GovTech Next Move เจาะลึกเบื้องหลังนวัตกรรมภาครัฐฝีมือคนไทย เชื่อมคนเข้าถึงรัฐ เปลี่ยนโฉมบริการแบบพลิกฝ่ามือ

2 Min
560 Views
12 May 2023

ปัจจุบันเทคโนโลยีได้เชื่อมต่อคนให้เข้าถึงบริการภาครัฐได้ด้วยนวัตกรรม ทำให้การใช้บริการภาครัฐง่ายและสะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง ข้อมูลสำคัญถูกเปลี่ยนโฉม ลดขั้นตอนให้เข้าถึงได้จากมือถือ ปริมาณการใช้งานจากประชาชนจึงเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวในช่วงที่ผ่านมา กลายเป็นตัวเร่งให้นวัตกรรมจากหน่วยงานภาครัฐ หรือ ‘GovTech’ เติบโตมากขึ้น

ซึ่ง GovTech นับเป็นหนึ่งในเทรนด์มาแรงที่ภาคเอกชน หรือสตาร์ทอัพหันมาสนใจลงทุน หลายประเทศประกาศชัดเจนว่าจะใช้ GovTech เป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อนประเทศ

เช่นนี้เองทำให้สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ได้ออกมาชวนทุกคนให้ลองเปิดใจเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรรมที่จะเข้ามาพลิกโฉมการทำงานของระบบราชการไทย กับเบื้องหลัง ส่อง 6 นวัตกรรมภาครัฐ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนชีวิตคนไทยให้ต่างไปจากเดิม ผ่านซีรีส์ ‘GovTech Next Move’

สำหรับ 6 นวัตกรรมภาครัฐ เปลี่ยนชีวิต มีดังนี้

  1. ลดขั้นตอน เพิ่มความเร็ว นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับบริการภาครัฐ
  2. เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ให้ง่ายกว่าเดิม นวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต
  3. เข้าถึงข้อมูลสุขภาพบนมือถือ นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต
  4. เชื่อมต่อข้อมูลเข้าถึงชุมชน นวัตกรรมที่เน้นจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องน้ำ อากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ
  5. โปร่งใส ตรวจสอบได้ นวัตกรรมภาครัฐที่นำข้อมูลมาใช้ในการบริหารจัดการ
  6. จัดสรรพื้นที่ ใช้เทคโนโลยีสร้างความสมดุลย์ นวัตกรรมด้านการกระจายตัวในระดับพื้นที่

โดย GovTech ในไทยนั้นเกิดขึ้นมาในช่วง 5-6 ปี หลังจากมีโครงการพัฒนา Startup Thailand ขึ้นมา โดยให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับรัฐ 6-7 สาขา เพื่อผลักดันให้เกิดนวัตกรรมภาครัฐ (GovTech) นวัตกรรมภาคประชาชน (CivilTech) และนวัตกรรมด้านการศึกษา (EdTech) ขึ้นในประเทศ จากการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ เอกชน และภาคประชาชน

ซึ่งจุดเปลี่ยนที่ชัดที่สุด คือสถานการณ์โควิด-19 ที่เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส และกลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่ภาครัฐต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพราะไม่สามารถที่จะให้บริการหน้างานได้แบบที่ผ่านมา ทำให้ต้องพัฒนามิติของการบริการด้วยเทคโนโลยีให้ใช้งานได้ผ่านระบบออนไลน์

ในขณะที่ต่างประเทศ GovTech มีพัฒนาการมาสักพักในวงการนักลงทุน เช่น ในอเมริกา จะมีสตาร์ทอัพให้บริการแทนหน่วยงานราชการในระดับท้องถิ่น มีนักลงทุนที่พร้อมให้การสนับสนุนพัฒนาบริการสาธารณะเป็นหลัก ส่วน GovTech ของสิงคโปร์ จะเน้นเรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี (Digital tranformation) โดยให้ทุนกับสตาร์ทอัพทำแพลตฟอร์มให้บริการภาครัฐ และเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม

การทำงานของภาครัฐต้องเน้นตอบโจทย์เทคโนโลยีที่ประชาชนใช้บริการอยู่เป็นประจำ ทุกวันนี้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป ใช้ชีวิตส่วนหนึ่งอยู่บนมือถือ ดังนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่ภาครัฐจะไม่ปรับตัว จากการทำงานบนกระดาษมาให้บริการผ่านมือถือ ซึ่งประชาชนมีความเคยชินมากที่สุด กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่จะทำให้เกิดการ ‘พัฒนาระบบงานของภาครัฐ’ ให้ไปสู่ระบบดิจิทัล

อย่างไรก็ดี หวังว่าในอนาคตจะได้เป็น ‘รัฐที่ล้ำหน้า’ โดยการเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้อย่างเหมาะสม เพื่อการบริการประชาชนที่รวดเร็ว รวมทั้งเอานวัตกรรมเข้ามาใช้ในการปรับปรุงงานให้เปลี่ยนแปลงจากหน้ามือเป็นหลังมือนั่นเอง

และสามารถติดตามตอนต่อๆ ไปได้ในซีรีส์ GovTech Next Move