3 Min

ร่วมพิสูจน์แนวคิด ESG จาก GC การดำเนินธุรกิจและขับเคลื่อนองค์กรที่ดี ในวันนี้และอนาคต

3 Min
695 Views
17 Jun 2022

เมื่อพูดถึงเรื่องของธุรกิจ เราอาจนึกถึงการสร้างรายได้ การเติบโตทางการตลาด หรือการสร้างชื่อเสียง แต่มันอาจจะไม่ใช่เสมอไป สำหรับการดำเนินธุรกิจยุคใหม่ สิ่งเหล่านี้อาจไม่เพียงพอ

โดยเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการดำเนินธุรกิจในแต่ละรูปแบบเกี่ยวข้องกับโลกใบใหญ่ สภาพแวดล้อมที่เราอยู่อาศัย และผู้คนโดยตรง ทำให้ธุรกิจยุคใหม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ ‘ความยั่งยืน’ มากยิ่งขึ้น 

แต่ความยั่งยืนอาจจะเป็นคำที่เราเห็นบ่อย จนหลายคนรู้สึกว่า มันเป็นเพียงแค่คำทางการตลาด หลายองค์กรได้นำแนวคิด ESG มาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ เพราะเป็นการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน ผ่านรูปแบบและกฎเกณฑ์ที่จับต้องได้จริง

โดย GC เองก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่มีการขับเคลื่อนหลายอย่าง และจับมือกับอีกหลายภาคส่วนลงมือทำไปด้วยกัน  ทำให้เราเข้าใจในเนื้อหาและเรื่องราวของ ESG มากยิ่งขึ้น วันนี้เราจะชวนทุกคนมาพิสูจน์กันว่า ความยั่งยืนที่พวกเขาว่าไว้จะเป็นอย่างไร ESG จะจับต้องได้จริงไหม ติดตามได้ในบทความนี้เลย 

ก่อนอื่นเราต้องขออธิบายก่อนว่า ESG คืออะไร? ESG คือตัวอักษรย่อของคำ 3 คำ E = Environment สิ่งแวดล้อม S = Social สังคม และ G = Governance ธรรมาภิบาล 

คำถามถัดมาคือ แล้วทำไมธุรกิจจึงต้องหันมาใส่ในเรื่องนี้ ทำไมแค่เรื่องผลประกอบการ หรือกำไร ถึงไม่เพียงพออีกต่อไป? 

ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ จะถูกสะท้อนออกมาผ่านตัวอักษรแต่ละตัว และสะท้อนออกมาผ่านคำในแต่ละคำ 

E = Environment 

‘เพราะเรายังต้องหายใจอยู่ทุกวัน’ ธุรกิจจึงต้องใส่ใจสิ่งแวดล้อม

อย่างที่เราทราบกันดีว่า ปัญหาภาวะโลกรวน (Climate Change) เป็นปัญหาวิกฤตครั้งยิ่งใหญ่ที่พวกเรากำลังเผชิญ โดย GC ก็เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่ให้ความสำคัญและเน้นย้ำในการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ มีการตั้งหมุดหมายเรื่องของ Net Zero 2050 หรือการตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050 และต่อจากนี้ไป ทาง GC เองจะดำเนินธุรกิจผ่าน 3 แนวทาง 

  1. Efficiency-Driven ปรับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และนำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาประยุกต์ใช้เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  1. Portfolio-Driven เปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจในระยะยาว มุ่งสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ นำแนวคิด Circular Economy มาใช้ดำเนินธุรกิจ เช่น การผลิตพลาสติกชีวภาพ ที่สลายตัวได้ตามธรรมชาติ, การผลิตพลาสติกรีไซเคิล, การร่วมมือกับพันธมิตร นำพลาสติกใช้แล้วมาผลิตเป็นสินค้า Upcycling ที่มีมูลค่าเพิ่ม 
  1. Compensation-Driven เพราะแค่การไม่ปล่อยอาจจะยังไม่พอ เราต้องหาวิธีการในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่อดีตด้วย โดยจะมีแนวทางในการประยุกต์การดูดซับคาร์บอนฯ ผ่าน 2 วิธีการคือ 1. วิธีการทางธรรมชาติ เช่น การปลูกป่า โดยล่าสุด GC ได้ปลูกป่าช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ ณ พื้นที่สำนักงานระยองกว่า 25 ไร่ และ 2. วิธีการทางเทคโนโลยี เช่น การแสวงหาเทคโนโลยีดูดซับ กักเก็บ และนำคาร์บอนฯ กลับมาใช้

S = Social

“เพราะเราต้องอยู่ในสังคมร่วมกัน” ธุรกิจจึงต้องดูแลสังคม

GC เป็นองค์กรด้านเคมีภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก โดยสุขภาพของผู้คนก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่พวกเขาคำนึงถึง ท่ามกลางวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมา GC ได้ร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ในโครงการ ‘แยกขวดช่วยหมอ’ ส่งมอบชุด PPE Level 2 จำนวน 6,345 ชุด* เพื่อบุคลากรทางการแพทย์สวมใส่ ลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ สิ่งที่น่าสนใจคือ ชุด PPE เหล่านั้นถูกผลิตขึ้นมาจาก ขวดพลาสติกใช้แล้วชนิด PET จำนวน 6.27 ล้านขวด* ที่ถูกรวบรวมจาก จุดรับพลาสติกใช้แล้ว (YOUเทิร์น Drop Points) ที่ตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ มากกว่า 100 แห่ง* นับว่าเป็นการได้ดูแลด่านหน้าอย่างคุณหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ และที่สำคัญได้นำเอาศาสตร์การจัดการบริหารพลาสติกไปใช้ในภารกิจนี้ด้วย

เป็นการดูแลสังคมที่ประยุกต์ใช้ทั้งแนวคิด นวัตกรรม ความเชี่ยวชาญ และความร่วมมือจากทุกคนในสังคม เพื่อช่วยให้พวกเราทุกคนก้าวผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบาก และเดินต่อไปได้อย่างงดงามและยั่งยืน 

G = Governance ธรรมาภิบาล 

‘เพราะเรามีส่วนได้เสียจากการดำเนินธุรกิจ’ ธุรกิจจึงต้องโปร่งใส

หากเราสังเกตให้ดี การดำเนินธุรกิจก็เป็นเหมือนการย่อส่วนของประเทศ ภาพการดำเนินธุรกิจก็สามารถสะท้อนภาพต่างๆ ของประเทศได้เช่นกัน องค์กรที่ดีจำเป็นต้องเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างจิตสำนึกให้ผู้คนในสังคมอีกด้วย 

การันตีจากรางวัลเกียรติยศแห่งคุณธรรม จริยธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต รางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใส ครั้งที่ 10 (NACC Integrity Awards) จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 

รวมถึงการเข้าร่วมโครงการแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) และเข้าร่วมเป็น CAC Change Agent เพื่อขยายเครือข่ายธุรกิจโปร่งใสไปยังบริษัทคู่ค้า ผลักดันบริษัทในกลุ่มที่มีความพร้อม เข้าร่วมเป็นสมาชิก CAC เพิ่มขึ้น 

นอกเหนือจากนั้น GC ยังมี 132 เกรดผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการรับรองคาร์บอนฟุตพรินท์ของผลิตภัณฑ์ และ 84 เกรดผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการรับรองฉลากลดโลกร้อน 

สิ่งเหล่านี้เป็นตัวพิสูจน์ได้เลยว่า GC มีผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เปิดเผยได้ และใส่ใจคุณภาพชีวิตของผู้บริโภคอย่างแท้จริง 

เรื่องราวเหล่านี้เป็นบทพิสูจน์ความมุ่งมั่นของ GC ที่เป็นการตอกย้ำ ‘เคมี…ที่เข้าถึงทุกความสุข’ ผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจตามหลัก ESG

GC พร้อมส่งมอบคุณค่าที่ใกล้ตัวผู้คน และส่งต่อโลกยั่งยืนต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: https://bit.ly/3O26B9N 

#GCร่วมส่งต่อโลกยั่งยืน #GCยิ่งใกล้คุณยิ่งต้องดี #GCChemistryforBetterLiving