2 Min

ช้างกินพลาสติกจนตาย ‘ปัญหาใหญ่’ ในศรีลังกา รวม 8 ปี ตายไป 20 ตัว

2 Min
416 Views
19 Jan 2022

ศพช้างป่านอนอยู่ในกองขยะ | The Guardian

‘ปัญหาขยะพลาสติก’ เป็นปัญหาสิ่งแวดล้อมขนาดยักษ์ที่มนุษย์เผชิญ แม้ว่าจะมีการพูดถึงเรื่องนี้มาหลายปี แต่ปัญหาขยะกลับยังไม่ถูกจัดการอย่างจริงจังมากนักทั้งยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผล

กระทบของขยะพลาสติกต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นักอนุรักษ์และสัตวแพทย์ในศรีลังกาได้ออกมารายงานว่าพบซากช้างป่า 2 ตัวตายใกล้กับหลุมขยะฝังกลบทางตะวันออกของศรีลังกา และในช่วง 8 ปีที่ผ่านมามีช้างป่าเสียชีวิตอย่างน้อย 20 ตัวจากการกินขยะพลาสติกในกองขยะของหมู่บ้านปัลลักคาดู (Pallakkadu) ในเขตเมืองอัมปารา (Ampara) หากไม่มีการแก้ไขปัญหาขยะบริเวณนี้กำลังฆ่าช้างและสัตว์อื่นๆ ต่อไป

นิฮาล พุชมากูมารา (Nihal Pushpakumara) สัตวแพทย์ซึ่งทำการตรวจสอบซากช้างทั้ง 2 ตัวที่พบใกล้กับบ่อขยะระบุว่าในท้องของพวกมันเต็มไปด้วยขยะ ทั้งพลาสติก โพลิเอธิลีน กระดาษห่ออาหาร และอื่นๆ แต่กลับไม่มีอาหารของช้างตามปกติอยู่ในท้องของพวกมันเลย

ช้างป่าในศรีลังกาลดจำนวนลงเรื่อยๆ จากปัญหาความเสื่อมโทรมของป่าเมื่อเมืองขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ บางตัวต้องเข้ามาในเมืองเพื่อหาอาหาร และหลายตัวถูกฆ่าเพราะเข้ามาทำลายพื้นผลของเกษตรกร แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือช้างหลายตัวหิวโหยและเลือกกินขยะพลาสติกหรือแม้แต่ของมีคมที่ทำลายระบบย่อยอาหารของพวกมันจนนำไปสู่ความตาย

ข่าวการตายของช้างป่า 2 ตัวล่าสุดสร้างความสะเทือนใจให้กับชาวศรีลังกา เนื่องจากช้างเป็นสัตว์ที่ได้รับความเคารพตามความเชื่อของท้องถิ่น แต่ถึงอย่างนั้นจำนวนช้างในศรีลังกากลับลดลงเรื่องๆ จากราว 14,000 ตัวในศตวรรษที่ 19 และจากการสำรวจในปี 2011 พบว่ามีช้างอยู่เพียง 6,000 ตัวเท่านั้นและเชื่อว่าในปัจจุบันอาจลดลงอีก

ในปี 2017 รัฐบาลศรีลังกาได้มีการประกาศรีไซเคิลขยะในบ่อฝังที่อยู่ใกล้กับเขตอุทยานซึ่งมีอยู่ราว 54 แห่งเพื่อป้องกันปัญหาช้างกินขยะพลาสติก ทั้งยังมีการสร้างรั้วไฟฟ้ารอบพื้นที่เพื่อป้องกันสัตว์อื่นๆ ด้วย แต่ดูเหมือนว่าในทางปฏิบัติจะไม่ได้ถูกนำไปใช้อย่างเต็มรูปแบบ มีรายงานว่ารั้วไฟฟ้าถูกฟ้าผ่าจนเสียหายและยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ทำให้ช้างยังคงเข้าไปควานหาขยะมาเติมให้อิ่มท้องได้

ปัญหาขยะพลาสติกไม่ได้สร้างผลกระทบต่อช้างเท่านั้น ภาพช้างกับกองขยะเป็นสิ่งที่ชุมชนในบริเวณเมืองปัลลักคาดูเห็นกันบ่อยครั้ง และสร้างความกังวลให้กับชาวบ้านว่าอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ มีหลายครั้งที่ชาวบ้านต้องใช้ประทัดไล่สัตว์ต่างๆ ออกไปจากหมู่บ้านและพยายามสร้างรั้วไฟฟ้าของตัวเอง เพื่อป้องกันพื้นที่เกษตรของตัวเอง

การป้องกันตัวของชาวบ้านอาจส่งผลกระทบต่อช้างป่าได้และชาวเมืองปัลลักคาดูได้เรียกร้องขอให้รัฐบาลเข้ามาดูแลป้องกันความปลอดภัยของทั้งชาวเมืองและช้างเอง เพื่อปัญหาลุกลามและช้างลดจำนวนลงไปมากกว่าในปัจจุบัน

อ้างอิง