3 Min

รู้มั้ยว่าการกินเหล้าแล้ว “หน้าแดง” ไม่ได้เกี่ยวกับเมาหรือไม่เมา

3 Min
23881 Views
06 Jan 2021

เคยกินเหล้าแล้วหน้าแดง หรือเคยเห็นเพื่อนๆ กินเหล้าแล้วหน้าแดงมั้ยครับ ? แล้วเคยคิดมั้ยครับว่าเวลาเห็นคนกินเหล้าแล้วหน้าแดงนี่แสดงว่าเขาต้อง “เมา” แล้วแน่ๆ?

จริงๆ มันไม่เป็นแบบนั้นนะครับ เพราะคนกินเหล้าแล้วหน้าแดงจำนวนมากนี่กินเหล้าแข็งมากแบบกินเท่าไรก็ไม่เมาด้วยซ้ำ ส่วนคนที่กินเหล้าแล้วหน้าไม่แดง ก็ไม่ได้หมายความว่าเขากินเข้าไปแล้วจะไม่เมา เพราะคนเมาจนเละเทะแบบหน้าไม่แดงเลยก็ปกติ

แล้วทำไมคนกินเหล้าแล้วหน้าแดงล่ะ? เราจะค่อยๆ อธิบายนะครับ

ขอเริ่มจากการที่การกินเหล้าแล้วหน้าแดงนี่ ฝรั่งเขามีศัพท์เรียกกันเลยว่า Asian Flush ซึ่งชื่อนี้ก็มาจากสังคมอเมริกัน เพราะเขาสังเกตกันว่าคนที่มีเชื้อสายจากเอเชียจะชอบกินเหล้าแล้วหน้าแดง

คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียส่วนใหญ่ก็คือเชื้อสายจีน ซึ่งเขาก็มาดูต่ออีก เขาก็พบว่าคนเชื้อสายเกาหลีหรือญี่ปุ่นก็มักจะมีอาการแบบเดียวกัน

มันเกิดอะไรกันขึ้น?

คำตอบง่ายๆ คือ คนที่มีเชื้อสายเหล่านี้ ร่างกายจะขาดเอนไซม์ตัวหนึ่ง (ในความหมายว่าผลิตได้น้อยกว่าคนเชื้อสายอื่นๆ ไม่ใช่ไม่มีเลย) ซึ่งมันส่งผลทำให้หน้าแดง นี่เป็นผลจากพันธุกรรม และคนในเอเชียตะวันออกราวๆ 1 ใน 3 มีอาการแบบนี้หมด

และที่โหดกว่านั้น “ความบกพร่องทางพันธุกรรม” ตัวนี้สามารถส่งต่อมาได้จากทางพ่อหรือทางแม่ก็ได้ พูดง่ายๆ คือรับพันธุกรรมนี้มันมาแค่เสี้ยวเดียว อาการ “หน้าแดง” ก็เกิดได้แทบไม่ต่ำกว่าที่รับมาจากทั้งทางพ่อและทางแม่เต็มๆ

แล้วทำไมหน้าถึงแดง? อันนี้ต้องลงลึกหน่อยว่าเวลากินเหล้าเข้าไปร่างกายจะจัดการกับมันยังไง

มนุษย์ทุกคน เวลากินเหล้า ร่างกายก็จะดูดซับสารชื่อ Ethanol เข้าไปในร่างกาย ซึ่งสารตัวนี้คือสารตัวที่ทำให้เกิดอาการเมาขึ้น เพราะมันจะไปแทรกแซงการทำงานของระบบประสาท

อย่างไรก็ดี ร่างกายก็รับรู้ว่า Ethanol เป็นสิ่งแปลกปลอมที่เป็นพิษ ดังนั้น มันจึงจะมีกระบวนการย่อยสลายต่อ ซึ่งกระบวนการนี้เกิดขึ้นที่ตับ

การย่อยสลาย Ethanol ที่ตับ มันจะใช้เอนไซม์ตัวหนึ่งในการย่อย โดยการย่อยสลายมันจะมีผลผลิตอย่างหนึ่งคือสารชื่อ Acetaldehyde ซึ่งสารตัวนี้ไม่ได้ทำให้เราเมา แต่ว่ากันว่าทำให้เกิดอาหารแฮงก์ในภายหลัง พูดง่ายๆ คือร่างกายเห็น Acetaldehyde เป็นสารพิษ มันจึงส่งไปย่อยสลายอีกเป็นรอบที่ 2

ในรอบที่สอง การย่อยสลาย Acetaldehyde ก็ต้องทำที่ตับอีก และต้องใช้เอนไซม์อีกตัวหนึ่ง เพื่อย่อยสลายมันเป็น Acetate ซึ่งที่นี้เป็นสารให้พลังงานกับร่างกายแล้ว ร่างกายก็ไม่ย่อยสลายต่อแล้ว ก็เอา Acetate ให้ใช้ให้พลังงานอะไรก็ว่าไป

ซึ่งประเด็นเรื่องหน้าแดง มันอยู่ที่การย่อยสลายรอบที่ 2 นี่แหละครับ เพราะด้วยพันธุกรรม คนเชื้อสายเอเชียตะวันออก มันจะมี “ความบกพร่องทางพันธุกรรม” ให้ร่างกายผลิตเอนไซม์ที่จะทำการย่อยสลาย Acetaldehyde ไปเป็น Acetate ได้ไม่ดี และทำให้ Acetaldehyde ค้างอยู่ในร่างกายนานกว่าคนที่ย่อยสลายได้ดี

สำหรับ Acetaldehyde แม้ว่ามันจะไม่ได้ส่งผลร้ายแรงอะไร แต่ร่างกายก็เห็นมันเป็นสารพิษ เมื่อค้างอยู่ในระบบไหลเวียนของร่างกายนานๆ ระบบการต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมอย่างระบบภูมิคุ้มกันก็จะเริ่มทำงาน หรือพูดให้ง่ายกว่านั้น การมี Acetaldehyde ค้างอยู่ในระบบไหลเวียนของร่างกาย มันทำให้เกิดอาการคล้ายๆ อาการ “แพ้”

แต่อาการนี้มันก็เกิดเบาๆ เท่านั้น ผลก็เลยทำให้มันมีอาการแดงที่ผิวหนัง ซึ่งพอคนเห็นก็จะรู้สึกว่าเรา “หน้าแดง” (ทั้งที่จริงๆ มันแดงหลายส่วน แต่อยู่ในร่มผ้า มองไม่เห็น)

กล่าวโดยสรุปคือ ที่คนเอเชียตะวันออก “หน้าแดง” ก็เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยสลาย Acetaldehyde ได้ดีนั่นเอง

ทีนี้ ถ้ากลับมาดูกระบวนการ เราก็จะเห็นว่าปัญหามันอยู่ที่การ “ย่อยสลายรอบสอง”หรือการย่อยสลาย Acetaldehyde ไปเป็น Acetate เท่านั้น คนเชื้อสายเอเชียตะวันออกไม่ได้ไม่สามารถย่อยรอยแรก หรือย่อยสลาย Ethanol ไปเป็น Acetaldehyde ได้ด้อยกว่าคนเชื้อสายอื่นๆ หรือพูดง่ายๆ ก็คือร่างกายคนเอเชียตะวันออกก็สามารถย่อยสลาย “สารทำให้เมา” ในเหล้าอย่าง Ethanol ได้พอๆ กับเผ่าพันธุ์อื่นๆ ปัญหามันอยู่ที่การจัดการกับ Acetaldehyde ได้ไม่ดี ซึ่งการที่มันค้างอยู่ในร่างกายมันไม่ได้ทำให้เมา แค่ทำให้หน้าแดง ดังนั้น การกินเหล้าแล้วหน้าแดงก็ไม่ได้หมายความว่าจะเมาง่ายกว่าชาวบ้าน หรือกระทั่งจะหมายความว่ากำลังเมาอยู่ด้วยซ้ำ

ซึ่งนี่ก็ไม่แปลกเลยที่หนึ่งในชนชาติที่ลือชื่อว่ากินเหล้าแข็งมากๆ ของโลก จะเป็นชนชาติที่กินเหล้าแล้วก็หน้าแดงกันเป็นปกติ (แต่ไม่เมา) อย่างเกาหลี

ดังนั้น ต่อไปนี้ เห็นใครกินเหล้าแล้วหน้าแดง ก็อย่าไปคิดว่าเขาเมานะครับ เขาอาจแค่มีเชื้อสายเอเชียตะวันออกเท่านั้นเอง