‘ค่าโง่’ หรือ ‘แกล้งโง่’? แม้จะคืนเงินตรวจสอบ GT200 ก็ไม่จบ กมธ.งบฯ ขอคุยผู้เกี่ยวข้อง ‘ส่อทุจริต’ หรือไม่
อยากรู้แต่ไม่มีเวลา อ่านแค่ตรงนี้พอ
‘GT200’ ถูกสื่อต่างชาติลงข่าวเมื่อราว 10 ปีที่แล้วว่าเป็น ‘เครื่องตรวจระเบิดเก๊’ และองค์กรอิสระในไทยก็ชี้มูลไปนานแล้วว่าเครื่อง GT200 และเครื่องรุ่นอื่นที่คล้ายกัน ‘ใช้งานไม่ได้จริง’ แต่กระทรวงกลาโหมของไทยตั้งงบเกือบ 10 ล้านบาทให้ผ่าเครื่องตรวจสอบรอบใหม่ ทำให้ ส.ส. – นักวิชาการ ตั้งคำถามว่าทำไปทำไม รวมถึงผู้ใช้สื่อโซเชียลที่สงสัยว่านี่คือการ ‘แกล้งโง่’ หรือไม่ เพราะแม้แต่อัยการก็แถลงข่าวว่าไม่จำเป็นต้องตรวจสอบ จนกองทัพบกบอกว่าจะคืนเงินค่าตรวจสอบ แต่ กมธ.งบประมาณฯ เรียกผู้เกี่ยวข้องไปให้ปากคำในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เพราะมองว่าอาจเสี่ยงต่อการทุจริต
————————————————
เรื่องนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร
จีที200 (GT200) และ อัลฟ่า 6 (Alpha 6) เป็นเครื่องตรวจวัตถุระเบิดที่ผลิตในอังกฤษ ต่อมาอังกฤษตรวจพบว่าเครื่องมือนี้ลวงโลกไม่สามารถใช้งานได้จริง และได้ดำเนินคดีกับผู้ผลิตพร้อมแจ้งเตือนไปยังประเทศต่างๆ ที่สั่งซื้อมาให้รับทราบ รวมทั้งรัฐบาลไทยมี 16 หน่วยงานหลงเชื่อ สั่งซื้ออุปกรณ์ที่ภายหลังถูกเรียกว่า ‘ไม้ล้างป่าช้า’ กว่า 1,000 ชิ้น ภายหลังเมื่ออุปกรณ์นี้ถูกเปิดโปงว่าเป็นเครื่องมือลวงโลก จึงเกิดกระแสให้มีการตรวจสอบหน่วยงานในไทยที่จัดซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เข้ามา จนกลายเป็นอีก 1 คดีที่ยืดเยื้อ คลุมเครือ และยังเอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้องไม่ได้
เมื่อไม่นานมานี้ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล อภิปรายในสภาเรื่องการใช้งบประมาณของกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ปรากฏในเอกสารงบประมาณว่า ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กองทัพบกทำสัญญาจ้างมูลค่ารวม 7,570,000 บาท ให้ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ไปตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด GT200 จำนวน 757 เครื่อง เฉลี่ยตกเครื่องละ 10,000 บาท นั้น ทำไปเพื่ออะไรในเมื่อรู้กันทั้งโลกแล้วว่า GT200 นั้นข้างในไม่ได้มีแผงวงจรอะไร และหากจะตรวจสอบเพื่อผลทางคดี แค่ตรวจดูสักเครื่องสองเครื่องก็น่าจะใช้อ้างอิงได้แล้ว แต่เมื่อสอบถามไปทางกลาโหมให้ชี้แจง กลับได้รับคำตอบว่าเรื่องนี้ ‘เป็นความลับ’
ทั้งนี้ GT200 เป็นข่าวฉาวไปทั่วโลกในปี 2010 เมื่อทางการอังกฤษมีคำสั่งห้ามจำหน่ายอุปกรณ์นี้ไปยังอิรักและอัฟกานิสถาน และได้ส่งหนังสือเตือนไปยังประเทศต่างๆ ไม่ให้สั่งซื้ออุปกรณ์นี้หลังตรวจสอบแล้วพบว่าไม่สามารถใช้งานได้จริง
ต่อมาในปี 2013 เจมส์ แมคคอร์มิค (James McCormick) ผู้ผลิตและจำหน่าย GT200 ไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ถูกศาลอังกฤษตัดสินจำคุก 10 ปี ในข้อหาหลอกขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอม และในปี 2016 แมคคอร์มิค ถูกศาลอังกฤษตัดสินยึดทรัพย์ 7.9 ล้านปอนด์หรือราว 395 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าชดเชยแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของบริษัทจอมลวงโลก
ภาคประชาชน ผู้เริ่มการตรวจสอบ GT200 ในประเทศไทย
สำหรับในประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกหลอกขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดปลอมนี้ รัฐบาลในขณะนั้นพยายามที่จะซุ่มเงียบไม่พูดถึงเรื่องดังกล่าว แต่เมื่อข่าวดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิต GT200 และ Alpha 6 จากฝั่งอังกฤษมาถึงประเทศไทย ก็ได้เกิดการเคลื่อนไหวในสังคมออนไลน์เรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ จุฬา พิทยาภินันท์ นักวิชาการอิสระ ร่วมเคลื่อนไหวตรวจสอบเรื่องนี้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วย โดยอาจารย์เจษฎาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบ GT200 ที่รัฐบาลตั้งขึ้นมา และผลตรวจสอบบ่งชี้ว่าเครื่อง GT200 ไม่สามารถใช้งานได้จริงตามที่กล่าวอ้าง
เมื่อเกิดการเปิดเผยข้อมูลรอบใหม่ต้นเดือนมิถุนายน 2565 ว่ากระทรวงกลาโหมตั้งงบประมาณรวมกว่า 7.5 ล้านเพื่อผ่าพิสูจน์เครื่อง GT200 ทำให้อาจารย์เจษฎาโพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊คว่า “…กองทัพมี GT200 ตั้งเจ็ดร้อยกว่าเครื่อง ถ้าผ่าตรวจหมด ก็ใช้งานไม่ได้อีกแล้ว (จริงๆ มันก็ใช้งานไม่ได้อยู่แล้ว) จะเอาไปทำอะไรดี ผมว่าเอาไปขายเป็น ‘ที่ตักขี้แมว’ แบบ limited edition ก็น่าจะเวิร์คนะครับ”
[รองอัยการชี้ ไม่จำเป็นต้องตรวจสอบแล้ว–รองนายกฯ โบ้ย ‘สำนักงบ’ ชี้แจง]
หลังจากตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อโซเชียล ทางด้าน ประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การตรวจเครื่อง GT200 ไม่มีความจำเป็น เนื่องจากคดีนี้สิ้นกระเเสความเเล้ว และสำนักงานอัยการแจ้งผลให้กองทัพบกแล้วตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2564
แม้แต่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ตอบสื่อที่ตั้งคำถามเรื่องนี้ว่าตนเองไม่ทราบรายละเอียดข้อเท็จจริง และบอกให้ไปสอบถามจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ ซึ่งก็คือ กองทัพบกและสำนักงบประมาณ แต่รองนายกฯ ชี้ว่า ในการพิจารณาชั้นกรรมาธิการงบประมาณฯ คงจะมีการสอบถามในประเด็นเหล่านี้ และสำนักงบประมาณจะต้องชี้แจงได้
อย่างไรก็ดี สุนัย ผาสุก ที่ปรึกษาขององค์กรสิทธิมนุษยชนนานาชาติฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch) ประเทศไทย ทวีตข้อความตั้งคำถามว่า “ที่กระทรวงกลาโหมอ้างว่าจำเป็นต้องตั้งงบจ้างตรวจสอบ #จีที200 เพื่อประกอบการดำเนินคดีคืออะไร? แบบนี้คงไม่ใช่ค่าโง่ แต่คือแกล้งโง่หรือเปล่า?
16 หน่วยงานราชการไทย ถูกหลอกขายไม้ชี้ผี
GT200 และ Alpha 6 ถูกนักวิชาการและสื่อจำนวนหนึ่งเรียกว่า ‘ไม้ชี้ผี’ หรือบางทีก็เรียกว่า ‘ไม้ล้างป่าช้า’ ด้วยลักษณะเป็นด้ามจับพลาสติกที่มีเพียงเสาอากาศแกว่งไปแกว่งมา ไร้แผงวงจรควบคุมใดๆ ทั้งสิ้น แต่จากการตรวจสอบพบว่า หน่วยงานราชการไทย 16 แห่ง อาทิ กรมสรรพาวุธทหารบก กองบัญชาการกองทัพไทย โดยศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) กรมราชองครักษ์ กองทัพเรือ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กรมการปกครอง กรมศุลกากร ตำรวจภูธร จ.ชัยนาท ตำรวจภูธร จ.พิษณุโลก ฯลฯ สั่งซื้อเครื่องมือลวงโลกนี้รวมแล้ว 1,398 เครื่อง มูลค่า 1,178 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ มี 13 หน่วยงานที่จัดซื้อเครื่องมือลวงโลกนี้ในราคาที่สูงเกินความจำเป็น ตั้งแต่ราคาเครื่องละ 500,000 บาท จนถึง 1.6 ล้านบาท
การตรวจสอบยังพบด้วยว่า กลุ่มบริษัทที่ขายเครื่องมือลวงโลกนี้มีพฤติการณ์ฮั้วการประมูลอย่างโจ่งแจ้ง โดยบริษัทแม่ส่งบริษัทลูกไปประมูลงาน จากนั้นบริษัทแม่ได้ยื่นซองประมูลแข่งกับบริษัทลูก เป็นพฤติการณ์ที่ผิด พ.ร.บ.ฮั้วประมูล มูลค่าความเสียหาย 300 ล้านบาท กรณีนี้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐทำผิดร่วมด้วย จึงอยู่ในอำนาจสอบสวนของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ปี 2558 วิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนกรณีที่มีการกล่าวหา พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กับพวก จัดซื้อเครื่อง GT200 โดยมิชอบว่า การไต่สวนคดีนี้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากเป็นเรื่อง ‘ลึกลับ’ ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวเมื่อครั้งเป็น ผบ.ทบ. ว่า “เรื่องนี้จะหยุดวิจารณ์กันได้หรือยัง เมื่อบอกว่าใช้ไม่ได้ก็ใช้ไม่ได้ แล้วเราเลิกใช้กันมานาน 2-3 ปีแล้ว ส่วนใครจะผิดหรือถูกไปฟ้องร้องในศาลเอาเอง“
ในส่วนของการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทำให้รัฐชนะคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ 600 กว่าล้านบาท มีการจ้างให้ สวทช. ตรวจสอบ GT200 และ Alpha 6 อีกครั้งในระหว่างการยื่นฟ้องคดีดังกล่าว ทำให้เกิดการตั้งคำถามจาก ส.ส. และประชาชนผู้ใช้สื่อโซเชียลตามมา
ด้วยเหตุนี้ สวทช. จึงได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การตรวจสอบ GT200 เป็นไปตาม ‘หลักมาตรฐานสากล’ และหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงคือ ศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) ในสังกัดของ สวทช. ซึ่งได้รับการประสานจาก ‘กรมสรรพาวุธทหารบก’ ให้ตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครื่อง GT200 และยืนยันว่าค่าบริการทดสอบทั้งหมด ‘ถูกกว่า’ การทดสอบโดยห้องปฏิบัติการต่างประเทศ
ส่วนเกณฑ์การคิดค่าบริการทดสอบทั้งหมด PTEC คำนวณจากการใช้วัสดุและอุปกรณ์ทดสอบ ห้องปฏิบัติการทดสอบ ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงการใช้สารเสพติดและวัตถุระเบิดในการทดสอบ เพื่อให้ได้คุณภาพของผลการทดสอบตามเอกสารว่าจ้างที่ระบุทุกรายการ
ขณะที่อาจารย์เจษฎาได้โพสต์เฟซบุ๊คตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ระบุว่า “ความตลกของเรื่องนี้ก็คือทางศูนย์พีเทคของ สวทช. ได้เคยช่วยตรวจเครื่องตัวอย่างของ GT200 และพิสูจน์ชัดเจนแล้วว่า มันไม่ได้มีประจุไฟฟ้าหรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าออกมาจากเครื่อง ซึ่งแสดงถึงการเป็นเครื่องที่หลอกลวง เสร็จตั้งแต่การทดสอบโดยคณะกรรมการทดสอบฯ ในช่วงปี 2553 แล้ว”
คืนเงินก็ไม่จบ ต้องถามว่าอนุมัติงบจากไหน?
เมื่อเรื่องเป็นประเด็นร้อนแรง วันที่ 7 มิถุนายน 2565 พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก และโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ก็ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อว่าตอนนี้ได้ยุติการผ่าพิสูจน์เครื่อง GT200 แล้ว หลังจากที่ผ่าพิสูจน์ไปประมาณ 320 เครื่อง และงบประมาณที่เหลือต้องส่งคืนประมาณ 2-3 ล้านบาท เพราะเป็นเงินที่เบิกมาจากงบประมาณปี 2564 พร้อมย้ำว่าไม่ได้ใช้งบประมาณของปี 2565 และไม่ได้ตั้งเรื่องเบิกงบประมาณส่วนนี้ในปี 2566 เช่นกัน พร้อมกล่าวด้วยว่า “กองทัพบกจะใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ”
อย่างไรก็ดี ในวันที่ 9 มิถุนายน หลังจากที่ผู้ใช้สื่อโซเชียลตั้งคำถามว่า การตั้งงบเช่นนี้ส่อเค้าว่าทุจริตหรือไม่ ไชยา พรหมา ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ประธานกรรมาธิการการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.งบประมาณ) ได้เชิญตัวแทนจาก 6 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกรณี GT200 มาชี้แจง ได้แก่ ผู้แทนจากกองทัพบก อัยการสูงสุด ผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเน้นเรื่องที่มาของการตั้งงบประมาณว่ามีเหตุผลและความจำเป็นอะไร
ประธาน กมธ. ชี้แจงว่า ตามหลักการแล้ว หากงบประมาณส่วนนี้มีผลทางคดีตามจุดประสงค์เดิมของกองทัพบกก็สามารถเบิกใช้ได้ แต่เมื่อคดีนี้อัยการสูงสุดระบุว่าถึงที่สุดแล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายงบประมาณในส่วนดังกล่าว ผู้ที่จะมีอำนาจในการพิจารณาตัดงบประมาณส่วนนี้จะเป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีระเบียบกำกับไว้อยู่แล้ว
อ้างอิง
- Twitter. @sunaibkk. https://bit.ly/3GSXyFv
- Facebook. Jessada.Denduangboripant. https://bit.ly/3mk94As
- TNA MCOT. “วิษณุ” ไม่ทราบงบตรวจสอบ GT200. https://bit.ly/3mojSNK
- NSTDA Thailand. สวทช. ยืนยันตรวจทดสอบ GT200 ตามหลักมาตรฐานสากล. https://bit.ly/3zAlDQ7
- BangkokBiz News. GT200 ย้อนอดีต 14 ปีฉาว ทำไมถึงขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องลวงโลก. https://bit.ly/3mjFx9T
- Matichon. รองโฆษกอัยการแจงปม จ้างตรวจ จีที200 เป็นเรื่อง ทบ. หลังศาลปกครองสูงสุดสั่งจ่าย 600 ล.ไร้ความจำเป็นตรวจอีก. https://bit.ly/3NUAQ23
- MGR Online. “ไชยา” เผยกมธ.ติดตามงบฯ GT200 เรียกกองทัพบก–สวทช.แจงปมใช้งบส่อทุจริต เชื่อวันนี้ได้ข้อสรุป.