เจอจุดที่ใช่ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง การออกแบบไฟแช็กสไตล์ Zippo ที่ยิ่งนานวันก็ยิ่งคลาสสิก

2 Min
424 Views
20 Nov 2023

1 – แม้จะผ่านเวลามากว่า 90 ปี แต่แบรนด์ไฟแช็กอย่าง ‘Zippo’ (ซิปโป) ก็ยังคงเป็นสินค้าครองใจผู้คนมาต่อเนื่องแทบทุกยุคสมัย และถึงจะมีราคาสูงกว่าไฟแช็กทั่วไปหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ถ้าให้เลือกไฟแช็กสักแบรนด์ ชื่อ Zippo นั้นย่อมเป็นตัวเลือกแรกๆ อยู่เสมอ

มากไปกว่านั้น ไม่ว่าจะผ่านมานานเพียงไร รูปลักษณ์พื้นฐานของสินค้าก็แทบจะเปลี่ยนแปลงเพียงน้อยนิด ยังคงเอกลักษณ์มานับแต่วันตั้งไข่จวบจนถึงปัจจุบัน

2 – เท้าความถึงจุดเริ่มต้นกันเล็กน้อย ไฟแช็ก Zippo ถูกออกแบบและคิดค้นโดย จอร์จ จี. เบลสเดล (George G. Blaisdell) หนุ่มอเมริกันที่ปิ๊งไอเดียขณะมองดูเพื่อนพยายามจุดไฟสูบบุหรี่อย่างทุกลักทุเลด้วยไฟแช็กที่มีรูปร่างหน้าตาไม่เท่เอาเสียเลย – ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหมถ้าหากมีไฟแช็กที่มีดีไซน์สวยงาม ใช้งานง่ายแค่มือเดียวก็จุดได้ และพร้อมใช้งานในทุกๆ สภาพอากาศ ต่อให้มีลมแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่น

เพียงหลักการง่ายๆ ไม่กี่ข้อ ก็เป็นที่มาของ Zippo ไฟแช็กที่ต่อมากลายเป็นสัญลักษณ์ของอเมริกันชน เป็นไอเท็มทางจิตวิญญาณของทหารที่ไปรบในสงครามเวียดนาม จนกลายมาเป็นของคู่มือของสิงห์อมควัน หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่สูบบุหรี่ก็ยังมี Zippo ไว้ครอบครอง

3 – ถ้าจะให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น Zippo มีคุณสมบัติหลักๆ อันเป็นเสน่ห์ที่ยากหาใครเหมือนในเรื่อง ความสวยงามของการออกแบบ มีรูปทรง ขนาด และน้ำหนักที่พอดีมือ รวมถึงเสียงอันเป็นเอกลักษณ์เมื่อเปิดปิดฝา ที่ต่อให้ไม่เห็นก็รู้ได้ทันทีว่ามีคนกำลังใช้ Zippo อยู่

ต่อมาเป็นเรื่องของความคงทน (ไฟแช็กทุกอันทำจากทองเหลือง) มีองค์ประกอบของโครงสร้างที่การันตีอายุการใช้งานว่าอยู่ได้นาน รวมถึงยังมีบริการหลังการขายด้วยใบรับประกันซ่อมฟรีตลอดชีพมาเพิ่มความมั่นใจไปอีกแรง

และสุดท้าย แม้ดีไซน์ของ Zippo แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย (เดิมเป็นมุมเหลี่ยมทั้งหมดก่อนมาปรับให้มนภายหลัง) แต่ลวดลายของ Zippo นั้น กลับมีการออกแบบที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ช่วงที่ทำการค้ากับกองทัพ โดย Zippo ที่ถูกแจกจ่ายไปตามหน่วยต่างๆ จะประทับตราตามหมายเลขของหน่วยนั้นๆ ไม่ซ้ำกันเปรียบได้กับการเป็นของที่ระลึก 

แต่เรื่องการออกแบบลวดลายจริงๆ นั้นมาเกิดในช่วงเปลี่ยนผู้บริหาร ที่เจ้าของรายใหม่ไม่อยากให้ Zippo ตายไปพร้อมกับคนรุ่นเก่าที่ผูกพันกันมา จึงนำเอาเรื่องการ co-branding เข้ามาใช้ ดังจะเห็นลวดลายที่อิงกับแบรนด์ดังต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Plaboy สัญลักษณ์วงดนตรี The Rolling Stone หรือร่วมกับเหล้าพรีเมียมหลายยี่ห้อ

ซึ่งยิ่ง Zippo ผลิตลวดลายออกมามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างความสนใจให้กับคนซื้อมากยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นคอลเลกชันของนักสะสม ซึ่งปัจจุบัน 21 เปอร์เซ็นต์ของลูกค้า Zippo ต่างเป็นนักสะสมตัวยงทั้งนั้น แน่นอนว่าในจำนวนนั้นมีไม่น้อยทีเดียวที่ไม่ได้เป็นคนสูบบุหรี่ (ที่หลุดมาจากกรอบการออกแบบแรก)

4 – หากมองในมุมแนวทางการออกแบบ UX หรือ User Experience แล้วก็อาจสรุปได้สั้นๆ ว่า Zippo มีคุณสมบัติในการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ ที่มีองค์ประกอบทั้งความเรียบง่าย ใช้งานง่ายๆ สวยงาม มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นจุดลงตัวที่ทำให้ใครๆ ต่างก็หลงใหลและคลั่งไคล้ความเป็น Zippo ได้อย่างไม่ยากเย็น

และเมื่อ 3 ปีที่แล้ว Zippo Manufacturing Company ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า ได้มีการผลิตไฟแช็กเกิน 600 ล้านชิ้นไปแล้ว มีวางจำหน่ายมากกว่า 160 ประเทศทั่วโลก 

และเรื่องราวทั้งหมด คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการยกเครดิตให้กับ จอร์จ จี. เบลสเดล ที่ออกแบบมันมาได้อย่างลงตัวตั้งแต่ต้น

 

อ้างอิง: