‘จานนี้อร่อย’ ‘กับข้าวจานนี้กินกี่ทีก็อร่อย’ หรือ ‘ร้านนี้ไม่อร่อย’ อาจดูเป็นคำพูดธรรมดาที่เราพูดกันอยู่ทุกวัน แต่รู้หรือไม่ว่าถ้าเราย้อนเวลาไปในอดีตแล้วพูดคำนี้ พวกเขาอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังหมายถึงอะไร
เพราะก่อนที่จะพูดคำว่า ‘อร่อย’ (และไม่อร่อย) จนติดปาก มีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าคนไทยโบราณมักจะพูดคำว่า ‘กินดี กินหวาน’ หรือ ‘ถูกปาก’ แทนคำว่า ‘อร่อย’ ซึ่งปัจจุบันเรายังพอคุ้นหูคำเหล่านี้อยู่บ้างในกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น กลุ่มไททรงดำ, ไทเขิน (ขืน), ไทลื้อ ก็จะนิยมใช้คำว่า ‘อยู่ดีกินหวาน’ (ที่หากออกเสียงตามคนไทลื้อก็จะเป็น ‘อยู่ดี๊กิ๊นว้านนา’) ใช้ในเชิงทักทาย อวยพร คล้ายกับคำว่า ‘กินดีอยู่ดี’
แล้ว ‘อร่อย’ คำนี้มีที่มาอย่างไร?
เมื่อไม่นานนี้ เฟซบุ๊กเพจ รามัญคดี – MON Studies ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า แท้จริงแล้วรากศัพท์ของคำว่า ‘อร่อย’ มาจากคำว่า ‘โร่ะฮ์’ (ရဟ်) ในภาษามอญ ที่แปลว่า ‘รสชาติอร่อย’ นอกจากนี้ยังมีข้อสันนิษฐานเพิ่มด้วยว่าอาจมีรากศัพท์มาจากภาษาบาลีว่า ‘รส’ ที่อ่านว่า ระ-สะ (รากศัพท์มาจาก รสฺ) อย่างไรก็ตาม การออกเสียงพูดคำนี้ของคนมอญมีด้วยกันสองแบบ ถ้าพูดว่า ‘โร่ะฮ์’ ออกเสียงพยางค์เดียวก็จะใช้เป็นคำวิเศษณ์ (คำที่ใช้ประกอบหรือขยายคำนาม สรรพนาม คำกริยา) ส่วนอีกเสียงคือ ‘อะโร่ะฮ์’ ที่มีการเติม ‘อะ’ นำหน้าเพื่อให้ออกเสียงคล่องปาก กลายเป็นคำนามที่แปลว่า ‘ความอร่อย’ โดยการเติมคำนั้นเกิดจากธรรมชาติของภาษามอญที่ปกติแล้วจะไม่มีวรรณยุกต์แต่จะเน้นการใช้อารมณ์ผ่านเสียงสูง-ต่ำ ดังนั้นเวลาพูดจึงมักกร่อนเสียงคำที่มีหลายพยางค์หรืออักษรนำเสียงหนักด้วยเสียงอุปสรรคนำหน้า เพื่อเน้นอารมณ์น้ำเสียงผู้พูดและเน้นย้ำความหมายให้หนักแน่นขึ้นนั่นเอง
กลับมาที่วัฒนธรรมภาษาตระกูลไท/ลาว หรือคนไทยและคนลาว ที่ในสมัยก่อนยังไม่ค่อยใช้คำควบกล้ำ และเสียง ‘ร’ เท่าไหร่ จนกระทั่งรู้จักภาษาและการพูดของคนมอญที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่กลุ่มภาคกลาง ‘อร่อย’ จึงเป็นคำใหม่ที่เกิดจากการใช้คำควบกันสองภาษาต่างวัฒนธรรม โดยใช้หลักการคำซ้อน คือการนำคำต่างภาษาแต่ความหมายเดียวกันมาเรียงซ้อนกันเพื่อให้คนสองวัฒนธรรมเข้าใจร่วมกัน (สุพัตรา อุตมัง, 2557) เช่น พักเบรก (ไทย-อังกฤษ) หรือ แสวงหา (เขมร-ไทย) มากกว่านั้นยังพบว่าการใช้คำซ้อนไทยมอญยังปรากฏอยู่ในจารึกหลักที่ 1 หรือก็คือศิลาจารึกที่บันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์สมัยกรุงสุโขทัย โดยเฉพาะคำว่า ‘อร่อย’ โดยใจความมีอยู่ว่า
“เมื่อชั่วพ่อกู กูบำเรอแก่พ่อกู กูบำเรอแก่แม่กู กูได้ตัวเนื้อตัวปลา กูเอามาแก่พ่อกู กูได้หมากส้มหมากหวาน อันใดอันกินอร่อยกินดี กูเอามาแก่พ่อกู กูไปตีหนังวังช้างได้ กูเอามาแก่พ่อกู…”
ยังมีอีกหนึ่งคำที่คนมอญใช้ในเชิงให้ความหมายว่า ‘อร่อย’ นั่นคือ ‘แต่ะฮ์ เก่าะ’ (ဒးကအ်) ที่แปลว่า ‘ถูกคอ’ ซึ่งแปลว่า ‘อร่อย’ เหมือนกัน (และที่จริงก็ ‘ถูกคอ’ อีกแบบเหมือนกัน) แต่คนไทยจะพูดคำว่า ‘ถูกคอ’ ในความหมายว่าเข้าขากันได้ดีกับอีกฝ่าย
นอกจากนี้ คำว่า ‘อร่อย’ ที่เราใช้พูดกันจนติดปากแล้ว คนไทยภาคอื่นๆ อย่างภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคใต้ ก็ล้วนมีคำว่า ‘อร่อย’ ใช้เฉพาะตัว เช่นคำว่า ‘แซบ’ ‘ลำ’ และ ‘หรอย’ ดังนั้นคำว่า ‘อร่อย’ ของแต่ละภาคจึงฟังดูอร่อยและถึงพริกถึงขิงยิ่งกว่าเมื่อพูดด้วยคำพื้นถิ่นของแต่ละภาค
หวังว่าเมื่อรู้อย่างนี้แล้ว อาหารคำต่อไปของคุณอาจจะ ‘อร่อย’ ขึ้นกว่าที่เคยก็ได้นะ
อ้างอิง
- Facebook Page: รามัญคดี – MON Studies