4 Min

รู้ไหม ‘มื้อเช้า’ ไม่ใช่ ‘มื้อที่สำคัญที่สุด’ เมื่อ ‘สารอาหาร’ สำคัญกว่ามื้ออาหาร

4 Min
2335 Views
22 Jun 2021

Select Paragraph To Read

  • ใครบอกว่ากินมื้อเช้า = สุขภาพดี
  • อาหารมื้อไหนสำคัญที่สุด
  • กินมื้อไหนอาจไม่สำคัญเท่าได้ “สารอาหาร” เพียงพอหรือไม่

โลกนี้เต็มไปด้วยความเชื่อ’ ที่เรารับสืบทอดกันมา ซึ่งความเชื่อในยุคสมัยใหม่ที่ร้ายกว่าเก่าก็คือ ความเชื่อหลายๆ อย่างไม่ได้มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แน่นหนารองรับ และมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด’ คือหนึ่งในความเชื่อนั้น

การเคลมว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดเริ่มต้นตอนไหนไม่มีบันทึกแน่ชัด แม้ว่าจะมีงานวิจัย’ จำนวนไม่น้อยสนับสนุนความเชื่อนี้ และชี้ว่าคนที่กินมื้อเช้า’ จะมีสุขภาพดีกว่าคนที่ไม่กินมื้อเช้า’ แต่งานวิจัยพวกนี้ก็เป็นงานเชิงสังเกตที่ดูจะหาความเชื่อมโยง’ (correlation) มากกว่าความสัมพันธ์เชิงเหตุผล” (causation)

กล่าวคือ คนที่กินมื้อเช้า’ อาจมีปัจจัยบางอย่างร่วมกัน ที่ทำให้คนกลุ่มนี้สุขภาพดีกว่าคนที่ไม่กิน

ใครบอกว่ากินมื้อเช้า = สุขภาพดี

เอาล่ะ พอมางานเชิงทดลอง โดยเอาคนกลุ่มหนึ่งมาทดลอง แบ่งเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มหนึ่งกิน กลุ่มหนึ่งไม่กิน ก็พบว่าอย่างน้อยๆ ผลในระยะสั้นที่วัดได้ คนที่ไม่กินมื้อเช้ามีสุขภาพที่ดีกว่าด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นในเชิงการลดน้ำหนักหรือการบริหารน้ำตาลในเลือด (งานทดลองทำนองนี้มีหลายชิ้น เราสรุปรวมๆ ให้ฟัง)

ผลทดลองข้างต้นเป็นการหักล้างความเชื่อที่ว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด’ แบบที่ต้องกินดีที่สุด’ หรือขาดไม่ได้’ นั้นไม่ใช่เรื่องจริงแน่ๆ

หรือให้ตรงกว่านั้นก็คือ ด้วยหลักฐานที่มีและขัดแย้งกันระดับนี้ ทำให้เราไม่สามารถจะสรุปได้

ดังนั้นข้อสรุปเบื้องต้นก็คือ การไม่กินมื้อเช้าไม่ได้คอขาดบาดตายแน่ๆ และจริงๆ คนอังกฤษถึง 1 ใน 3 และคนอเมริกันถึง 1 ใน 4 ก็ไม่ได้กินมื้อเช้าเหมือนกัน ดังนั้นการไม่กินมื้อเช้าเป็นเรื่องปกติมากๆ

อาหารมื้อไหนสำคัญที่สุด

ทีนี้ คำถามต่อมา แล้วมื้อไหนที่สำคัญที่สุด’ กันล่ะ?

คำตอบตรงนี้อาจต้องกลับไปนิยามความสำคัญเพราะถ้านิยามอยู่ที่ว่าเป็นมื้อที่ยังไงก็ต้องกิน มื้อที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นมื้อเที่ยง

แต่ถ้า สำคัญ’ ที่ว่าหมายถึงมื้อที่ถ้ากินอย่างไม่เหมาะสม’ จะสร้างหายนะให้กับร่างกายได้มาก มันคือ ‘มื้อเย็น’

ทำไมมื้อเย็นถึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ?

หลักๆ คือมื้อเย็นเป็นมื้อสุดท้ายที่เรากินของวัน ถ้าเรากินใกล้เวลานอนเกินไป สิ่งที่เรากินเข้าไปก็มีแนวโน้มจะถูกสะสมและไม่ได้ใช้ ซึ่งนั่นก็ไม่ดีต่อร่างกายแน่ๆ

ในทางกลับกัน ถ้าจะกินอาหารไปแล้วให้ร่างกายได้ใช้มากที่สุด แบบใช้เยอะๆ หลักๆ เขาก็จะบอกว่าต้องเป็นมื้อเช้า เพราะร่างกายจะใช้ทั้งวัน’

อ่านแบบนี้ ก็อาจคิดว่า เอแบบนี้มื้อเช้า’ ก็สำคัญสิ

องค์ความรู้ที่เรามีชัดเจนก็คือ ช่วงเช้าร่างกายสามารถบริหารจัดการน้ำตาลได้ดีกว่าตอนเย็น ซึ่งในทางปฏิบัติ อธิบายง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราจะกินขนมหวาน การกินตอนเย็นน่าจะทำให้เราอ้วนแน่ๆ แต่ถ้ากินตอนเช้า ระบบการใช้พลังงานของร่างกายดีกว่า ร่างกายอาจเอาน้ำตาลไปใช้หมด ไม่สะสม ทำให้เราไม่อ้วน (อันนี้พูดแบบง่ายมากๆ)

ประเด็นคือ ถ้าพูดในทางสุขภาพ เรื่องนี้ไม่ใช่อยู่ที่เราควรจะกินขนมหวาน’ ในเวลาไหน เพราะเราไม่ควรจะกินเลย เนื่องจากขนมหวานไม่มีประโยชน์’ ต่อร่างกายเท่าไร

และการไม่กินอะไรตอนมื้อเช้าเลยอาจดีกว่านั้นก็ได้ ถ้าเราเชื่อแนวคิด Intermittent Fasting หรือเชื่อในการกินแต่มื้อกลางวันกับมื้อเย็น

ถึงตรงนี้หลายคนอาจรู้สึกเวียนหัวมาก เพราะความรู้โภชนาการนั้นหลากหลาย แต่นี่ก็คือเรื่องปกติ เพราะความรู้ในโลกทางโภชนาการไม่ได้อยู่นิ่ง แต่มีการพัฒนาไปเรื่อยๆ ไม่มีข้อสรุปตายตัว และมีข้อเสนอเชิงปฏิบัติที่แย้งกันไปมา

ถ้าจะจำง่ายๆ ก็จำเอาไว้แค่ว่าไม่กินมื้อเช้า ก็ไม่ได้คอขาดบาดตาย

กินมื้อไหนอาจไม่สำคัญเท่าได้ “สารอาหาร” เพียงพอหรือไม่

สิ่งที่น่าจะเป็นประเด็นมากกว่าจะกินกี่มื้อ? จะเว้นมื้อไหน? ก็คือการที่เรากินเข้าไปรวมๆ ทั้งวัน เราได้รับสารอาหารเพียงพอ’ สำหรับร่างกายหรือไม่

เพราะข้อได้เปรียบของการกินหลายมื้อก็คือสิ่งที่กินเข้าไปมักหลากหลาย และมีโอกาสที่จะกินไปมั่วๆ แล้วได้สารอาหารครบมากกว่าคนที่กินน้อยมื้อกว่า

หรือพูดอีกแบบ คนยิ่งกินน้อย ก็ยิ่งต้องมีความรู้’ ในการจัดการอาหารให้ตัวเองได้สารอาหารครบ

แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เข้าใจกันง่ายๆ เพราะที่เราเรียกๆ ว่าสารอาหาร’ ที่ร่างกายต้องการ จริงๆ สารอาหารหลายอย่างร่างกายผลิตเองได้ แต่บางอยางก็ผลิตเองไม่ได้ (เช่น ร่างกายเราผลิตวิตามิน C เองไม่ได้ แต่ผลิตคอเลสเตอรอลเองได้คอเลสเตอรอลนี่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย เรื่องนี้หลายคนอาจไม่รู้) ดังนั้น เราจึงควรจะไปโฟกัสที่สิ่งที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้เป็นหลัก

ปัญหาคือ คนโดยทั่วๆ ไปไม่ได้มีความเข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้น การกินสุ่มๆ ไปเยอะๆ เลยทำให้เรามีโอกาสจะได้สารอาหารครบ’ มากกว่า และนี่ก็อาจเป็นที่มาว่าทำไมผู้ใหญ่ชอบสอนเด็กว่ามื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด’ เพราะสำหรับมนุษย์ในฐานะสิ่งมีชีวิตแล้ว การกินไปมั่วๆ ให้ได้สารอาหารครบนั้นดูจะปลอดภัยกว่าการลดปริมาณอาหารจนเสี่ยงภาวะขาดสารอาหารบางชนิด

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สุดท้ายแล้วสิ่งที่พึ่งระวังพวกคำแนะนำด้านอาหารที่มีกันมาตั้งแต่ผู้เฒ่าผู้แก่ก็คือไลฟ์สไตล์’ เราไม่ได้เหมือนพวกเขา

เราไม่ได้ตื่นเช้ามืดและทำงานใช้แรงงานหนักๆ ในไร่นาจนถึงเที่ยง และตอนบ่ายก็ใช้แรงงานต่อ ถ้าแบบนั้นน่ะ ไม่กินมื้อเช้าก็จะไม่มีแรงทำงาน

แต่พอหันมามองปัจจุบัน คนส่วนใหญ่เป็นมนุษย์ออฟฟิศนั่งเก้าอี้ ที่อยู่ในเมืองที่ไม่เอื้อให้คนเดินอย่างกรุงเทพฯ เรายิ่งได้เดินน้อย และวันๆ เราไม่ได้ใช้แรงงานเยอะแน่ๆ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วว่าสไตล์อาหารแบบยุคของคนที่ต้องใช้แรงงานทางกายภาพทั้งวันจะเหมาะกับเราเหมือนที่จะเหมาะกับพวกเขา

ไม่ว่านั่นจะเป็นเรื่องอาหารมื้อเช้าหรือมื้อไหนๆ ก็ตาม

อ้างอิง