3 Min

ปริศนา “เสียงลึกลับใต้ทะเล” ที่สวีเดนเคยเชื่อเป็นสิบปีกว่าเป็นเสียงเรือดำน้ำรัสเซีย แต่จริงๆ เป็นเสียง “ตด” ของฝูงปลาแฮริ่ง

3 Min
1026 Views
07 Dec 2020

ถ้าเราไม่รู้จักธรรมชาติดีพอ ในบางครั้งเราก็จะคิดว่า สิ่งบางอย่างเกิดจากฝีมือมนุษย์ แต่ถ้าเรารู้จักมันดีพอ แท้จริงแล้ว บางสิ่งอาจจะไม่ได้กำเนิดมาจากน้ำมือพวกเราเสมอไป

และเรื่องนี้เป็นเรื่องจากสวีเดน ที่มนุษย์ดันคิดไปว่าเสียงของ “ธรรมชาติ” เป็นเสียงของมนุษย์สร้างขึ้น และพยายามหาต้นตอเสียงเป็นสิบปีก่อนจะรู้ “ความจริง” แบบงงๆ

1.

แต่เราต้องเล่าย้อนไปก่อนในช่วงปลายสงครามเย็นช่วงทศวรรษ 1980’s
ในช่วงนั้น ก็แน่นอนว่าโลกมีความตึงเครียด ไม่รู้ว่าจะมีการปะทะกันเมื่อไร ไม่รู้จะเกิดสงครามนิวเคลียร์เมื่อไร ซึ่งแต่ละชาติ ก็จะมี “ความกลัว” ที่เฉพาะเจาะจงต่างๆ กัน และในกรณีของสวีเดน คนสวีเดนจะกลัวสหภาพโซเวียตมาเปิดฉากถล่ม และสิ่งที่คนสวีเดนกลัวอย่างหนึ่งคือเรือดำน้ำ ซึ่งเรือดำน้ำของโซเวียตก็รู้กันว่าน่าจะมีขีปนาวุธนิวเคลียร์ติดตั้งอยู่

ในปี 1981 อยู่ดีๆ เรือดำน้ำโซเวียตก็โผล่มางงๆ ในน่านน้ำสวีเดนทางใต้ ห่างจากฐานทัพเรือแค่ 10 กิโลเมตร

ซึ่งทางโซเวียตก็ขอโทษขอโพยและชี้แจงยกใหญ่ว่าจริงๆ มาโผล่ตรงนั้นเพราะระบบนำร่องมันรวน และก็รีบออกจากบริเวณนั้นและเข้าสู่ “น่านน้ำสากล” อย่างรวดเร็ว

แต่ทางสวีเดนก็แน่นอนว่า “หลอน” ที่อยู่ดีๆ เรือดำน้ำโซเวียตมาโผล่พรวด และพอเอาเครื่องวัดกัมมันตภาพรังสีไปวัด ก็พบร่องรอยกัมมันตภาพรังสี กล่าวคือเรือดำน้ำนั้นน่าจะมีหัวรบนิวเคลียร์อยู่

ซึ่งก็ควรกลัว เพราะ “อาวุธสงคราม” ระดับถล่มประเทศได้นี้อยู่ดีๆ มาโผล่ใกล้ๆ แบบงงๆ ใครมันจะไม่กลัวใช่ไหมล่ะ

และมันทำให้สวีเดนตระหนักว่าควรจะมีการตรวจจับเสียงใต้ท้องทะเลมากขึ้นและกว้างขึ้น เพราะนั่นคือวิธีตรวจจับเรือดำน้ำแบบมาตรฐาน ในท้องทะเลลึก ซึ่งการ “มอง” เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และเรือดำน้ำนั้นก็เหมือนยานพาหนะทั่วไป เวลามันขยับมันมีเสียง หรืออยู่เฉยๆ ก็มีเสียงเครื่องยนต์
นี่เลยทำให้สวีเดนได้พบกับ “เสียงประหลาด” ใต้ท้องทะเลเป็นครั้งแรก

ซึ่งเสียงที่ว่านี้ ก็ดังพอที่จะทำให้กองทัพเรือสวีเดนสงสัยว่าเป็นเรือดำน้ำของโซเวียต แต่พอเอาเรือดำน้ำไปลาดตระเวนทีไร ก็ไม่พบต้นกำเนิดเสียง

เรื่องนี้เป็น “ความลับทางการทหาร” มาตลอดยุค 1980’s อย่างไรก็ดี พอสงครามเย็นสิ้นสุดลง สหภาพโซเวียตล่มสลายกลายเป็นรัสเซีย สิ่งที่ทัพเรือสวีเดนยังพบก็คือ “เสียงประหลาด” ก็ไม่ได้เงียบหายไป มันยังอยู่เหมือนเดิม ทั้งที่ตอนนี้ รัสเซียก็ไม่น่าจะมีเหตุผลอะไรที่จะส่งเรือดำน้ำมาป่วนประสาทสวีเดนแล้ว สวีเดนก็เลยเริ่มสงสัยตั้งแต่ตอนนั้นว่าเสียงที่เชื่อมาตลอด 10 ปีว่าเป็นเสียงเรือดำน้ำ อาจไม่ใช่เสียงเรือดำน้ำก็ได้ แต่มันคือเสียงอะไรล่ะ?

2.

เวลาผ่านมาจนถึงปี 1996 ก็ยังไม่รู้ต้นตอของ “เสียงลึกลับ” อยู่ดี กองทัพสวีเดนก็คิดว่า ยังไงก็ต้องไขปริศนานี้ให้ได้ และเนื่องจากมันไม่น่าจะใช่เสียงเรือดำน้ำ ประเด็นความมั่นคงก็เลยตัดออกไปได้ ทางกองทัพสวีเดนก็เลยเรียกทีมนักวิทยาศาสตร์ทางทะเลเข้าไปรวมตัวกันในห้องลับ และเปิด “เสียงประหลาดใต้ทะเล” ให้ฟัง โดยนักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ ก็เป็นพลเรือนกลุ่มแรกที่ได้ยินเสียงประหลาดนี้หลังจากมั้นเป็นความลับทางการทหารมาสิบกว่าปี

ซึ่งในท้ายที่สุด ทีมนักวิทยาศาสตร์ก็ไปหาคำตอบมาให้กองทัพได้สำเร็จ ว่าเสียงประหลาดที่ว่านี้ ไม่ใช่อะไรเลยนอกจากเสียง “ตด” ของปลาแฮริ่ง และให้ตรงกว่านั้นคือของปลาแฮริ่งทั้งฝูง

ปลาแฮริ่งเป็นปลาขนาดเล็ก ตัวประมาณ 1 ฟุต มันชอบอยู่กันเป็นฝูงใหญ่มากๆ ตามประสาปลาขนาดเล็กที่รวมกันอยู่เป็นใหญ่ๆ โอกาสจะสืบทอดเผ่าพันธุ์มีมากกว่า ซึ่งก็แน่นอน เนื่องจากเป็น “ปลาเล็ก” มันก็มักจะมีกลไกบางอย่างในการหนีการถูกกินโดย “ปลาใหญ่” ซึ่งสำหรับปลาแฮริ่ง พวกมันมีความสามารถในการสูบน้ำเข้าไปในร่างกาย แล้วฉีดออกทางก้น เพื่อเพิ่มความเร็วในการหนี หรือพูดง่ายๆ คือเหมือนการ “ติดเทอร์โบ” เพื่อพุ่งตัวอย่างรวดเร็วในระยะสั้น

ทีนี้ลองนึกภาพครับ ปลาแฮริ่งฝูงใหญ่ๆ ไปเจอเรือดำน้ำสวีเดนไปใกล้ๆ จะเป็นยังไง? คำตอบคือก็ “วงแตก” น่ะสิครับ คือก็ “ตด” หรือฉีดน้ำออกจากทางก้นพร้อมๆ กันทั้งฝูงแล้วกระจายไปทั่วทิศทางอย่างพร้อมเพรียง
และนี่คือคำอธิบายว่าทำไมเรือดำน้ำได้ยินแต่ “เสียง” และไม่เจออะไร พวกมันหนีแตกกระจายไป ทิ้งเอาไว้แต่เสียง “ตด” ของทั้งฝูงที่ก็คงจะดังสนั่นหวั่นไหวระดับที่ทางกองทัพเข้าใจผิดว่าเป็นเสียงเรือดำน้ำ

ซึ่งเนื่องจากกลัวกองทัพไม่เชื่อ คิดว่านี่เป็นทฤษฎี ทางนักวิทยาศาสตร์ก็เลยเอาปลาแฮริ่งมา แล้วบันทึกเสียงตอนมัน “ตด” แล้วส่งให้ทางกองทัพเอาไปเทียบดู ซึ่งผลก็คือ เสียงมันคือเสียงเดียวกันเป๊ะๆ

เป็นอันปิดคดีและปริศนาที่ดำเนินมากว่า 15 ปี

3.

ซึ่งมาเล่าตอนนี้ แน่นอนครับว่ามัน “ตลก” แต่อยากให้ลองนึกภาพดู ว่าอยู่ดีๆ ไปตรวจเจอ “เสียงประหลาดใต้ทะเลลึก” นี่ เอาจริงๆ มันไม่สนุกหรอกครับ โคตรหลอนเลย นี่ยังดีมีคำอธิบายว่าอาจเป็นเสียงเรือดำน้ำ ถ้าผู้ต้องสงสัยไม่ใช่เรือดำน้ำแล้ว ก็แน่นอนคนก็คงจะคิดว่ามันเป็นเสียงสัตว์ประหลาดอะไรสักอย่างแน่ๆ และก็คงจะเป็นปริศนาเช่นกัน

แต่ก็นั่นแหละครับ พอความจริงเฉลย เรื่องที่เคยน่ากลัวและลี้ลับ มันก็พลิกเป็นเรื่องฮาไปซะเฉยๆ เรื่องนี้ก็เช่นกัน

อ้างอิง:

  • IFLScience!: https://www.iflscience.com/…/for-15-years-sweden…/