4 Min

ทำความรู้จัก Carhartt แบรนด์แฟชั่นที่มีจุดกำเนิดจาก ‘เครื่องแต่งกายชนชั้นแรงงาน’ สู่ ‘เสื้อผ้าสายสตรีท’ ที่โด่งดังในวงการแฟชั่นทั่วโลก

4 Min
1593 Views
15 May 2024

เมื่อเอ่ยถึงชื่อแบรนด์ ‘Carhartt’ หลายคนคงนึกถึงเสื้อผ้าและผลิตภัณฑ์แนวสตรีทแวร์ที่คุ้นตากันในโลกวงการแฟชั่น แต่จุดกำเนิดและเจตนารมณ์ที่แท้จริง และยังไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปนับตั้งแต่แรกเริ่มสร้างแบนด์ นั่นก็คือความตั้งใจที่จะผลิตเครื่องแต่งกายสำหรับคนที่ทำงานหนัก

จากความตั้งใจของแบรนด์ที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของแบรนด์ Carhartt มีความแข็งแรงและทนทาน เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้สัมผัสและใช้งานเสื้อผ้าที่มีประสิทธิภาพและฟังก์ชันสูงสุดที่เอื้อต่อการทำงาน แม้ในปัจจุบันแบรนด์ Carhartt ก็ยังคงเจตนารมณ์ดั้งเดิมไว้ แต่เมื่อกระแสแฟชั่นของโลกเปลี่ยนไป จาก ‘เครื่องแต่งกายสำหรับงานหนัก’ ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็น ‘เครื่องแต่งกายแนวสตรีท’ ในที่สุด

แล้วอะไรคือจุดเปลี่ยนของแบรนด์เสื้อผ้าแรงงาน มาสู่แบรนด์สตรีทแวร์ในวงการแฟชั่นที่ไม่มีใครไม่รู้จักชื่อ Carhartt

หากจะพูดถึงประวัติแรกเริ่มจริงๆ ของ Carhartt คงต้องย้อนกลับไปกว่า 100 ปีก่อน และต้องกางปฏิทินกลับไปที่ปี 1882 เมื่อ ‘แฮมิลตัน คาร์ฮาร์ต’ (Hamilton Carhartt) ได้ลาออกจากโรงเรียนแล้วหันมาทำธุรกิจด้านค้าส่งเฟอร์นิเจอร์ หลังจากที่บริหารงานด้านเฟอร์นิเจอร์ได้พักหนึ่ง คาร์ฮาร์ตจึงได้เริ่มมาก่อตั้

แบรนด์เสื้อผ้าในปี 1889 และตั้งชื่อว่า Hamilton Carhartt & Company โดยมีออฟฟิศตั้งอยู่ที่เดียร์บอร์น (Dearborn) รัฐมิชิแกน สหรัฐอเมริกา แต่แบรนด์ Carhartt ในยุคแรกเริ่มกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า

ต่อมา แฮมิลตัน คาร์ฮาร์ท ได้สอบถามถึงความต้องการของคนงานรถไฟ และได้ออกแบบตามความต้องการจากเสียงคนทำงานจริงๆ พร้อมใช้สโลแกนใหม่ที่คำนึงถึงกลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ว่า ‘honest value for an honest dollar’ จากนั้นไม่นานบริษัทก็วางจำหน่ายชุดเอี๊ยมกันเปื้อน ที่มีชื่อรุ่นว่า ‘Carhartt Bib Overall’ เป็นสินค้าชิ้นแรกของบริษัท และจากนั้นเป็นต้นมา ชุดนี้ก็กลายเป็นเครื่องแบบมาตรฐานสำหรับสวมใส่ทำงานในเวลาต่อมา 

แม้ตั้งแต่ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นต้นมา แบรนด์ Carhartt  จะสนับสนุนเครื่องแบบและชุดทำงานให้แก่กองทัพสหรัฐอเมริกา แต่ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ผนวกกับเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (The Great Depression) ทำให้ Carhartt ต้องเผชิญปัญหาด้านรายได้จนเกือบจะล้มละลาย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความหลงใหลที่อยากให้ชนชั้นแรงงานได้มีเสื้อผ้าคุณภาพดีสวมใส่เวลาทำงาน ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ Carhartt กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง

ต่อมาในปี 1925 คาร์ฮาร์ตก็ได้ขยายโรงงานไปทั่วโลก เช่นที่เมืองลิเวอร์พูล สหราชอาณาจักร, แวนคูเวอร์ แคนาดา, ปารีส ฝรั่งเศส และนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นต้น และในปีนี้เอง คาร์ฮาร์ตก็ได้ตัดสินใจก่อตั้งบริษัทย่อยแห่งแรก นั่นคือ Hamilton Carhartt Junior มาเป็นบริษัทผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องแต่งกายสำหรับการทำงานของเพศชาย โดยเป็นผู้ผลิตทั้งชุดเอี๊ยม เสื้อเชิ้ต กางเกง และรองเท้า

นี่จึงเป็นการส่งสัญญาณจาก แฮมิลตัน คาร์ฮาร์ต ที่ทำให้เห็นว่าแบรนด์ของเขากำลังพยายามที่จะขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกไปให้ครอบคลุมกับกลุ่มผู้ใช้ในวงกว้างขึ้น นับตั้งแต่แบรนด์ Carhartt  ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่น 

อีก 7 ปีต่อมา เมื่อปี 1932 คาร์ฮาร์ตตัดสินใจสร้างโรงงานแห่งใหม่ในเออร์ไวน์ (Irvine) รัฐเคนตักกี สหรัฐอเมริกา และเปิดตัวแคมเปญใหม่ที่ใช้ชื่อว่า ‘Back to the Land’ เพื่อส่งเสียงแทนผู้คนจากสลัมหรือคนพื้นที่ห่างไกล ให้ได้มีงานทำ และมีสภาพการเงินที่ดีขึ้นจากช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่

แต่แล้วในปี 1937 แบรนด์ Carhartt ก็ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งใหญ่สุด นั่นคือผู้ก่อตั้งอย่าง แฮมิลตัน คาร์ฮาร์ต เสียชีวิต ทำให้ลูกชายของเขา ‘ไวลี คาร์ฮาร์ต’ (Wylie Carhartt) ต้องขึ้นมากุมบังเหียนและเข้ามาสานต่อบริษัทที่พ่อได้สร้างไว้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้นำใหม่ก็ยังคงไว้ซึ่งความเป็น Carhartt ที่มีหัวใจเป็นมิตรแท้ของคนทำงานไว้ดังเดิม

ต่อมาในช่วงปี 1980-1990 แบรนด์ Carhartt เริ่มเป็นที่นิยมในแวดวงอื่นนอกเหนือจากคนทำงาน รวมถึงเริ่มฮิตกันในกลุ่มคนเล่นสเก็ตบอร์ด กราฟฟิตี และฮิปฮอป มีศิลปินฮิปฮอปหรือแร็ปเปอร์มากมาย อย่าง 2Pac, Eazy-E, Nas และ Naughty by Nature เริ่มที่จะสวมใส่เสื้อผ้าและใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จาก แบรนด์ Carhartt ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการสวมใส่เพื่อการถ่ายทำมิวสิควิดีโอและการแสดงสด

นี่จึงเป็นอีก ‘แรงขับเคลื่อน’ ที่ทำให้ แบรนด์ Carhartt โด่งดังขึ้นในหมู่วัฒนธรรมสมัยใหม่จนถึงปัจจุบัน 

และอีกหนึ่งความสำเร็จที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้ เมื่อพูดถึงแบรนด์ Carhartt ในยุคที่เริ่มเป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์แฟชั่น นั่นคือ คอลเลกชัน ‘WIP (Work In Progress)’ ในช่วงปี 1994 ที่เป็นคอลเลกชันที่จัดจำหน่ายและส่งออกผลิตภัณฑ์ไปขายภายนอกสหรัฐอเมริกา โดยส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปและเอเชีย

แน่นอนว่า WIP เป็นคอลเลกชันที่ได้เสียงตอบรับและคำชื่นชมอย่างล้นหลามในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบแฟชั่นมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม แบรนด์ Carhartt ก็ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้อยู่ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้คอลเลกชัน WIP โด่งดังเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว และทำให้แบรนด์ Carhartt ได้มีโอกาสร่วมสร้างสรรค์เสื้อผ้าแนวสตรีทแวร์ร่วมกับแบรนด์สตรีทแวร์ชื่อดังของโลก อย่าง Supreme และ A.P.C. 

นี่จึงเป็นความเป็นมาของแบรนด์เสื้อแรงงานสู่แบรนด์เสื้อผ้าสตรีท ที่เราอาจเคยเห็นหรือเคยสวมใส่ในชีวิตประจำวัน ไม่เพียงเท่านั้น เรายังเห็นแบรนด์ Carhartt ปรากฏอยู่ในภาพยนตร์ชื่อดังต่างๆ อย่าง ‘Interstellar’ อีกทั้งยังเป็น Iconic ของแบรนด์เสื้อผ้าแนวสตรีท หรือกีฬาเอ็กซ์ตรีมอย่างสเก็ตบอร์ด หรือจักรยาน BMX อีกด้วย ทำให้แบรนด์ Carhartt เองได้เข้าไปแฝงตัวอยู่กับผู้คนมากมายหลากหลายอาชีพ และกลายเป็นอีกหนึ่งแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

อ้างอิง