2 Min

ของมันต้องมี! Google พัฒนาเอไอ ‘อ่านลายมือหมอ’ หวังลดปัญหา ‘จ่ายยาผิด-อ่านไม่ออก’

2 Min
787 Views
22 Dec 2022

ประเด็นลายมือหมออ่านยากไม่ได้ถูกพูดถึงแค่ในเมืองไทยอย่างเดียว แต่เป็นปัญหาร่วมระดับโลก เพราะคนในหลายประเทศก็พูดคล้ายๆ กันเวลาได้เห็นลายมือที่อยู่บนใบสั่งยาหรือใบรับรองแพทย์ และเคยเกิดกรณีที่มีการสั่งยาผิดเพราะอ่านลายมือหมอไม่ออกมาแล้ว

แต่ทำไมหมอส่วนใหญ่ถึงลายมืออ่านยาก มีคำอธิบายจาก รูธ บรอแคโท (Ruth Brocato) อายุรแพทย์ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งบอกว่าจริงๆ แล้วหมอเป็นอาชีพที่ต้องเขียนตลอดทั้งวัน และอาจจะเรียกว่าเขียนมากกว่านักเขียนยุคปัจจุบันที่หันไปใช้คอมพิวเตอร์กันหมดแล้วเสียด้วยซ้ำ

ในแต่ละวันหมอต้องเขียนบันทึกอาการคนไข้ เขียนคำวินิจฉัยโรค เขียนใบสั่งยา ไปจนถึงเขียนใบรับรองแพทย์ และยิ่งจำนวนคนไข้มากเท่าไหร่ (ลองนึกภาพหมอที่ต้องดูคนไข้ในโรงพยาบาลรัฐในย่านชุมชนที่มีคนรอตรวจหลักร้อยต่อวัน) กล้ามเนื้อส่วนมือก็ทำงานหนักมากเท่านั้นจึงไม่แปลกถ้าเขียนไปเรื่อยๆแล้วลายมือหมอก็จะอ่านยากขึ้นเรื่อยๆ

อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่เกี่ยวกับการเขียนเยอะก็คือศัพท์เทคนิคในวงการแพทย์มีเยอะและแม้แต่หมอเองก็ไม่ได้สะกดคำได้อย่างถูกต้องเสมอไป การเขียนด้วยลายมือหวัดๆ เพื่อกลบเกลื่อนการสะกดผิดก็เป็นวิธีหนึ่งที่หมอบางส่วนใช้กัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนอ่านจำนวนมากจะเดาไม่ออกครบทุกตัวอักษร ยกเว้นคนที่อยู่ในแวดวงเดียวกันหรือศึกษาเล่าเรียนในหลักสูตรใกล้เคียงกันที่พอจะเดาได้ว่าลายมือหมออ่านว่าอะไร ซึ่งมาจากประสบการณ์ส่วนตัวและก็ความเคยชินที่ได้เห็นบ่อยๆ

นี่จึงเป็นที่มาของการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google เพื่อนำมาใช้วิเคราะห์ลายมือหมอโดยเฉพาะ และเพิ่งจะมีการแถลงข่าวที่อินเดียในฟอรัมด้าน IT เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2022

นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญของกูเกิลในอินเดียบอกว่า ระบบ AI อ่านลายมือหมอนี้ยังเป็นรุ่น Prototype ที่ยังต้องรอการทดสอบและประเมินผลอีกระยะหนึ่งก่อนจะเปิดให้ใช้งานกันได้จริงสำหรับคนทั่วไป โดยการป้อนข้อมูลให้ AI เรียนรู้เบื้องต้นจะเป็นการถ่ายภาพใบสั่งยาหรือภาพถ่ายเอกสารที่มีลายมือหมอส่งเข้าไปในระบบเพื่อประมวลผลภาพถ่ายเป็นตัวอักษร และเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวยาและศัพท์ทางการแพทย์แต่ละแขนง

กูเกิลอินเดียบอกว่า นี่คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนในวงการแพทย์ทำงานได้อย่างสะดวกมากขึ้น เพราะจะช่วยให้การวิเคราะห์ลายมือเทียบกับชื่อตัวยาที่เภสัชกรต้องจ่ายให้ผู้ป่วยเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น แต่ก็ทิ้งท้ายว่าในอนาคตที่ระบบนี้เปิดให้ใช้งานจริง ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะประมวลผลได้ถูกต้องไม่ผิดพลาดเลย สุดท้ายแล้วก็ยังต้องการคนคอยตรวจสอบความถูกต้องอีกที

ที่เป็นแบบนี้เพราะผู้พัฒนาระบบมองว่าการตรวจสอบและถ่วงดุลเป็นเรื่องปกติที่ต้องมี เพื่อป้องกันหรือไม่ก็ลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาด เพราะคงไม่มีระบบอะไรในโลกที่จะทำงานได้อย่างถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีข้อผิดพลาดเลย

อ้างอิง