3 Min

ปลากุเลาเค็มตากใบ ‘ไม่ปลอม’ แต่ทั้งอำเภอมีเพียง ‘เจ้าเดียว’ ที่บอกว่า ‘ได้มาตรฐาน 5 ดาว’ จนได้ขึ้นโต๊ะ APEC

3 Min
1194 Views
17 Nov 2022

ปลากุเลาตากใบ ซึ่งถูกตั้งฉายาว่าราชาปลาเค็มได้รับการประชาสัมพันธ์จากสื่อภาครัฐว่าเป็นอาหารที่จะใช้เป็น Soft Power ในเมนูจัดเลี้ยงสำหรับผู้เข้าร่วมการประชุม APEC 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ แต่กลุ่มธุรกิจประมงในอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สงสัยว่าทำไมไม่มีผู้จำหน่ายในพื้นที่รายใดที่ได้รับการติดต่อซื้อปลากุเลาไปขึ้นโต๊ะในเวทีเอเปคเลย จนเกิดคำถามว่าเป็นปลากุเลาเค็มปลอมหรือไม่? แต่ในที่สุด ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบก็ออกมาชี้แจงว่าสินค้าจากร้านของตนเป็นปลาเค็มตากใบแท้ๆและเป็นร้านเดียวที่ได้รับเลือกนำไปจัดเลี้ยงในเวทีเอเปคครั้งนี้

เฟซบุ๊กเพจของร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนตากใบโพสต์ชี้แจงช่วงค่ำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2565 หลังจากมีการรายงานข่าวโดยศูนย์ข่าวภาคใต้ ThaiPBS ว่า ผู้ค้าปลากุเลาเค็มตากใบตั้งข้อสงสัยว่าปลาเค็มตากใบในเวทีเอเปคมาจากไหนกันแน่ และทางร้านป้าอ้วนฯ ยืนยันว่าปลากุเลาเค็มเอเปคไม่ปลอมแต่ที่กลุ่มผู้ค้าปลากุเลาเค็มในตากใบไม่รู้เรื่องว่าสินค้าของใครได้รับเลือกไป เป็นเพราะก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่มาซื้อปลากุเลาเค็มของทางร้านไปจำนวน 1 ตัวเพื่อนำไปชิมและภายหลังตัวแทนของรัฐสั่งซื้อเพิ่มเติมผ่านระบบออนไลน์ของทางร้าน

อย่างไรก็ดี ทางร้านมีผู้สั่งซื้อปลาวันละหลายหมื่นบาทในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาหลังกระแสข่าวเอเปคจึงไม่ทันได้ตรวจสอบในตอนแรกว่าใครเป็นผู้ซื้อไปแต่ภายหลังยืนยันได้ว่าตัวแทนของหน่วยงานภาครัฐสั่งปลากุเลาเค็มตากใบจากร้านของตนเรื่องนี้จึงเป็นข้อผิดพลาดด้านการสื่อสารภายในกลุ่มผู้ค้า

ทั้งนี้ ร้านปลากุเลาเค็มป้าอ้วนฯ ตั้งอยู่ในตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ และระบุว่า ปลากุเลาเค็มตากใบจากร้านของตนเป็นเพียงรายเดียวในตากใบ ที่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ชุมชนที่น่าเชื่อถือ (มผช.) ระดับ 5 ดาว จนได้รับเลือกไปขึ้นโต๊ะจัดเลี้ยงในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 หรือ APEC 2022

อย่างไรก็ดี ปลากุเลาเค็มที่วางจำหน่ายในไทยไม่ได้มีที่มาจากตากใบเพียงแหล่งเดียว เพราะ รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยระบุก่อนหน้านี้ว่าปลากุเลาเค็มที่นำมาจัดเลี้ยงต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม APEC นอกจากจะเป็นสินค้าเลื่องชื่อของอำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาสแล้วยังเป็นสินค้าโด่งดังของจังหวัดปัตตานีด้วย

รองโฆษกฯ ได้อ้างถึงศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หน่วยงานรัฐซึ่งเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมการแปรรูปอาหารทะเลเพื่อสร้างอาชีพและรายได้สู่ชุมชน โดยมีการอ้างถึงกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัยซึ่งเป็นเครือข่ายประมงในจังหวัดปัตตานี ก็เป็นหนึ่งในผู้จัดหาวัตถุดิบและจัดทำปลากุเลาเค็มนอกเหนือจากแหล่งปลาเค็มตากใบ

ขณะที่ มูหามะสุกรี มะสะนิง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโอรังปันตัย ให้สัมภาษณ์กับ BrandThink เพิ่มเติมว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาชุมชนประมงในจังหวัดปัตตานีเป็นหนึ่งในแหล่งจับปลากุเลาที่ชุกชุมมากในไทยหลังจากที่มีโครงการปะการังเทียมฟื้นฟูแหล่งน้ำในทะเลเมื่อหลายปีก่อนทั้งยังมีการส่งวัตถุดิบไปให้กลุ่มผู้ผลิตปลากุเลาเค็มที่ตากใบด้วยเช่นกัน

ส่วนชื่อทางวิทยาศาสตร์ของปลากุเลา คือ Eleutheronema tetradactylum แต่เนื้อหาในรายงานฉบับหนึ่งของศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงอ่าวไทยตอนล่าง (สงขลา) กองวิจัยและพัฒนาประมงทะเล ซึ่งได้รับการเผยแพร่เมื่อปี 2562 เรียกปลาชนิดนี้ว่าปลากุเรา’ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3tO5Rgp)

ปลากุเลา (หรือกุเรา) พบได้บริเวณชายฝั่งทะเลทั้งในจังหวัดตราด จันทบุรี ระยอง ชลบุรี สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส แต่เพราะเนื้อปลากุเรามีรสชาติดี จึงมีราคาสูง นิยมขายเป็นปลาสดหรือปลาเค็ม พร้อมระบุว่าปลากุเราเค็ม อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาสมีชื่อเสียง ขายได้กิโลกรัมละ 1,200-1,500 บาท และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 72.9 ล้านบาท (อ้างอิงข้อมูลกรมประมงในปี 2561)

อ้างอิง