นักวิทย์ฯ ปรับเข็มนาฬิกาวันสิ้นโลก เราเหลือเวลาอีก 100 วินาที ก่อนถึงวันล่มสลาย
เป็นธรรมเนียมประจำทุกปี ที่นักวิทยาศาสตร์ด้านปรมาณู (BAS) จะมาร่วมวิเคราะห์และปรับเข็ม ‘นาฬิกาวันสิ้นโลก’ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘Doomsday Clock’ เพื่อส่งสัญญาณเตือนมนุษยชาติว่า “เรายังเหลือเวลาอีกเท่าไร? ”
Doomsday Clock คืออะไร? อธิบายอย่างรวบรัด มันเป็นกิจกรรมการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ที่นักวิทยาศาสตร์ต้องการชี้ให้เห็นว่า ทุกวันนี้สถานะของโลกเรากำลังเดินทางเข้าใกล้จุด ‘วิกฤต’ ที่พอจะทำให้ ‘โลกแตก’ ได้แล้วหรือยัง
มันไม่ได้หมายความว่าเราเหลือเวลาเท่าไหร่จริงๆ แต่เป็นการเปรียบเทียบผ่านเข็มนาฬิกาที่รู้กันในเชิงสากลว่าหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง แล้วถ้าหากว่าเวลาเที่ยงคืนคือ ‘วันสิ้นโลก’ ตอนนี้เรายังเหลือเวลาอีกกี่ชั่วโมง นาที หรือวินาที ให้ต้องเตรียมพร้อมหรือแก้ไขข้อผิดพลาดที่เราทำมา หรือเพื่อยืดอายุเวลาของเราต่อไปในภายภาคหน้า
สำหรับปี 2022 นี้ เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลกถูกตั้งไว้ที่ 100 วินาทีก่อนถึงเวลาเที่ยงคืน หรือ 1 นาที 40 วินาที ก่อนถึงเวลาหายนะบังเกิด ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งไว้เมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้ ไม่ได้ขยับเวลาต่างไปจากเดิมเลย หรืออธิบายได้อีกอย่างว่า “สถานะของมนุษยชาติยังไม่ได้แย่ไปกว่าเดิมมากนัก”
แต่ถึงกระนั้น นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่า การที่เวลายังคง ‘เหลือ’ เท่าเดิม ไม่ได้หมายความว่าเรารักษาระยะห่างจากช่วงเวลาวิกฤตเอาไว้ได้ แต่มันหมายถึงเรายังอยู่ในช่วงวิกฤตเหมือนเดิม โดยยังไม่อาจหนีห่างจากช่วงเวลาอันเลวร้ายออกไปได้
สาเหตุที่ทำให้ ‘เข็มนาฬิกาวันสิ้นโลก’ ถูกตั้งไว้ที่ตัวเลขดังกล่าว ยังคงวัดจากประเด็นการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของชาติมหาอำนาจที่ยังไม่มีทีท่าจะว่าจะเบาบางลง รวมถึงการแก้ไขปัญหาวิกฤตโลกร้อนที่ยังไม่ค่อยคืบหน้าไปกว่าเดิมสักเท่าไหร่นัก
นอกจากนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังนับรวมเรื่องการระบาดของโควิด-19 เข้าไว้ด้วย ดังที่เห็นได้ชัดว่ารัฐบาลของประเทศต่างๆ ยังขาดศักยภาพในการรับมือกับสถานการณ์เร่งด่วนได้ไม่ดีพอ
สำหรับเรื่องราวของ ‘นาฬิกาวันสิ้นโลก’ นั้น ในความเดิมมันถูกสร้างขึ้นใน ค.ศ. 1947 โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยที่ทำงานด้านปรมาณู ที่ตระหนักว่าระเบิดปรมาณูอาจเป็นภัยร้ายแรงและอาจนำไปสู่การล่มสลายของโลกได้
‘นาฬิกาวันสิ้นโลก’ ถูกอวดโฉมขึ้นครั้งแรกบนปกวารสาร BAS-Bulletin of the Atomic Scientists ที่ว่าด้วยเรื่องวิทยาศาสตร์ทางปรมาณู ฉบับเดือนมิถุนายน 1947 ซึ่งในครั้งแรกนักวิทย์ฯ ลงความเห็นว่า ช่วงเวลาก่อนถึงวันสิ้นโลกไว้ที่เวลา 23:53 น. หรืออีก 7 นาทีก่อนถึงเที่ยงคืน หลังจากนั้นเข็มนาทีและวินาทีก็ค่อย ๆ ขยับเข้าใกล้เวลาเที่ยงคืนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามท่าทีของรัฐบาลแต่ละประเทศที่ไม่ยอมลดราวาศอกเรื่องการสะสมอำนาจผ่านอาวุธ
แต่ตลอด 75 ปีที่ผ่านมาของการนำ ‘นาฬิกาวันสิ้นโลก’ มาใช้เป็นสัญลักษณ์สื่อสารถึงวิกฤตโลก เข็มนาฬิกาก็ไม่ได้ถูกปรับ ‘ลดลง’ เพียงด้านเดียว ในบางปีเข็มนาฬิกาได้ถูกขยับออกห่างเวลาเที่ยงคืนออกไปหลายนาที เช่น ปี 1963 นาฬิกาถูกปรับให้ห่างออกไป 12 นาที เพราะสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตลงนามสนธิสัญญาห้ามการทดสอบอาวุธ หรือในปี 1991 ที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตลงนามสนธิสัญญาลดการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ หลังสงครามเย็นสงบลง
ในช่วงต้นของการวิเคราะห์และแสดงออกผ่าน ‘นาฬิกาวันสิ้นโลก’ นักวิทยาศาสตร์คำนวณผ่านประเด็นการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ยุทธวิธีทางการทหาร เป็นปัจจัยหลัก แต่นับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา ประเด็นเรื่อง ‘การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ’ หรือ ‘วิกฤตโลกร้อน’ ได้ถูกนำเข้ามาหารือในบทวิเคราะห์มากขึ้น เพราะจากข้อมูลสามารถอธิบายว่าได้ว่าประเด็นนี้เป็นภัยต่ออารยธรรมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ดังที่ภาพมันปรากฏชัดแล้วในปัจจุบัน
ในความเห็นของทีมงานที่การวิเคราะห์ พวกเขาหวังว่าจะไม่มีวันที่เข็มนาฬิกาถูกปรับไปอยู่ในเวลาเที่ยงคืนพอดี เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เข็มนาฬิกาขยับไปถึงตัวเลขดังกล่าว ก็หมายความถึงการเกิดสงครามนิวเคลียร์ หรือวิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้กลายเป็นหายนะที่ทำลายล้างมนุษยชาติไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง
กล่าวได้ว่า เมื่อเวลานั้นมาถึงจริงๆ ก็คงไม่เหลือใครมาคอยปรับเข็มนาฬิกาได้อีกแล้ว
อ้างอิง
- The Guardian. ‘Stuck in perilous moment’: Doomsday Clock holds at 100 seconds to midnight. https://bit.ly/3fIWAiq
- CNN. The Doomsday Clock reveals how close we are to…doom> https://cnn.it/3Azm7o5