“มันน่าขยะแขยงเกินจะทนดูได้” ผู้กำกับสุดคลั่งอย่าง Oliver Stone ยังทน John Wick ไม่ไหว

“มันน่าขยะแขยงเกินจะทนดูได้” ผู้กำกับสุดคลั่งอย่าง Oliver Stone ยังทน John Wick ไม่ไหว

2 Min
590 Views
25 Jun 2023

ไม่ใช่เพียง มาร์ติน สกอร์เซซี หรือ เควนติน ทารันติโน เท่านั้น ที่แสดงอาการชิงชังโลกของหนังสมัยใหม่อย่างเห็นได้ชัด และล่าสุด โอลิเวอร์ สโตน ฟิล์มเมกเกอร์สายโหดก็เข้าร่วมสมาคมนี้เช่นกัน โดยครั้งนี้ไม่เพียงจักรวาลมาร์เวลที่โดนถล่มเท่านั้น แต่หนังชุดนักฆ่าหมาตายก็โดนหางเลขไปด้วย

โดยการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของนิตยสาร Vareity ผู้กำกับเจ้าของผลงานหนังสงครามเวียดนามที่สมจริงและเดือดดาล ไม่ว่าจะเป็น Platoon (1986), Born on the Fourth of July (1989) หรือหนังที่ขุดขุ้ยประวัติศาสตร์อย่าง JFK (1991) ไปจนถึงหนังวิพากษ์วิจารณ์สื่อแบบห้าวเป้งอย่าง Natural Born Killers (1994) ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นหนังที่ขึ้นชื่อว่าโหดทะลุจอจนทำให้สโตนคือหนึ่งในผู้กำกับที่มีลายเซ็นชัดเจนคนหนึ่งของวงการ

แต่กับหนังที่เดือดไม่แพ้กันอย่าง ‘John Wick’ ผู้กำกับรุ่นใหญ่ถึงกับส่ายหน้าให้ความรุนแรงของหนังเรื่องนี้ โดยเขาสารภาพว่าเขาไม่ใช่แฟนตัวยงของหนังแนวนี้เลย

“ผมได้ดู John Wick 4 บนเครื่องบิน ดูเสร็จก็รู้สึกเลยว่าหนังเรื่องนี้น่าขยะแขยงเกินกว่าจะเชื่อถือได้ แม่งโคตรน่าขยะแขยงเลยว่ะ ผมไม่รู้ว่าคนที่ชอบเรื่องนี้กำลังคิดอะไรอยู่ คือผมเคยดูซีรีส์ G.I. Joe ตอนเด็กๆ แต่คีอานู รีฟส์ กลับฆ่าคนสามสี่ร้อยคนใน John Wick ได้อย่างง่ายดาย และผมในฐานะทหารผ่านศึกที่ผ่านสมรภูมิเวียดนามมา ผมต้องบอกคุณเลยว่า ไม่มีใครจะมาเชื่อได้”

โอเค หลายคนอ่านถึงบรรทัดนี้ อาจจะกำลังกำหมัด รู้สึกว่าสโตนก็ไม่ต่างจากคนแก่หลงยุคคนหนึ่งที่รับในความสมัยใหม่ไม่ได้ และกระทำการปากแจ๋วเพื่อชวนทัวร์มาลง แต่ลองฟังเขาพูดอีกสักนิด

“คือผมรู้นะว่ามันเป็นหนัง แต่มันให้ความเป็นวิดีโอเกมมากกว่าหนัง มันขาดการเชื่อมต่อกับโลกความเป็นจริง ผู้ชมอาจชอบวิดีโอเกม แต่ผมโคตรเบื่อมัน รถมันจะพังกี่คัน? คุณจะใช้สตันต์ได้มากแค่ไหน? อะไรคือความแตกต่างระหว่าง ‘Fast and Furious’ กับหนังเรื่องอื่นๆ? ไม่ว่าจะเป็นตัวละครยอดมนุษย์จาก Marvel หรือเป็นแค่มนุษย์ที่มีความสามารถรอบด้านอย่าง John Wick ก็ไม่สร้างความแตกต่างแต่อย่างใด คือมันไม่น่าเชื่อสำหรับผม”

แต่ถึงจะกล่าวหารุนแรงอย่างไร หนังเหล่านี้ก็เป็นเพียงปลายเหตุเท่านั้น ปัญหาน่าจะมาจากภาพรวมและโครงสร้างของอุตสาหกรรมหนังมากกว่า

“ตอนที่พวกเขาสร้างหนังเหล่านี้ พวกเขาอาจจะคิดแค่ว่าเราจะทำการตลาดอย่างไร ใครจะไปดู? แน่นอนว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของการอนุมัติ แต่มันก็เป็นส่วนสำคัญที่พวกเขาโฟกัสกัน คุณต้องมีผลงานที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เพื่อให้ทำกำไรเพิ่มขึ้น และแน่นอนว่านั่นทำให้ต้นทุนของภาพยนตร์เรื่องนี้สูงขึ้น”

สำหรับสโตนแล้ว คงไม่ต่างกับผู้กำกับรุ่นเก๋าท่านอื่นๆ ที่มีความห่วงใยในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ถูกกลืนกินโดยแฟรนไชส์หนังจนทำให้หาความแตกต่างแทบไม่เจอ และตัววัดทางรายได้ที่ก็ทำให้สตูดิโอยิ่งลดทอนความสำคัญของหนังระดับกลางและเล็กเข้าไปอีก

ปัจจุบัน โอลิเวอร์ สโตน หันไปทำหนังสารคดี ล่าสุดที่ฉายในอเมริกาก็คือ ‘Nuclear Now’ ที่ว่าด้วยการแก้ปัญหาสภาวะโลกร้อนด้วยนิวเคลียร์

ส่วนนักดูหนังชาวไทยก็สามารถรับชมการชำระทางประวัติศาสตร์อีกครั้งของคดีเจเอฟเคใน JFK Revisited: Through the Looking Glass ที่ Doc Club and Pub และที่ House Samyan

อ้างอิง: https://movieweb.com/oliver-stone-slams-john-wick-marvel-not-believable/