5 Min

รักต้องห้ามข้ามสายพันธุ์ กับคำถามว่าสัตว์ ‘สมยอม’ ได้หรือไม่?

5 Min
778 Views
14 Feb 2022

ทุกวันนี้เหมือนจะเป็นยุคของความเสรีทางเพศเหนือยุคที่ผ่านๆ มา ความรักและความสัมพันธ์ดูจะไม่มี
ลิมิตใดๆ ทั้งนั้น แต่จริงๆ ลิมิตยังมีอยู่ และที่สำคัญก็คือความรักในเชิง ‘ชู้สาว’ กับเด็กและสัตว์

แน่นอน เราอยู่ในยุคที่ความสัมพันธ์ทางเพศระหว่างผู้ใหญ่กับเด็กและมนุษย์กับสัตว์เป็นสิ่งที่ ‘น่าขยะแขยง’ ในสายตาคนทั่วไป และเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในหลายต่อหลายประเทศด้วยซ้ำ

แต่ไม่ถึงร้อยปีที่แล้ว เอาจริงๆ ความรักระหว่างเพศเดียวกัน และความรักระหว่างคนต่างเชื้อชาติกันก็มีสถานะแบบที่ว่าเลย คือเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ขยะแขยง และผิดกฎหมายในหลายพื้นที่

เกริ่นมาแบบนี้ นักสิทธิ LGBT หลายคนอาจกำหมัดแล้วว่าจะเอาความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใหญ่สองคนที่ยินยอมพร้อมใจมาเทียบกันกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าและอีกฝ่ายอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถบอกได้ว่า ‘สมยอม’ หรือไม่มาเทียบกันได้อย่างไร?

แต่นี่แหละคือประเด็นที่ทำให้ยิ่งต้องคุยกัน เพราะมันมีข้อถกเถียงจริงๆ ซึ่งเราจะพูดถึง ‘ความรักข้ามสายพันธุ์’ เป็นหลักในที่นี้

บางคนอาจมองว่า ‘ความรักข้ามสายพันธุ์’ หรือ Zoophilia เป็นสิ่งวิปริตของ ‘คนกลุ่มน้อย’ แต่ในความเป็นจริง เท่าที่มีการสำรวจกันมา ในอเมริกาเองคนที่มีพฤติกรรมทางเพศกับสัตว์นั้นน่าจะมีราวๆ 6 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด ซึ่งแม้ว่านี่จะเป็นการสำรวจในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 แต่ก็เป็นรายงานที่น่าเชื่อถือสุดชิ้นหนึ่งที่มีมา (มันคือรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศที่ดังมากที่เรียกกันว่า Kinsey Report) แต่ในทางกลับกันถ้ามาดูผลสำรวจว่าประชากรอเมริกันเป็น LGBT กันเท่าไรทุกวันนี้ เราจะพบว่า Gallup สำรวจช่วงปี 2021 พบว่ามีประมาณ 5.6 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ใช่แล้ว แม้ว่าเราจะไม่มีข้อมูลอัปเดตว่าทุกวันนี้คนมีพฤติกรรมทางเพศกับสัตว์มากแค่ไหน แต่จากข้อมูลที่มี อย่างน้อยๆ เรายืนยันได้ว่าคนกลุ่มนี้ก็เคยมีจำนวนประชากรมากกว่ากลุ่ม LGBT ทุกวันนี้ด้วยซ้ำ

แน่นอนบางคนอาจรู้สึก ‘จะอ้วก’ กับข้อมูลนี้ แต่ต้องนึกอีกว่าใน Kinsey Report นั้น เขาสำรวจเจอกระทั่งว่า ผู้ชายครึ่งหนึ่งที่มีชีวิตในฟาร์มนั้นเคยร่วมเพศกับสัตว์อะไรสักตัวในฟาร์ม

มันฟังดูเหนือจริงมาก และบางคนอาจงงว่าทำไมไม่เคยได้ยินข้อมูลพวกนี้จนถึงทุกวันนี้? คำตอบคือ ก็เพราะมันเป็น ‘เรื่องต้องห้ามที่คนขยะแขยง’ และมันไม่ได้ต่างจากประเด็นเกี่ยวกับการ ‘รักร่วมเพศ’ ในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 เท่าไรหรอก ยุคนั้นก็ทำราวกับว่า ‘รักร่วมเพศ’ ไม่มีอยู่ และห้ามมีตัวละครที่มีพฤติกรรมแบบนี้ในหนังด้วยซ้ำ (ซึ่งทุกวันนี้แทบจะกลับหัวกลับหาง เพราะถ้าไม่มีตัวละคร LGBT สักตัว ซีรีส์ของ Netflix อาจจะสร้างมาไม่ได้)

นั่นแหละ ประเด็น ‘รักข้ามสายพันธุ์’ มันโดนเซนเซอร์ยับเลย และจริงๆ ใครกล้าออกมาพูดเรื่องพวกนี้ก็จะโดนคนถลึงตามองแน่ๆ แต่ประเด็นคือ มันมีอยู่แน่ๆ มีคนที่มี ‘รักข้ามสายพันธุ์’ แน่ๆ และคนพวกนี้ทุกวันนี้ก็เริ่มรวมตัวแล้ว เช่น สมาคมชื่อ ZETA-VEREIN ในเยอรมนีที่รวมตัวกันเพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับมนุษย์คนอื่นเกี่ยวกับ ‘รักข้ามสายพันธุ์’

แน่นอน ตรงนี้บางทีเราอาจรู้สึกขยะแขยงเกินกว่าจะยอมฟังมนุษย์พวกนี้ แต่ก็เช่นเคย นี่คือความรู้สึกแบบเดียวกันที่คนสมัยก่อนมีกับคน ‘รักร่วมเพศ’ ซึ่งในฐานะมนุษย์ด้วยกัน เราก็น่าจะเปิดใจฟังพวกเขาหน่อย

ประเด็นแรกเลยที่คนพวกนี้ยืนยันก็คือ มันมี ‘เส้นแบ่ง’ แน่ๆ ระหว่างการ ‘ข่มขืนสัตว์’ กับการ ‘ร่วมเพศกับสัตว์’ ในแบบที่ถูกที่ควร ซึ่งอันนี้สำคัญมาก เพราะคนทั่วๆ ไปจะมองว่าการร่วมเพศกับสัตว์คือการ ‘ข่มขืน’ ทั้งหมด และเป็นการ ‘ทารุณกรรมสัตว์’

แต่คนพวกนี้ยืนยันหนักแน่นว่าพวกเขา ‘รักสัตว์’ จริงๆ และพวกเขาต่อต้านการ ‘ทารุณกรรมสัตว์’ โดยประเด็นก็คือ คนจะชอบมองว่าการร่วมเพศกับสัตว์นั้นคือการสอดใส่เสมอ และมันจะทำให้อวัยวะเพศของสัตว์นั้นฉีกขาด ประเด็นคือ การร่วมเพศก็มีหลากรูปแบบ การทำออรัลเซ็กซ์หรือช่วยตัวเองร่วมกันมันก็ใช่ และยังมีวิธีการร่วมเพศที่จะทำให้สัตว์ปลอดภัย ไม่บาดเจ็บมากมาย และสิ่งเหล่านี้ไม่ควรจะถูกนับเป็นการ ‘ทารุณกรรมสัตว์’

นอกจากนี้คนกลุ่มที่มี ‘รักข้ามสายพันธุ์’ จะไม่ร่วมเพศถ้าสัตว์ ‘ไม่ยินยอม’ โดยพวกเขายืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ ‘ข่มขืน’ สัตว์ ซึ่งนี่เป็นการกล่าวอ้างที่ท้าทายมากๆ เพราะคนทั่วๆ ไปจะมองว่าสัตว์ ‘สมยอม’ ไม่ได้

ทีนี้ถ้าไปดูดีเบตจริงๆ ของคนที่ศึกษาสัตว์หรือนักฝึกสัตว์ คือเขาเถียงกันเข้มข้นเลยว่าสัตว์มีคอนเซปต์แบบ ‘ใช่/ไม่ใช่’ ‘เอา/ไม่เอา’ ‘ยอมรับ/ปฏิเสธ’ หรือไม่ และจริงๆ คือมีคนส่วนหนึ่งเลยที่ศึกษาสัตว์ และเชื่อว่าสัตว์บางชนิดมีความสามารถทางปัญญาที่จะ ‘ยินยอม’ ได้จริงๆ

ไอเดียพวกนี้มันก็เป็นผลทางอ้อมของแนวคิดเรื่องสิทธิ์สัตว์ที่ยุคหลังๆ มีรายงานต่างๆ ที่เคลมมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าสัตว์มีสติปัญญาในการรับรู้สิ่งต่างๆ และสามารถตอบสนองกับสิ่งแวดล้อมได้คล้ายกับมนุษย์ ซึ่งไอเดียแบบนี้ ด้านหนึ่งมันไปสนับสนุนความเชื่อที่ว่าสัตว์เองก็ ‘สมยอม’ ได้

ตรงนี้คนก็จะเอามาเทียบกับคนอีก เพราะว่าทุกวันนี้เราเริ่มใช้มาตรฐาน “ไม่ขัดขืนไม่เท่ากับสมยอม” ในมนุษย์แล้ว หรือพูดง่ายๆ คือเว้นแต่จะมีการตกลงร่วมเพศกันอย่างชัดเจน จะถือว่าอีกฝ่าย ‘สมยอม’ ไม่ได้ และทุกวันนี้มันไปไกลถึงขนาดว่าในระหว่างการร่วมเพศ อาจมีฝ่ายใดฝ่ายถึงถอนการ ‘สมยอม’ ได้ ถ้าเกิดมีพฤติกรรมบางอย่างที่ยอมรับไม่ได้เกิดขึ้น (เช่น แอบถอดถุงยาง) และนี่ทำให้กิจกรรมทางเพศที่ดำเนินต่อไปถือเป็นการ ‘ข่มขืน’

อะไรพวกนี้ทำให้ประเด็นเรื่องความสมยอมมันอีนุงตุงนังมาก เพราะในทางปฏิบัติ ซึ่งหมายถึงว่าถ้า ‘ใช้มาตรฐานเก่า’ ที่ถือว่า ‘ไม่ขัดขืนคือสมยอม’ แล้ว สัตว์จะสามารถ ‘สมยอม’ ได้จริง แต่ถ้าจะใช้ ‘มาตรฐานใหม่’ ที่ย้ำว่าการสมยอมต้องแสดงออกมาอย่างชัดแจ้งแล้ว สัตว์ก็ไม่มีทางสมยอมได้ เพราะสัตว์ ‘พูดไม่ได้’

ประเด็นพวกนี้ยิ่งยุ่งไปอีก เพราะไอ้นิยาม ‘สมยอม’ แบบใหม่ระหว่างคนกับคนนี้ก็เถียงกันอยู่ว่าควรจะใช้จริงๆ หรือไม่ ผู้ชายจำนวนมาก (โดยเฉพาะฝ่ายอนุรักษนิยม) ไม่แฮปปี้แน่ๆ และต้องการใช้ ‘มาตรฐานเก่า’ ในการสมยอม แต่คำถามคือ นี่จะกลับไปให้ความชอบธรรมให้กับ ‘การสมยอม’ ในสัตว์หรือไม่ เพราะคนจำนวนไม่น้อยนั้นถ้ามีโอกาสก็คงจะพร้อมจะ ‘พิสูจน์’ ให้เห็นแน่นอนว่าสัตว์ ‘สมยอม’ ได้แน่ๆ ในนิยามแบบเก่า

แน่นอน ดีเบตพวกนี้ซีเรียส และยังดำเนินอยู่ และมันก็น่าจะซีเรียสมากเพราะนี่คือเรื่อง ‘ต้องห้าม’ แท้ๆ เลยในสังคมตะวันตกที่มี ‘เสรีภาพในการแสดงออก’ เพราะทุกวันนี้ แม้คุณจะเปิดเผยว่าคนชอบเพศเดียวกันได้อย่างเสรี แต่ถ้าคุณเปิดเผยว่าคุณเป็นคนที่นิยม ‘ความรักข้ามสายพันธุ์’ แล้ว ก็แทบจะรับรองได้ว่าคุณอาจจะเสียสถานะสังคมทั้งหมดที่คุณมีเลย และความเลวร้ายนี้ก็จะเกิดกับคุณ แม้ว่าในที่ๆ คุณอยู่ การร่วมเพศกับสัตว์จะไม่ใช่สิ่ง ‘ผิดกฎหมาย’ ด้วยซ้ำ (ก็ไม่ต้องอะไรมาก ในญี่ปุ่นและบราซิล ไม่ว่าจะเป็นการร่วมเพศกับสัตว์หรือทำหนังโป๊สัตว์ล้วนไม่ผิดกฎหมายทั้งนั้น แต่ใครล่ะจะกล้าออกมาเปิดตัวว่าตัวเองมีรสนิยมทางเพศกับสัตว์จริงๆ? เพราะเราคงจะเดาผลในทางสังคมได้ไม่ยากเลย)

ทั้งหมดที่เล่าให้ฟังนี้ ก็อยากให้ชวนคิดกันว่าในยุคที่มนุษย์ค่อยๆ ‘ขยายพรมแดนทางเพศ’ ให้กับมนุษยชาติ สุดท้ายอะไรๆ มันจะไปจบตรงไหน? เพราะก็อย่างที่บอกตั้งแต่ต้นๆ สิ่งที่คนมี ‘รักข้ามสายพันธุ์’ เจอ ณ ตอนต้นศตวรรษที่ 21 มันก็ไม่ได้ต่างจากสิ่งที่คน ‘รักร่วมเพศ’ เจอตอนต้นศตวรรษที่ 20 เลย

และใครจะไปรู้ สักวัน Netflix อาจต้องมีตัวละครที่มี ‘รักข้ามสายพันธุ์’ สักตัวในซีรีส์เป็นมาตรฐานก็ได้

อ้างอิง