การกลับมาของ Nokia ในปี 2023 กับสมาร์ทโฟนที่เน้นใช้นาน เปิดให้ผู้ใช้ซ่อมเองได้ ไม่ต้องง้อร้าน
ในแง่ของธุรกิจ Nokia นับว่าเป็นแบรนด์ระดับตำนานที่ถูกหยิบยกมาพูดถึงทั้งในมุมที่รุ่งโรจน์ กับสถานการณ์ที่ร่วงโรย เพราะก่อนวันที่สมาร์ทโฟนจะเป็นที่นิยมอย่างในปัจจุบัน หากพูดถึงมือถือที่ทุกคนเคยใช้กันก่อนหน้านั้น ชื่อแรกๆ ที่ถูกเอ่ยถึงคงหนีไม่พ้น ‘โนเกีย’ (Nokia) โทรศัพท์ในตำนาน ที่บางรุ่นขึ้นชื่อเรื่องความ อึด ถึก ทน ระดับที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีกันเลยทีเดียว
โดยในช่วงปี 1999 Nokia ถือเป็นเจ้าผู้ครองตลาดโทรศัพท์มือถือ ก่อนมูลค่ารายได้จะค่อยๆ ถดถอยในปีที่ Apple ออก iPhone รุ่นแรก และลดลงอย่างต่อเนื่องจนต้องยุติธุรกิจโทรศัพท์ไปชั่วคราวในปี 2014 หันไปมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านอื่นๆ แต่ก็ยังแวะเวียนมาออกโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ อยู่บ้าง โดยทำงานร่วมกับบริษัทต่างๆ เพียงแต่ไม่เป็นกระแสเหมือนอย่างเก่า
กระทั่งในปีนี้ เป็นอีกครั้งที่ Nokia ได้ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกสู่ตลาด แต่ก็ถือว่าน่าจับตากว่าครั้งไหนๆ ด้วยจุดขายที่ไม่ได้เน้นในเรื่องเทคโนโลยีสักเท่าไหร่
สำหรับ Nokia G22 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2023 แทนที่จะขายว่าถ่ายภาพได้คมชัดเท่าไหร่ ชิปประมวลผลได้ไวแค่ไหน Nokia กลับชูในเรื่อง ‘ใครๆ ก็สามารถซ่อมมือถือได้ด้วยตัวเอง’
อย่างที่ทราบกัน สมาร์ทโฟนในปัจจุบัน แม้จะมากด้วยคุณภาพเชิงเทคโนโลยี แต่เมื่อเกิดพลั้งมือทำเสียหายเมื่อไหร่ มิพักต้องพึ่งร้านซ่อมหรือโชว์รูมของแบรนด์เป็นหลัก ทำให้เสียทั้งเวลา ทั้งเงิน (บางครั้งอาจเรียกว่า ‘ค่าโง่’ ก็ได้)
Nokia G22 จึงเปลี่ยนข้อด้อยตรงนั้นให้เป็นจุดเด่นขึ้นมาแทน
โดย HMD Global เจ้าของแบรนด์ Nokia (ปัจจุบัน) อธิบายว่า Nokia G22 เป็นสมาร์ทโฟนที่ต้องการให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงออกแบบให้ซ่อมแซมหรือถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนด้วยตนเองได้อย่างง่ายๆ
เป็นต้นว่า จากการวิจัยระบุว่าเหตุผลส่วนใหญ่ที่ผู้ใช้เปลี่ยนสมาร์ทโฟน เพราะมักเผลอทำหน้าจอแตก หรือเกิดเหตุแบตเตอรี่เสื่อมไว แต่สำหรับ Nokia G22 หากเราพบปัญหาที่ว่า ก็สามารถซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนเองได้ โดยไม่ต้องไปพึ่งร้านซ่อมอีกต่อไป
ในโฆษณามีตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 5 นาที หรือสามารถถอดเปลี่ยนหน้าจอได้อย่างง่ายดาย ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 20 นาที
เบื้องหลังสำคัญของเรื่องนี้ คือการทำงานร่วมกับ iFixit บริษัทขายชิ้นส่วนอะไหล่อุปกรณ์ไอทีและผลิตสื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ช่วยออกแบบคำแนะนำเรื่องการซ่อมแซมอุปกรณ์ร่วมกับ Nokia G22
ซึ่งสโลแกนสำคัญของ iFixit คือ Right to Repair หรือ ‘สิทธิในการซ่อมเอง’ ที่ผู้บริโภคสามารถซ่อมสินค้าของตัวเองแบบ DIY ไม่จำเป็นต้องพึ่งร้านหรือส่งเข้าศูนย์บริการ ที่หลายต่อหลายครั้งอาจต้องรอคิวนานเกินไป
โดยทาง iFixit ได้เข้ามาดูแลเรื่องอะไหล่ ทั้งหน้าจอ ฝาหลัง แบตเตอรี่ และพอร์ตชาร์จ ตลอดจนสร้างคู่มือวิธีการซ่อมให้กับมือใหม่ เจ้าของมือถือทั้งหลายได้ศึกษากันแบบขั้นต่อขั้น
กลับมาที่ Nokia G22 มากไปกว่าการซ่อมแซมได้ง่าย ยังมีเรื่องชิ้นส่วนอุปกรณ์ เช่น ฝาหลังที่ผลิตด้วยพลาสติกรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ หรือบรรจุภัณฑ์อื่นๆ ก็ใช้วัสดุที่ได้รับรองมาตรฐาน FSC ผ่านการพิจารณาว่าทุกขั้นตอนของวงจรชีวิตอุปกรณ์ไม่สร้างผลกระทบกับโลก
หรืออีกนัยหนึ่ง ก็สามารถอธิบายได้ว่า Nokia G22 เป็นมือถือรักษ์โลก ที่มองเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืนควบคู่กับการประกอบธุรกิจนั่นเอง นับว่าเป็นการกลับมาใหม่ในแง่ของการเป็นแบรนด์ Social Enterprise และมีความ Human Centric มากขึ้นนั่นเอง
ปัจจุบัน นักรณรงค์ด้านสิทธิผู้บริโภคในชาติยุโรปหลายๆ ประเทศ ได้เรียกร้องให้ผู้ใช้งานมีสิทธิในการซ่อมแซม (Right to Repair) มือถือของตัวเองกันมากขึ้น หากเสียหายไม่มาก ควรสามารถหาซื้ออะไหล่มาเปลี่ยนเองได้ แทนที่การส่งเข้าศูนย์ของบริษัท หรือจำใจเปลี่ยนเครื่องใหม่
เพราะยิ่งเราซ่อมเองได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยืดอายุการใช้งานมือถือได้มากเท่านั้น และยังนำไปสู่การลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ลงได้อีกด้วย ซึ่ง Nokia G22 คือหนึ่งในตัวอย่างของการเริ่มต้นที่สมควรได้รับการต่อยอดต่อไป
อ้างอิง:
- พลังในการซ่อมแซมอยู่ในมือคุณ https://shorturl.asia/UkCzP
- Nokia smartphone you can fix yourself launches as ‘right to repair’ trend gains steam https://shorturl.asia/vRzl3
- HMD’s latest Nokia phone is designed to be repaired in minutes https://shorturl.asia/m79Jv