ในภาวะที่ COVID-19 ระบาดหนักอีกรอบในปี 2021 ในระดับที่ตัวเลขทั้งผู้ป่วยและผู้ตายล้วนเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย ซึ่งภาวะการตายจาก COVID-19 เรียกได้ว่ามีความหลากหลายจาก “โรคประจำตัว” และการดูแลอย่างไม่ทั่วถึงของรัฐ
ทีนี้ ก็เลยเกิดคำถามตลกๆ ว่า แบบนี้การตายด้วย COVID-19 ถือเป็นการ “ตายตามธรรมชาติ” ไหม?
คำตอบสั้นๆ คือ “ใช่”
แต่คำตอบยาวๆ เราต้องเข้าใจก่อนว่าการ “ตายผิดธรรมชาติ” คืออะไร?

ตัวอย่างมรณบัตร | GoToKnow
การตายผิดธรรมชาติ
ก่อนจะเข้าใจว่า “ตายตามธรรมชาติ” คืออะไร เราต้องเข้าใจก่อนว่าสถาบันที่มี “คำถาม” ว่าเราตาย “ตามธรรมชาติ” หรือไม่ก็คือรัฐ
หลักๆ อธิบายง่ายๆ ก็คือ ทุกครั้งที่มีคนตาย รัฐจะมีคำถามเสมอว่านั่นคือ “ฆาตกรรม” หรือไม่? ถ้าเป็นฆาตกรรมก็ต้องหาฆาตกรมาดำเนินคดี เพราะนั่นคืออาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งต่อรัฐ
แล้วจะรู้ได้ไงว่าเป็น “ฆาตกรรม” หรือไม่?
คำตอบง่ายๆ ก็คือต้องชันสูตรศพ ซึ่งตรงนี้คอนเซ็ปต์ “ตายตามธรรมชาติ” และ “ตายผิดธรรมชาติ” เลยถูกสร้างขึ้น
อธิบายง่ายที่สุด “ตายตามธรรมชาติ” คือไม่ต้องมีการชันสูตรศพ ส่วน “ตายผิดธรรมชาติ” คือต้องชันสูตรศพ
โดยทั่วไป รัฐก็จะมีลิสต์เลยว่าอะไรคือการ “ตายผิดธรรมชาติ” บ้าง ซึ่งสำหรับไทยจะมีเขียนใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 148 และ 150 เลย อธิบายง่ายๆ ว่าการตายผิดธรรมชาติคือ
- ฆ่าตัวตาย
- ถูกมนุษย์ฆ่าตาย
- ถูกสัตว์ฆ่าตาย
- เกิดอุบัติเหตุตาย
- ตายแบบไม่ทราบสาเหตุ
- ตายด้วยน้ำมือเจ้าหน้าที่รัฐขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่
- ตายในการควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐขณะปฏิบัติหน้าที่
การตายแบบที่ว่ามาทั้งหมดถือว่า “ตายผิดธรรมชาติ” ทั้งนั้น และต้องชันสูตรศพเพื่อระบุ “สาเหตุการตาย” รวมไปจนถึงหาตัว “ฆาตกร” (ถ้ามี)
ซึ่งในทางกลับกัน การตายนอกจากที่กำหนดมาทั้งหมด ล้วนเป็นการตายตามธรรมชาติ
การตายตามธรรมชาติ
เชื่อว่าหลายๆ คนอาจเคยเข้าใจว่าการ “ตายตามธรรมชาติ” นั้นน่าจะเป็นคำคล้ายๆ “โรคชรา” ซึ่งก็คือ “แก่ตาย”
แต่ในความเป็นจริงการ “ตายตามธรรมชาติ” ความหมายกว้างมาก คือทุกอย่างที่ไม่นับเป็นการ “ตายผิดธรรมชาติ” ล้วนเป็นการ “ตายตามธรรมชาติ” หมด
ถ้าอธิบายง่ายๆ ก็คือ การตายด้วยสาเหตุพื้นฐานด้วยโรคติดต่อและไม่ติดต่อทั้งหมด ล้วนเป็นการ “ตายตามธรรมชาติ”
นี่หมายความว่า ไม่ว่าจะตายด้วยหัวใจวาย ตายด้วยภาวะเส้นเลือดในสมองอุดตัน ตายด้วยอีโบล่า ตายด้วยไข้หวัดใหญ่ ตายด้วยไข้เลือดออก ตายด้วยการตับแข็ง ตายด้วยมะเร็ง หรือตายด้วย COVID-19 ก็ล้วนเป็นการ “ตายตามธรรมชาติ” ทั้งสิ้นในมุมของรัฐ ซึ่งนั่นหมายความว่าจะไม่มีการชันสูตรศพ หรือรัฐจะไม่สงสัยว่ามีการฆาตกรรมเกิดขึ้นนั่นเอง
ทั้งนี้ โดยทั่วๆ ไป ผู้ที่จะตัดสินว่าการตายนั้นๆ “ตามธรรมชาติ” หรือ “ผิดธรรมชาติ” ก็คือหมอหรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐ ซึ่งในเคสที่คนเจ็บป่วยแล้วไปตายที่โรงพยาบาล โดยทั่วไปคนที่จะระบุสาเหตุการตายก็คือหมอที่เป็น “เจ้าของไข้” ซึ่งแบบนั้นทางหมอก็จะมีการออกเอกสารยืนยันสาเหตุการตายเพื่อให้นำไปออกมรณบัตรที่อำเภอหรือสำนักงานเขตได้เลย
หรือถ้าเป็นการตายที่บ้าน ก็ต้องมีการแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาออกเอกสารสาเหตุการตายก่อน และพอเอกสารออกมาจึงจะไปแจ้งตายและออกมรณบัตรได้ ซึ่งโดยทั่วไปถ้ามีประวัติความเจ็บป่วยอยู่ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขก็น่าจะทำการระบุว่าการตายเป็นการ “ตายตามธรรมชาติ”
ทั้งหมดนี้ คำตอบก็น่าจะชัดเจนว่าถ้าคนที่ไปตรวจ COVID-19 แล้วผลเป็นบวก แต่ไม่สามารถหาเตียงได้และสุดท้ายต้องตายที่บ้าน สิ่งที่เกิดขึ้นในสายตาของรัฐก็คงจะหนีไม่พ้นการเรียกความตายดังกล่าวว่าเป็น “การตายตามธรรมชาติ” นั่นเอง
ทั้งนี้ บางครั้งคำนี้ก็อาจเป็นคำที่สื่อใช้เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ตายและครอบครัวในกรณีที่ผู้ตายเป็นคนดังเช่นกัน ซึ่งคำในภาษาอังกฤษคือ Die of Natural Causes ถ้าสื่อรายงานแบบนี้ ก็แสดงว่าทางญาติๆ ไม่ต้องการเปิดเผยสาเหตุการตายโดยละเอียด เพราะในกรณีของโรคไม่ติดต่อ การเปิดเผยสาเหตุการตายของผู้ตายนั้นไม่ใช่แค่เปิดเผยโรคประจำตัวของผู้ตาย แต่ยังเปิดเผยโรคประจำตัวหรือความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ของลูกๆ ด้วยเป็นอย่างน้อย
และนั่นคือข้อมูลด้านสุขภาพที่อ่อนไหวมาก
อ้างอิง
- LiveScience. What Exactly Does It Mean to Die from ‘Natural Causes’? https://bit.ly/3eCa7qZ
- CNN. What does it mean to die of ‘natural causes’? https://cnn.it/3dW9DNg
- คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช. หลักการชันสูตรพลิกศพกรณี Suicide & Homicide. https://bit.ly/2QEN5b0
- สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่. ขั้นตอนการแจ้งตายในประเทศไทย. https://bit.ly/3eEoXNK