบบที่ซื่อสัตย์ที่สุด เพราะกลิ่นไม่เหมือนคำพูดหรือสีหน้า แต่มันเป็นความจริงที่เราปลอมแปลงไม่ได้
“ฉันอาจหัวเราะทั้งที่เศร้าหรือโกรธ แต่ฉันไม่อาจเปลี่ยนสารเคมีที่ร่างกายส่งออกมาได้ เพราะมันคือข้อมูลเพียงอย่างเดียวที่คุณไว้ใจได้” พอสกล่าว
อ้างอิง:
- Humans can ‘smell’ each other’s emotions — but we don’t know how https://shorturl.asia/1PdUF