Select Paragraph To Read
- สมมติฐานแรก ดิบๆ ง่ายๆ เลยคือ จริงๆ มันอาจเป็นแค่ ‘สิ่งหลงเหลือทางวิวัฒนาการ’
- สมมติฐานที่สอง ‘ขนตูด’ มีเพื่อทำให้ ‘กลิ่นตูด’ แพร่ไปได้ไกล
- สมมติฐานที่สาม ‘ขนตูด’ เอาไว้ลดการเสียดสี
ความรู้ทางวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยเป็น ‘ความรู้ที่ไม่มีประโยชน์’ แต่บางทีความรู้พวกนี้ก็เป็นไปเพื่อตอบสนองแรงผลักดันในการอยากรู้มาที่ไปของสิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวของมนุษย์ และปัจจุบันวิทยาศาสตร์ก็มีหน้าที่จะจัดหาคำอธิบายเหล่านี้ให้กับมนุษยชาติแทนเหล่า ‘ตำนาน’ ต่างๆ ที่เคยทำหน้าที่นี้ให้กับมนุษย์สมัยก่อน
ในบรรดาความรู้พวกนี้ สิ่งที่ดูจะ ‘ไร้ประโยชน์’ ที่สุด แต่คนกลับมีกันมากมาย ก็น่าจะเป็นคำถามเดียวกับตัวมนุษย์เองโดยเฉพาะในส่วนของอวัยวะต่างๆ ที่ดูไม่มีประโยชน์ใช้สอยใดๆ และระดับความ ‘ไร้ประโยชน์’ ของมันก็อาจถึงระดับที่ในโลกนี้มันไม่มีงานวิจัยใดๆ จะตอบได้ และเราก็ต้องเดากันตาม ‘หลักวิทยาศาสตร์’
‘ความรู้ที่ไม่มีประโยชน์’ ที่เราอยากจะเอามาเล่าให้ฟังกันวันนี้ ก็คือ ประเด็นว่ามนุษย์นั้นจะมี ‘ขนตูด’ หรือขนบริเวณก้นไปทำไมกัน นี่เป็นประเด็นที่ยูทูบเบอร์ชื่อดังอย่าง ‘SciShow’ ตัดสินใจลุกขึ้นมาหาคำตอบ และคนก็ดูจะสนใจประเด็นอันไม่มีประโยชน์ใดๆ นี้เสียด้วย (ยอดวิววิดีโอทะลุถึงหลักล้าน นับว่าสูงมากสำหรับประเด็นอะไรที่เป็น ‘วิทยาศาสตร์’ แบบนี้)
แน่นอนว่าไม่มีงานวิจัยใดๆ มารองรับ มันเลยมีได้แต่ ‘สมมติฐาน’ ว่าทำไมมนุษย์ถึงมี ‘ขนตูด’ หรือพูดให้ตรงกว่านั้น ทำไมมนุษย์ถึงไม่สูญเสีย ‘ขนตูด’ ไปในกระบวนการทางวิวัฒนาการที่ทำให้มนุษย์สูญเสียขนแทบจะทั่วร่างกายไปหมด
สมมติฐานแรก ดิบๆ ง่ายๆ เลยคือ จริงๆ มันอาจเป็นแค่ ‘สิ่งหลงเหลือทางวิวัฒนาการ’
กล่าวคือไม่มีประโยชน์ใดๆ แต่ก็ไม่มีแรงบีบคั้นทางวิวัฒนาการใดๆ ที่จะทำให้เราไม่ต้องมี พูดง่ายๆ คือ จะมีหรือไม่มีขนตูด โอกาสมีชีวิตรอดและสืบทอดเผ่าพันธุ์ก็ไม่ได้ต่างไป ดังนั้นมันก็เลยยังค้างอยู่กับมนุษย์
คำอธิบายนี้ดิบมาก กำปั้นทุบดินมาก เรียกได้ว่ามันจะอธิบายอะไรที่ดู ‘ไร้ประโยชน์ในทางวิวัฒนาการ’ แบบนี้ก็ได้หมด ดังนั้นหลายๆ คนไม่พอใจ เพราะมันง่ายไปที่จะอธิบายแบบนี้ มันเลยนำมาสู่สมมติฐานอื่นๆ ว่าจริงๆ มันอาจ มีประโยชน์ก็ได้
สมมติฐานที่สอง ‘ขนตูด’ มีเพื่อทำให้ ‘กลิ่นตูด’ แพร่ไปได้ไกล
อันนี้ อาจฟังดูแหยะๆ ในมาตรฐานมนุษย์ปัจจุบัน แต่ย้อนไปในอดีตก่อนมีอารยธรรมและภาษา มนุษย์คือสัตว์ชนิดหนึ่งดีๆ นี่เอง และ ‘กลิ่น’ ก็เป็นวิธีการสื่อสารที่ทรงพลังในอาณาจักรสัตว์ คือมันเอาไว้บอกอาณาเขต
หรือพูดอีกแบบ คนสมัยก่อนน่าจะเอา ‘ตูด’ ไปถูโน่นถูนี่เพื่อทิ้งกลิ่นไว้เพื่อประกาศอาณาเขต แบบที่สัตว์ต่างๆ มันทำกันเป็นปกติ (ถ้าใครเลี้ยงหมาแมวก็คงนึกออกดีว่าเจ้าพวกนี้จะชอบเอา ‘ตูด’ ของมันไปถูโน่นนี่เพื่อสร้างกลิ่นมันคุ้นเคย)
แน่นอนนี่ก็ไม่ใช่ไม่มีข้อโต้แย้ง มันเลยนะมาสู่สมมติฐานต่อไป
สมมติฐานที่สาม ‘ขนตูด’ เอาไว้ลดการเสียดสี
อันนี้ง่ายๆ เลย และมันยืมคำอธิบายมาจากคำอธิบายคลาสสิคกว่า ทำไมมนุษย์ต้องมีขนรักแร้และขนเพชร หรือในร่างกายมนุษย์ บริเวณที่ผิวหนังบอบบางและเสียดสีได้ง่าย มันจึงเป็นเรื่องปกติเลยที่จะมี ‘ขน’ เอาไว้ลดการเสียดสี และไม่ใช่แค่นั้น การมีขนตรงนั้นคือการมีเหงื่อ หมายความว่าจะมีน้ำและน้ำมันจำนวนมากในบริเวณนั้น เพื่อทำให้บริเวณนั้นไม่เกิดการเสียดสีจนคัน
ดังนั้นในแง่นี้ เรามีอย่างต่ำๆ 3 คำอธิบายว่า ทำไมมนุษย์ต้องมี ‘ขนตูด’ ซึ่งก็น่าจะเรียกได้ว่าพอหอมปากหอมคอแล้วสำหรับประเด็นในทางวิทยาศาสตร์ที่ดู ‘ไร้สาระ’ ระดับไม่มีงานวิจัย และก็ต้องมาใช้ทฤษฎีวิทยาศาสตร์มาคาดเดากันฮาๆ แบบนี้
อ้างอิง: IFLS. Why Do Humans Have Butt Hair? https://bit.ly/3HyVqmp