5 Min

FTX ล้มละลายได้อย่างไรทำไมมูลค่า FTT ถึงเปลี่ยนไป และ Sam bankman-friedชายผู้มาก่อนการในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่

5 Min
14 Views
16 Jan 2024

FTX ล้มละลายได้อย่างไรทำไมมูลค่า FTT ถึงเปลี่ยนไป

และ Sam bankman-friedชายผู้มาก่อนการในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่

 

สำหรับคนในวงการตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “Sam bankman-fried” ผู้ที่ได้รับฉายาการขนานนามว่าราชาของวงการคริปโต เจ้าพ่อคริปโต มหาเศรษฐีคริปโต aka sbf สู่ตัวร้ายของวงการตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ ผู้อ่านหลายท่านอาจจะสงสัยถึงที่มาที่ไปของชายคนนี้และผลกระทบจากสิ่งที่เขาทำ จากนี้ผู้เขียนจะขอเล่าถึงสิ่งที่ทำให้ชายผู้มาก่อนกาลจนเป็นตำนานถึงทุกวันนี้

เริ่มจากตัวของแซมแบงค์หลังจากการออกจากงานประจำ ที่เกี่ยวกับการเงินการลงทุนเขาได้พบแนวทางที่เขาสามารถสร้างกำไรได้มหาศาลโดยใช้กลยุทธ์ที่เขาได้จากการฝึกงาน คือ Arbitrage กลยุทธ์การซื้อและขายสินทรัพย์เดียวกันในราคาและตลาดที่ต่างกันซึ่งการทำกำไรที่ง่ายที่สุดคือการซื้อสินทรัพย์ในตลาดที่ราคาต่ำกว่าและขายสินทรัพย์ไปพร้อมกันในตลาดที่ราคาสินทรัพย์สูงกว่า (ขอบคุณที่มาจากแหล่งข้อมูล https://zipmex.com/th/glossary/arbitrage/ ) เขาเองอยู่ในวงการการเงินการลงทุนอยู่แล้วจึงมองเห็นโอกาสในการหากำไรจากการลงทุนในเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเหมือนในปัจจุบันการที่เขาเห็นโอกาสและเริ่มลงมือทำก่อนคนอื่นๆทำให้เขาสามารถสร้างกำไรสะสมความมั่งคั่งได้ในระดับที่สามารถเรียกได้ว่าก้าวกระโดดเลยทีเดียว

เมื่อเขาสามารถหาเงินได้จำนวนมากเขาจึงก่อตั้งบริษัทหรือกระดานเทรดของตัวเองขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า FTX ลักษณะกิจการเป็นในรูปแบบของการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโตเคอเรนซี่ที่ให้บริการซื้อขายทรัพย์สินดิจิตอลในการซื้อมาขายไปแต่ละครั้งจะมีค่าธรรมเนียมในการใช้บริการต่อครั้งซึ่งในการเรียกค่าธรรมเนียมเหล่านี้จะเรียกว่าค่า FEE ค่า GAS โดยปกติจะมีค่าบริการที่ราคาสูงซึ่งกระดานเหตุในแต่ละบริษัทมองเห็นช่องว่างของอัตราค่าธรรมเนียมและอยากจะจูงใจให้กับผู้ใช้บริการก็เลยสร้างเหรียญของตัวเองขึ้นมาหรือเรียกว่าการเสกเหรียญหรือการ mint ซึ่งก็คือ utility Token เพื่อวัตถุประสงค์เป็นเหรียญที่ใช้จ่ายค่าธรรมเนียมการใช้บริการและ ftx เองก็มิ้นต์เหรียญของตัวเองขึ้นมาชื่อว่าเหรียญ FFT ผู้อ่านอาจจะเริ่มสงสัยมีคำถามในใจว่า “เอ้า! ในเมื่อเรามีเหรียญตัวอื่นแล้วที่สามารถใช้จ่ายค่าธรรมเนียมได้เหมือนกันทำไมเราต้องไปซื้อเหรียญที่เขาสร้างขึ้นมาอีกต่อหนึ่ง”

ขออธิบายโดยคร่าวๆคือ utility Token จะสามารถลดราคาค่าธรรมเนียมบริการได้เช่นจากเดิมการซื้อขายเหรียญคริปโต 1 ครั้งใช้ค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 50 บาทแต่ถ้าคุณใช้ utility Token ของเราแค่ 1 Token ซึ่งมีอัตราแลกเปลี่ยนอาจจะเป็น 1 Token มีค่าเท่ากับ 10 บาททำให้เราสามารถจ่ายค่าธรรมเนียมที่ถูกลงและอาจจะมีประโยชน์ที่มากกว่าผู้ใช้บริการอื่นที่ไม่ได้ถือเหรียญ Token เหมือนกับเราซึ่งแต่เดิม utility Token ไม่ได้มีราคาแต่พอ FFT มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายค่าธรรมเนียมในการแลกเปลี่ยนทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เข้าใจว่าutility Token เท่ากับหุ้นของกระดานเทรดนั้นๆทำให้เมื่อปริมาณการซื้อขาย Unity Token มากขึ้นราคาอยู่ที่ราคาของอยู่ที่ Token เพิ่มขึ้นตามกลไกของตลาดนั่งลงทุนต่ำมองว่าเป็นสิ่งที่ดีมีความน่าเชื่อถือเชื่อมั่นได้และสิ่งที่ทำให้ FTX ก้าวกระโดดขึ้นมาอยู่ในอันดับ 2 ขององค์การได้คือสิ่งที่เรียกว่าฟังก์ชันตราสารอนุพันธ์ หรือ Derivative ที่สามารถใช้เก็งกำไรและบริหารความเสี่ยงได้โดยจะมีฟังก์ชันที่เป็นแบบ Futuers และแบบ Option ก่อนที่เราจะใช้ฟังก์ชันนี้เราต้องเข้าใจความหมายของคำว่าสัญญาและสิทธิ์ก่อนโดยที่

สัญญาหมายถึงข้อตกลงที่คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายตกลงทำสัญญาการดังนั้นต้องทำตามถ้าไม่ทำตามอาจจะถูกปรับหรือลงโทษ

สิทธิ์หมายถึงสิ่งที่เราได้มาหรือซื้อมาแล้วทำให้เรามีสิทธิ์ทำตามเงื่อนไขของสิ่งที่ซื้อมา

ขอบคุณแหล่งที่มาจาก https://www.finnomena.com/investment-reader/financial-assets-4-derivative/

 

Futuers คือสัญญาการซื้อขายล่วงหน้าสัญญาที่ผู้ซื้อกับผู้ขายตกลงจะซื้อขายสินค้าโดยกำหนดราคาตั้งแต่วันนี้แต่ส่งมอบและชำระเงินในอนาคตผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องถือสัญญาไว้จนครบกำหนดแต่อาจซื้อขายเปลี่ยนมือกันได้โดยผ่าน TFEX ซึ่งเมื่อถึงเวลาที่กำหนดผู้ซื้อและผู้ขายมีหน้าที่ “ต้องซื้อหรือขาย” ตามที่ตกลงกันไว้

Option คือสัญญา สิทธิสัญญาที่ผู้ซื้อได้รับ ”สิทธิ์ซื้อ” หรือ “สิทธิ์ขาย” สินทรัพย์อ้างอิงตามราคาจำนวนและระยะเวลาที่ระบุไว้จากผู้ขายโดยผู้ซื้อต้องจ่าย “ค่าพรีเมี่ยม” และสามารถเลือกที่จะใช้สิทธิ์หรือไม่ก็ได้แต่ผู้ขายมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามสัญญาหากผู้ซื้อขอใช้สิทธิ์

 

ขอบคุณแหล่งที่มาของรูปภาพพร้อมข้อมูลจากhttps://www.setinvestnow.com/th/derivative/what-are-futures-and-options

 

จากการที่กระดานของ FTX มีปริมาณผู้ใช้มากเป็นอันดับที่ 2 รองจากใบนั้นในขณะนั้นและประกอบกับมีฟังก์ชันที่ดีทำให้ binance เองก็เข้ามาถือหุ้นใน ftx ด้วยยิ่งสร้างความน่าเชื่อถือแก่นักลงทุนยิ่งสามารถระดมทุนได้มากขึ้นในมูลค่ามหาศาลซึ่งก็ดูว่าเป็นกระดานเทรดที่มีอนาคตไกล

แต่ต่อมามีรายงานความผิดปกติของงบดุลที่พบว่า Alameda Research ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ FTX มีการถือ FTT จาก FTX ในจำนวนที่มากเป็นจำนวนถึง 1 ใน 3 ของทรัพย์สินทั้งหมดซึ่งเริ่มสร้างซึ่งเริ่มสร้างความไม่เชื่อมั่นให้กับนักลงทุน 1 ในนักลงทุนวาฬที่เริ่มไม่เชื่อมั่นก็ทำการทุบคือการเทขายFFTทั้งหมดทำให้นักลงทุนรายย่อยอื่นๆเทขายเหมือนกันทำให้FFT ราคาร่วงจนติดลบประกอบกับการที่แซมแบงค์เองประกาศขอยื่นล้มละลายสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนจำนวนมาก จนเกิดเหตุการณ์แห่กันถอนเงินออกมาเป็นจำนวนมากทำให้เกิดวิกฤตขาดสภาพคล่องขั้นรุนแรงแต่แซมแบงค์สั่งระงับการถอนเงินคืนเนื่องจากไม่มีจำนวนเงินที่เพียงพอกับการถอนคืนของผู้ลงทุนเพราะไม่มีการสำรองเงินในการลงทุนและทางแซมแบงค์เองได้นำเงินของผู้ลงทุนไปใช้ในการลงทุนต่างๆรวมถึงการลงทุนในบริษัทลูกอย่างAlameda ด้วยต่อมาแซมแบงค์จึงพยายามที่จะระดมทุนอีกครั้งเพื่อหาเงินมาคืนให้กับนักลงทุนและเรียกความเชื่อมั่นกลับมาและให้ FTX ยังคงมีสภาพคล่องแต่ไม่มีนายทุนรายไหนจะยื่นมือเข้ามาจึงทำให้ FTX ล้มละลายในที่สุดนั่นทำให้ความเชื่อมั่นในวงการตลาดคริปโตเคจีลดลงจนแทบจะไม่เหลือแล้วราคาเหรียญต่างๆพากันดิ่งลงเหวและน้ำสร้างฝันร้ายที่สุดสำหรับนักลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี

ท้ายที่สุดเองเค้าถูกยื่นฟ้องล้มละลายและถูกตำรวจเข้าจับกุมในหลายข้อหาหนึ่งในข้อกล่าวหานั้นคือการฉ้อโกงและการฟอกเงินในการต่อสู้คดีในชั้นศาลทางเอสทางแซมแบงค์ได้มีข้อแก้ต่างให้ตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์แต่ท้ายที่สุดแล้วศาลตัดสินว่าแซมแบงค์กำลังพนันด้วยเงินของคนอื่นเนื่องจาก sambank นำเงินที่ได้จากนักลงทุนมาลงทุนต่อในอรัญมิดาของตนเองที่สภาพความเสี่ยงสูงหลังจบคำพิพากษาเขาได้รับโทษฐานชอบโกงและฟอกเงินด้วยอัตราโทษสูงสุดของแต่ละข้อหา

จากเหตุการณ์ fbf เองได้เป็นตำนานของวงการตลาดคริปโตเคอเรนซีที่น่าสนใจจนเป็นกรณีศึกษาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างหรือเงื่อนไขในการให้บริการรับการลงทุนในการเทรดอื่นๆด้านกลุ่มนักลงทุนมีการสนับสนุนข้อเรียกร้องให้ภาครัฐเข้ามามีส่วนในการกำกับดูแลการลงทุนตลาดคริปโตรวมถึงการตรวจสอบความโปร่งใสของระบบอัลกอริทึมอย่างblockchain และการสร้างความเชื่อมั่นในโลกยุคใหม่ที่ในโลกการเงินยุคใหม่ที่ไร้ตัวกลางแต่ในท้ายที่สุดคือตัวผู้ลงทุนเองที่จะต้องพึงตัดสินใจด้วยตนเองว่าการลงทุนนั้นย่อมมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาให้เข้าใจก่อนการตัดสินใจในการลงทุน

 

งานเขียนนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา 751737 Economics of Defi (Decentralized Finance)

สอนโดย ผศ.ดร.ณพล หงสกุลวสุ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ผลงานชิ้นนี้เขียนโดย นางสาวจีรญาดา ชุมดวง 661632002